ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา VS ตลอดชีพ เลือกแบบไหนดี ?
ในฐานะเสาหลักของบ้าน สิ่งหนึ่งที่หลายคนให้ความสำคัญคือการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง และประกันชีวิต คือเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี แต่พอจะเริ่มศึกษาจริงๆ ก็อาจจะสับสนว่าควรเลือกแบบไหนดีระหว่าง “ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา” กับ “ประกันชีวิตตลอดชีพ” เพราะแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป
เป้าหมายคืออะไร ? สั้นหรือยาว ?
ความแตกต่างพื้นฐานที่สุดของทั้งสองแบบนี้คือ “ระยะเวลาความคุ้มครอง”
ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 10 ปี, 20 ปี, หรือจนถึงอายุ 60 ปี เหมาะกับคนที่ต้องการคุ้มครองภาระหนี้สินที่มีระยะเวลาแน่นอน เช่น หนี้บ้านหรือหนี้รถยนต์ หรือต้องการสร้างหลักประกันให้ลูกหลานในขณะที่ยังอยู่ในวัยเรียน จุดเด่นของประกันประเภทนี้คือเบี้ยประกันที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับวงเงินความคุ้มครองที่สูง ทำให้เราสามารถซื้อความคุ้มครองที่คุ้มค่าได้ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงนัก แต่ข้อจำกัดคือ เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงทันที
ประกันชีวิตตลอดชีพ (Whole Life Insurance) ให้ความคุ้มครองยาวนานตลอดชีวิต (หรือจนถึงอายุที่กำหนด เช่น 99 ปี) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างมรดกไว้ให้ลูกหลาน หรือต้องการมีหลักประกันที่ครอบคลุมไปจนถึงบั้นปลายชีวิต ข้อดีคือไม่ต้องกังวลเรื่องการต่ออายุกรมธรรม์และเบี้ยประกันจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่เบี้ยประกันจะสูงกว่าแบบชั่วระยะเวลามากพอสมควร
เบี้ยประกัน vs. ความคุ้มครอง
ในมุมมองของความคุ้มค่าด้านการเงิน ประกันชีวิตชั่วระยะเวลาถือว่ามีความคุ้มค่าสูงมากในแง่ของ “เบี้ยประกันต่อความคุ้มครอง” เพราะจ่ายเบี้ยไม่มากแต่ได้วงเงินสูง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองแบบจัดเต็มในช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต
ในทางกลับกัน ประกันชีวิตตลอดชีพ แม้เบี้ยประกันจะสูงกว่า แต่ก็ให้ความคุ้มครองที่ยาวนานและมีโอกาสได้รับเงินคืนเมื่อครบสัญญาหรือเวนคืนกรมธรรม์ด้วย ซึ่งในบางกรณีก็อาจจะถือเป็นการออมเงินไปในตัว แต่ต้องแลกมาด้วยการจ่ายเบี้ยประกันที่สูงกว่าตลอดอายุสัญญา
เลือกแบบไหนดีในแต่ละช่วงชีวิต ?
ไม่มีคำตอบตายตัวว่าแบบไหนดีกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความต้องการของแต่ละคนครับ
ในวัยสร้างตัว (25-40 ปี) ส่วนใหญ่เป็นช่วงที่มีภาระหนี้สินและเป็นวัยที่ลูกยังเล็ก การเลือกซื้อประกันชีวิตชั่วระยะเวลาในวงเงินสูง ๆ เพื่อคุ้มครองหนี้สินและสร้างหลักประกันให้ครอบครัว เบี้ยประกันไม่สูงเกินไป ทำให้ไม่กระทบกับสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละเดือน
วัยกลางคน (40-55 ปี) ในช่วงนี้ภาระหนี้สินอาจจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ก็ยังคงต้องการสร้างหลักประกันไว้สำหรับชีวิตบั้นปลาย การพิจารณาซื้อประกันชีวิตตลอดชีพเพิ่มเติมอาจเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อเป็นมรดกหรือเป็นเงินสำรองให้กับลูกหลาน
การเลือกประกันชีวิตไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แค่ต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า “เราต้องการความคุ้มครองไปเพื่ออะไร และเป็นระยะเวลาเท่าไหร่” ถ้าต้องการคุ้มครองแค่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตเพื่อปิดความเสี่ยงเรื่องภาระหนี้สินหรือการศึกษาของลูกหลาน ประกันชีวิตชั่วระยะเวลาก็เป็นคำตอบที่ดี แต่ถ้าต้องการหลักประกันที่ครอบคลุมไปตลอดชีวิตและเพื่อส่งต่อมรดก แบบตลอดชีพก็จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า