รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จำเป็นต้องใช้ยางเฉพาะไหม หรือใช้ยางทั่วไปดี

การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้ผู้ใช้รถหลายคนเกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับการดูแลรักษาและอะไหล่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง “ยางรถยนต์” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดด้านความปลอดภัย ผู้ขับขี่หลายคนสงสัยว่ารถ EV ที่ตนเองขับนั้น จำเป็นต้องใช้ยางที่ออกแบบมาสำหรับ EV โดยเฉพาะหรือไม่ หรือสามารถใช้ยางรถยนต์ทั่วไปได้ วันนี้เราจะมาสรุปคำตอบให้เอง

รถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถน้ำมันอย่างไรในเชิงเทคนิค

ความแตกต่างทางโครงสร้างและกลไกการทำงานของรถ EV ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของยาง ยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์สันดาปอาจไม่สามารถรองรับกับคุณลักษณะเฉพาะของรถ EV ได้อย่างเต็มที่ โดยมีปัจจัยหลัก 2 ประการที่ยางต้องรับมือ ได้แก่

น้ำหนักแบตเตอรี่ที่มากกว่า

ชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบที่มีน้ำหนักมากที่สุดของตัวรถ ทำให้น้ำหนักรวมของรถ EV สูงกว่ารถยนต์น้ำมันในขนาดเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ยางต้องรับภาระที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น โครงสร้างยางจึงต้องแข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักและคงรูปทรงได้อย่างปลอดภัย

แรงบิดมหาศาลที่มาทันทีทันใด

รถยนต์ไฟฟ้ามีจุดเด่นคือแรงบิด (Torque) ที่สามารถส่งไปยังล้อได้อย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาที ซึ่งแตกต่างจากรถน้ำมันที่ต้องใช้เวลาในการสร้างรอบเครื่องยนต์ แรงบิดที่สูงและเกิดขึ้นทันทีนี้ทำให้ดอกยางรับแรงเสียดสีเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ยางรถ EV มีแนวโน้มที่จะสึกหรอเร็วกว่ายางรถยนต์ทั่วไปมากถึง 20% หากใช้ยางที่ไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับมือกับคุณสมบัตินี้

ยางรถไฟฟ้า EV คืออะไร จำเป็นมากน้อยแค่ไหน

ยางรถไฟฟ้า EV คือยางที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขและรองรับปัญหาทางเทคนิคเฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ แม้ว่ารถ EV จะสามารถใส่ยางทั่วไปได้ในทางเทคนิค แต่ยางทั่วไปนั้นไม่ได้ถูกปรับโครงสร้างและเนื้อยางมาเพื่อรองรับน้ำหนักและแรงบิดมหาศาล การใช้ยาง EV โดยเฉพาะจึงมีความจำเป็น หากคุณต้องการให้รถของคุณมีสมรรถนะที่สมบูรณ์ที่สุด ปลอดภัย และขับขี่ได้ในระยะทาง (Range) ที่ผู้ผลิตรถยนต์เคลมไว้

คุณสมบัติหลัก 4 เรื่องที่ยาง EV ต้องมี

ผู้ผลิตยางชั้นนำได้พัฒนาเทคโนโลยีพิเศษเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของรถ EV โดยคุณสมบัติหลักที่ยาง EV ต้องมี ได้แก่

การรับน้ำหนักที่สูงขึ้น (High Load Capacity)

ยาง EV ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างภายในที่แข็งแกร่งกว่า โดยเฉพาะบริเวณแก้มยาง เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักของชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ได้อย่างมั่นคง และรักษาเสถียรภาพของรถในขณะเข้าโค้งหรือใช้ความเร็วสูง

แรงต้านทานการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance)

เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งมีจำกัด ยาง EV จึงต้องมีการออกแบบลายดอกยางและใช้สารประกอบพิเศษในเนื้อยาง เพื่อลดแรงเสียดทานขณะหมุนกับพื้นถนน การลดแรงต้านทานการหมุนนี้จะช่วยให้รถใช้พลังงานน้อยลงต่อการวิ่งหนึ่งกิโลเมตร ซึ่งส่งผลให้ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จเพิ่มขึ้น

การลดเสียงรบกวน (Noise Reduction)

รถยนต์ไฟฟ้ามีห้องโดยสารที่เงียบสนิทเนื่องจากไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ดังนั้น เสียงรบกวนที่เกิดจากยางบดกับพื้นถนนจึงกลายเป็นปัญหาที่สังเกตได้ง่าย ยาง EV ส่วนใหญ่จึงติดตั้งเทคโนโลยีซับเสียง เช่น ชั้นโฟมดูดซับเสียงไว้ที่ด้านในของยาง เพื่อลดเสียงที่สะท้อนเข้ามาในห้องโดยสาร

ความทนทานต่อแรงบิดสูง (Durability)

เพื่อรับมือกับแรงบิดฉับพลัน(Instant Torque) ที่ทำให้ยางสึกหรอเร็ว เนื้อยางของยาง EV จึงมีสูตรผสมพิเศษที่เพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอมากกว่ายางทั่วไป สารประกอบเหล่านี้ช่วยยืดอายุการใช้งานดอกยางให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานยางรถยนต์น้ำมันมากที่สุด

การเลือกใช้ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่แค่เรื่องของความเข้ากันได้ แต่คือการเลือกสมรรถนะและความปลอดภัยที่แท้จริง และหากคุณกำลังมองหายางสำหรับรถไฟฟ้าคุณภาพดี มีมาตรฐานระดับโลก

Pirelli ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยียางรถยนต์สมรรถนะสูง ได้พัฒนา Pirelli Elect™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่ผนวกคุณสมบัติทั้งหมดของยาง EV เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง High Load ที่แข็งแกร่ง การออกแบบที่เน้น Low Rolling Resistance เพื่อระยะทางที่ไกลขึ้น หรือเทคโนโลยี Pirelli Noise Cancelling System (PNCS) ที่ช่วยลดเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิภาพในการใช้งาน

หากคุณสนใจสั่งซื้อยางตอนนี้ รับโปรโมชั่นพิเศษทันที สามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ผ่านร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B–Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada และ Tiktok Shop พร้อมรับประกันคุณภาพ 1 ปีหรือ 25,000 กม. ในกรณีบาด บวม แตก เคลมฟรีทันที (เมื่อลงทะเบียนรับประกัน)