Marketing More | “Endowment Effect” อำนาจแห่งการตลาดของการเป็นเจ้าของ

เคยเป็นกันหรือเปล่า เวลาเรามีของที่ตัวเองรัก แล้วไม่อยากสูญเสียมันไป อยากเป็นเจ้าของสิ่งนั้นต่อไป ซึ่งความรู้สึกของการเป็นเจ้าของแบบนี้ เราเรียกว่า “Endowment Effect”

พฤติกรรมความรู้สึกแบบนี้ เป็นหลักการของ Richard Thaler โดยระบุว่า มนุษย์เรามีแนวโน้มในการให้คุณค่ากับสิ่งที่เราเป็นเจ้าของ มากกว่าสิ่งที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ โดยมักคิดเป็นมูลค่าที่สูงกว่าราคาซื้อขายในตลาดอีกด้วย

Marketing More

หลักการ “Endowment Effect” และกลยุทธ์การทำการตลาด เราสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ โดยในเชิงการตลาด เราสามารถใช้ประโยชน์จาก Endowment Effect ได้มากมาย

อาทิ การแจกสินค้าตัวอย่าง, การให้เวลาทดลองใช้สินค้าฟรี, รับประทานอาหารฟรี, การให้ทดลองขับรถ หรือ แพ็คเกจบริการห้องพักฟรี รวมถึงการให้ใช้ฟรีแล้วค่อยคิดเงินเพิ่มภายหลัง เช่น Google Drive มีพื้นที่ 15 GB ให้เราใช้ฟรี แต่พอเราใช้ไปนานๆ เก็บข้อมูลจนเต็มแล้ว เราก็มีแนวโน้มอยากจะอัพเกรด เพราะไม่อยากสูญเสียข้อมูลมากมายของตัวเองที่เก็บไว้

ร้านแว่นตา ที่ส่งแว่นตาให้ลูกค้าได้ทดลองใส่ก่อนเป็นเวลา 7 วันแล้วค่อยส่งคืน การให้ลองขับรถยนต์หลายๆ วันแล้วค่อยส่งคืน และเมื่อเรารู้สึกว่าแว่นตาที่ทดลองใส่นั้นเข้ากับเรา หรือรถยนต์ที่ลองขับแล้วรู้สึกชอบ สุดท้ายทำให้เราอยากเป็นเจ้าของ จำใจต้องควักเงินซื้อเพื่อให้ได้มาครอบครอง และเป็นเจ้าของแว่นตา รวมถึงรถยนต์คันนั้น

หัวใจสำคัญของ “Endowment Effect” ก็คือ ยิ่งเราให้เวลาและมีปฏิสัมพันธ์กับสินค้ามากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้สึกว่า “สินค้านั้น” เป็นของเรา เราจะคุ้นเคยกับมัน ทำให้เราไม่อยากสูญเสียมันไป

พูดง่ายๆ ก็คือสินค้าตัวไหนใช้ดี เราก็อยากซื้อ อยากเป็นเจ้าของ และอยากใช้มันไปให้นานที่สุด

มาถึงตอนนี้คงได้รู้จัก Endowment Effect กันแล้ว นักการตลาดรวมถึงผู้ประกอบการทุกท่าน ลองนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวองดูว่า จะสามารถดึงดูดผู้บริโภคให้มาเป็นเจ้าของสินค้าของคุณได้มากน้อยแค่ไหน

 

ข้อมูลจาก https://bit.ly/3iTuggi

อ้างอิงจาก Facebook : Marketing More

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต