Step by Step ข้อควรรู้ก่อนเปิด ธุรกิจร้านขายดอกไม้

ธุรกิจ บางอย่างก็เป็นเรื่องความสามารถเฉพาะทางหรือบางทีก็ต้องมาจากความรักและชอบถึงจะลงมือทำธุรกิจนั่นๆให้ประสบความสำเร็จได้

ธุรกิจร้านขายดอกไม้เองก็เช่นกันว่ากันว่านี่คือธุรกิจที่สวยงามและคุณผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มีความฝันในการเปิดกิจการประเภทนี้แต่เพียงแค่ใจรักหรือชอบการจัดดอกไม้คงเอามาเป็นหลักปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมนั้นคงยาก กระบวนการและองค์ประกอบกว่าจะเป็นธุรกิจร้านจัดดอกไม้ได้นั้น จึงเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนจะต้องเรียนรู้เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

www.ThaiSMEsCenter.com ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านศูนย์รวมอาชีพมากที่สุดในประเทศไทยจึงขอเสนอแนวทางและหลักการเกี่ยวกับการเปิดร้านขายดอกไม้ว่าหากใจรักและอยากทำธุรกิจนี้อย่างจริงจังเราต้องเริ่มจากอะไรกันก่อนบ้าง

ธุรกิจร้านขายดอกไม้

แน่นอนว่าพื้นฐานของคนที่อยากเปิดธุรกิจร้านขายดอกไม้ต้องมีคือใจรักในการจัดและตกแต่งดอกไม้ให้สวยงามจึงต้องมีความรู้ทั้งเรื่องชื่อ ประเภท ข้อจำกัดของดอกไม้ว่าชนิดไหนจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้สามารถเป็นดอกไม้ที่สวยงามเพิ่มมูลค่าในตัวเองขึ้นมาได้ทั้งนี้การเปิดธุรกิจร้านขายดอกไม้เราก็ต้องเลือกประเภทให้เหมาะสมกับตัวเราเองด้วยเช่นกัน

1.รับดอกไม้มาขายแบบง่ายๆ

เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเงินทุนมากนักบวกกับที่ยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับดอกไม้สักเท่าไหร่ แม้จะดูเหมือนการซื้อมาขายไปไม่ได้เพิ่มมูลค่ามากมายแต่หากเป็นเทศกาลสำคัญรูปแบบนี้ก็ทำเงินได้อย่างดีเช่นกัน

2.ขายดอกไม้และรับจัดช่อดอกไม้

เป็นขั้นที่พัฒนามาอีกระดับหมายถึงอาจมีเงินทุนและสะสมความรู้ได้มากพอ การรับจัดช่อดอกไม้คือการเพิ่มมูลค่าให้ดอกไม้ที่ราคาไม่สูงมากแต่เมื่อรวมเป็นช่อสามารถกำหนดราคาสูงได้อย่างน่าตกใจ ต้นทุนดอกไม้บางครั้งแค่หลักร้อยแต่เมื่อใส่รูปแบบการจัดช่อลงไปอาจตั้งราคาขายได้ถึงหลักพันทีเดียว

ธุรกิจร้านขายดอกไม้

3.มีบริการ Delivery เพื่อเพิ่มยอดขาย

เป็นบริการที่มักจะเพิ่มเติมขึ้นมาหลังจากที่มีประสบการณ์ในด้านการจัดช่อดอกไม้มากพอ การส่งแบบ Delivery คือการเอาใจลูกค้าที่อาจจะไม่มีเวลาว่างมาซื้อเอง หรือต้องการทำเซอร์ไพรในบางโอกาส

ช่องทางของ Delivery มีทั้งการโทรมาสั่งหรือในโลกโซเชี่ยลก็อาจจะใช้ได้ทั้งโปรแกรมไลน์ เฟสบุ๊ค หรือว่าเว็บไซด์ที่เราอาจจะต้องเช่า Host ของตัวเองและจดโดเมนผ่าน Sever ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ก็จะทำให้ Delivery มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของธุรกิจร้านดอกไม้

  1. ขายดีมากในช่วงเทศกาลสำคัญและช่วงเวลาพิเศษที่จำเป็นต้องใช้ดอกไม้ซึ่งประเทศไทยมีวันที่ว่านี้อยู่เยอะมากไม่ว่าจะเป็นวาเลนไทน์ วันพ่อ วันแม่ วันครู วันลอยกระทง วันรับปริญญา วันแต่งงาน เป็นต้น
  2. คนเดียวก็ทำกิจการนี้ได้ไม่จำเป็นต้องมีคนงานมากมาย การจัดร้านเอง ดูแลดอกไม้เองก็เหมือนใส่ความเป็นตัวเองได้เต็มที่เพราะการจัดดอกไม้ก็ไม่ต่างจากงานศิลปะแขนงหนึ่งเช่นกัน
  3. งบประมาณการลงทุนไม่ต้องมากในกรณีที่ไม่ได้เปิดร้านแบบใหญ่โตหรืออยู่ในห้างใหญ่ๆ งบประมาณเริ่มต้นจะไม่สูง แค่จัดบรรยากาศร้านให้น่าสนใจก็ทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาสนใจธุรกิจของเราได้แล้ว

อุปกรณ์สำคัญและการลงทุนสำหรับการทำธุรกิจร้านขายดอกไม้

ธุรกิจร้านขายดอกไม้

เป็นอุปกรณ์หลักๆที่หาได้ง่ายๆ เช่นโฟมเขียว ฟองน้ำ กรรไกร มีด ริบบิ้น โบว์ เชือกฟาง ไม้เสียบ สก็อตเทป แจกัน กระเช้า หรือวัสดุตบแต่งอื่นๆ ที่เหมาะสม

แต่ในกรณีที่จะเปิดเป็นร้านจัดดอกไม้แบบครบวงจรก็ควรมีพื้นที่ประมาร 2×3 ตารางเมตรเป็นอย่างน้อย อุปกรณ์หลักๆรวมกับการตกแต่งร้านใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 บาท (ไม่รวมกรณีเสียค่าเช่าพื้นที่) และถ้าจะให้ดีก็ควรมีเงินทุนไว้หมุนเวียนสัก 50,000 ก็จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้คล่องขึ้น

แต่ถ้าใครจะลงทุนเพิ่มเติมด้วยการซื้อตู้แช่ก็อาจจะต้องลงทุนเพิ่มตั้งแต่ 10,000-30,000 แต่ขอแนะนำว่าถ้าในช่วงเปิดกิจการใหม่ๆใช้ลังแช่เย็นธรรมดาเอาน้ำแข็งโรยก่อนก็ได้ เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนในเบื้องต้น

ต้องรู้จักเทคนิคในการตั้งราคาเพื่อให้มีกำไรได้เร็วขึ้น

จากการสอบถามเจ้าของกิจการร้านจัดดอกไม้ให้ความรู้ในการตั้งราคาว่าต้องคำนวณต้นทุนค่าแรงของเราประมาณ 40 % อีกกว่า 60% ให้เป็นรายจ่ายเรื่องค่าวัสดุและอุปกรณ์อื่น ที่ต้องตั้งสัดส่วนเช่นนี้เพราะดอกไม้มีค่าเสื่อมสภาพสูง

ถ้าคำนวณต้นทุนดอกไม้กับปริมาณที่จัดออกมาได้อย่างลงตัวก็จะมีกำไรมากขึ้น เพราะเราต้องไม่ลืมว่าดอกไม้แต่ละกำที่ซื้อมาไม่สามารถใช้ได้ครบทุกดอก ถ้าไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเข้าไว้จะทำให้ขาดทุนได้มาก ตัวอย่างราคาดอกไม้ถ้าจัดในแจกันทรงสูงราคาเฉลี่ย 300-500 บาท ถ้าจัดเป็นช่อเริ่มต้นที่ประมาณ 300 บาท เป็นต้น

กลยุทธ์การทำร้านดอกไม้สิ่งสำคัญคือต้องเลือกใช้ดอกไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ธุรกิจร้านขายดอกไม้

เนื่องจากดอกไม้มีหลากหลายชนิดแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติ สีสันแตกต่างกันไป หากเจ้าของร้านอยากเรียกราคาสูงก็ควรนำดอกไม้แปลกๆ สีสันแปลกๆหรือดอกไม้เมืองนอก อาทิเช่น ดอกลิลลี่ ดอกคาร์เนชั่น ดอกเยอร์บีร่า ดอกเดซี่ ดอกเรนันคูลัส ฯลฯ

แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มต้นทุนขึ้นมาแต่ก็ทำให้ราคาจำหน่ายสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งดอกไม้จากต่างประเทศเหล่านี้ยังสามารถเอามาประยุกต์ใช้กับดอกไม้ท้องถิ่นทำให้ต้นทุนในการจัดลดลงได้บ้างพอสมควร

ส่วนเทคนิคการเลือกจัดช่อดอกไม้ผู้เป็นเจ้าของร้านก็ต้องพิจารณาถึงรสนิยม เพศ อายุ เช่นถ้าเป็นคนต่างจังหวัดอาจใช้ดอกไม้สีสันฉูดฉาด คนกรุงเทพฯอาจนิยมดอกไม้สีหวานเรียบ คนที่จัดดอกไม้แบบมืออาชีพจะต้องรู้จักการประยุกต์ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามถ้ากิจการเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นก็อาจจะต้องมีการรับพนักงานเพิ่มหรือหาลูกมือเข้ามาช่วยจัดการงานในร้าน ถึงตอนนั้นก็เป็นเรื่องของการควบคุมคุณภาพ ทางที่ดีควรเลือกพนักงานที่มีประสบการณ์ด้านนี้

โดยตรงจะทำให้งานเราเดินหน้าได้เร็วและดียิ่งขึ้นที่สำคัญในฐานะเจ้าของกิจการจะต้องไม่ลืมเรื่องความคิดสร้างสรรค์ การก้าวทันตามกระแสนิยม เพื่อให้การจัดดอกไม้ยังอินเทรนด์อยู่ในทุกโอกาสหรือถ้าเป็นไปได้หาวิธีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆเข้าไปก็จะทำให้ธุรกิจร้านขายดอกไม้เราเติบโตได้รวดเร็วและมั่นคงอย่างที่สุด

ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะหรือมีความพร้อมมากพอที่จะเปิดร้านขายดอกไม้ได้หรือไม่มาลองหาคำตอบกับแบบทดสอบความพร้อมธุรกิจร้านขายดอกไม้เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนลงมือทำกันต่อไป แบบทดสอบความร้านขายดอกไม้ 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://citly.me/MqgPR

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด