เพิ่มยอดขายให้ SMEs ด้วยการใช้ LINE@

เมื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ทำให้การสื่อสารในปัจจุบันสะดวกสบาย รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ยอดผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี และหากคุณถามใครหลาย ๆ คนที่เป็นผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตว่าแอปพลิเคชันที่ใช้ติดต่อสื่อสารได้สะดวกสบาย รวดเร็วทันใจคืออะไร เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องตอบว่าเป็นแอปพลิเคชัน LINE อย่างแน่นอน

เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ใช้ LINE มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งสถิติและพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กของไทย จากการเก็บข้อมูลล่าสุด พบว่า

 

“ปัจจุบัน คนไทยที่ใช้งานแอปพลิเคชัน LINE
มีจำนวนมากกว่า 33 ล้านราย
คิดเป็น 53% ของประชากรในประเทศไทย

 

โดยสถิตินี้สามารถอธิบายได้ว่า ประเทศไทยใช้ LINE เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรียกได้ว่า LINE มีสัดส่วนการเติบโตขึ้นมากทีเดียว หลังจากที่ LINE ได้เปิดสำนักงานสาขาประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า LINE เริ่มที่จะบุกตลาดในไทยมากขึ้น

ซึ่งไม่เพียงแต่พัฒนาแอปพลิเคชัน LINE ที่เราใช้กันทั่วไปเท่านั้น ตอนนี้ LINE ยังเปิดช่องทางใหม่สำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจSMEs ด้วย ก็คือ LINE@ (ไลน์แอด) ซึ่งจะตอบโจทย์กลุ่มร้านค้า ผู้ประกอบการ และเจ้าของธุรกิจ ได้เป็นอย่างดี

LINE@ ทางเลือกใหม่สำหรับร้านค้า และธุรกิจ SMEs

แอปพลิเคชัน LINE ที่หลายคนรู้จักกันดี ในด้านการใช้เพื่อติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว ไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ประกาศเปิดตัว LINE@ (ไลน์แอด) เซอร์วิสใหม่ในการสื่อสาร ที่แยกมาจาก LINE ส่วนบุคคล

โดย LINE@ สามารถรับข่าวสาร โปรโมชั่น คูปองส่วนลด และพูดคุยกันแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการ ร้านค้า เจ้าของธุรกิจSMEs สามารถสมัครเปิดบัญชี LINE@ เพื่อส่งข้อมูลและจัดการบัญชีได้ด้วยตนเองแบบง่ายๆ

p2

ทำความรู้จัก LINE@ กันเถอะ

LINE@ เป็นช่องทางการสื่อสารช่องทางใหม่ของธุรกิจSMEs แบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ ที่ใช้ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งธุรกิจSMEs หรือแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีหน้าร้าน สามารถใช้ LINE@ ในการประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่นต่าง ๆ คูปองส่วนลดของทางร้านได้อย่างสะดวก

แถมยังใกล้ชิดกลุ่มลูกค้าของคุณมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งร้านค้าออนไลน์ก็สามารถใช้ LINE@ ในพูดคุยกับลูกค้า รับออเดอร์ พร้อมปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง LINE@ จะทำให้ลูกค้าติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ หรือร้านค้านั้น ๆ ได้เรื่อย ๆ อีกด้วย

ความต่างของ LINE@ กับแฟนเพจทั่วไปก็คือ ธุรกิจSMEs แบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ จะได้พูดคุย สื่อสาร โดยตรงกับกลุ่มลูกค้าของคุณจริง ๆ เพราะการแอดเพื่อนใน LINE@ นั้นเป็นความสมัครใจของลูกค้าที่จะรับโปรโมชั่น คูปองส่วนลด หรือการซื้อสินค้าของคุณเท่านั้น

ซึ่งตอนนี้ทาง LINE@ เปิดให้ใช้ฟรีถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2559 ถือว่าเป็นโอกาสดีของธุรกิจ SMEs ที่จะลองใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

มาเข้าใจความแตกต่างกันดีกว่า

อาจมีคนสงสัยว่า LINE ปกติที่เราใช้ หรือแม้แต่ Line Official Account ต่างจาก LINE@ อย่างไร

LINE แบบปกติที่เราใช้กัน เป็นการใช้เพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างเพื่อน ครอบครัว และบุคคลที่เรารู้จัก ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเป็นธุรกิจ เช่น ขายของออนไลน์ อันดับแรกที่เราต้องคำนึงถึงคือความจุ ถ้าใช้ LINE ส่วนบุคคล อาจจะเกิดปัญหา LINE เต็มได้ เมื่อมีลูกค้าจำนวนมาก ๆ แอดเข้ามา เพราะ LINE แชตนั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในเชิงธุรกิจ แต่ออกแบบมาเพื่อใช้ส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่ง มีข้อจำกัดว่าจะไม่สามารถเพิ่มเพื่อนได้มากถึง 5,000 คน

LINE Official Account จะเป็นบัญชีสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ คือเป็นแบรนด์ที่มีขนาดใหญ่จริง ๆ Official Account มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ หรือ Brand Awareness พร้อมทั้งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข่าวสารต่าง ๆ อาทิ โปรโมชั่น หรือ ข่าวสาร

 

132637
ยกตัวอย่างเช่น  การสร้าง Official Account ของแบรนด์ต่าง ๆ ที่ใช้สติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ เป็นตัวดึงดูดให้คนเพิ่มแบรนด์เป็นเฟรนด์ เมื่อคุณแอด Official Account จะสามารถโหลดสติ๊กเกอร์เพื่อมาใช้ระหว่างการสนทนาในชีวิตประจำวันได้ทันที ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เห็นแบรนด์สินค้าในชีวิตประจำวันได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งมีข้อดีที่ทำให้คนรับรู้แบรนด์ของเราโดยที่เขาไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด รวมไปถึงแบรนด์ยังสามารถบรอดแคสต์ข้อมูล ข่าวสาร และโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่อยากให้ลูกค้ารับรู้ทันทีทันใด

แต่จุดประสงค์ LINE@ ไม่ได้เป็นการสร้าง Brand Awareness เพราะไม่มีตัวดึงดูดให้คนทั่วไปแอดมาเพื่อได้รับสติ๊กเกอร์ LINE@ เป็นช่องทางที่ทุกคนจะแอดเข้ามาได้ก็ต่อเมื่อลูกค้าสนใจที่จะติดตามโปรโมชั่น หรือจะซื้อสินค้าของร้านเท่านั้น

 

141

 

LINE@ เหมาะสำหรับใช้เพื่อธุรกิจSMEs แบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ ให้ได้สื่อสาร ส่งข้อความผ่านบัญชี LINE@ ทั้งในเชิงธุรกิจ และในเชิงการสื่อสารส่วนบุคคล นอกจากนี้แต่ละบัญชีสามารถมีแอดมินได้มากกว่า 1 คน เมื่อใช้ LINE@ คุณจะไม่พบกับปัญหา LINE เต็มอย่างแน่นอน เพราะ LINE@ สามารถเพิ่มเพื่อนได้เป็นจำนวนมากตอบโจทย์ของการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี

อีกทั้ง LINE@ ยังมีคูปอง และโปรโมชั่น เพื่อให้คุณได้ส่งให้กับลูกค้าได้อย่างง่ายดาย ซึ่งปกติที่พบเห็นโดยทั่วไปจะเป็นการแจกคูปอง โปรโมชั่นแบบกระดาษที่ได้รับแจกจากสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า BTS หรือตามหน้าตึกต่าง ๆ วิธีนั้นจะเป็นการเปลืองค่าพิมพ์ ค่าจ้างคน

แต่ LINE@ จะสามารถส่งคูปอง โปรโมชั่น ไปใน LINE ให้กับลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งลูกค้าอาจจะยังไม่ได้ใช้ทันที แต่สามารถเก็บไว้ใช้เมื่อไหร่ก็ได้ วิธีนี้อาจทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกต้องการซื้อมากขึ้นเมื่อเห็นโปรโมชั่นที่ส่งให้ และวิธีนี้ยังไม่เป็นการทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าโดนยัดเยียดอีกด้วย

 

LINE@ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

p5

อย่างที่หลายคนเห็นกันว่าถ้าเป็น LINE Official Account จะมีสัญลักษณ์เป็นโล่สีเขียว แต่ LINE@ นั้นจะมีบัญชีอยู่ 2 ประเภท ซึ่งการใช้งานหลัก ๆ เหมือนกันทั้งสองประเภท เช่น ส่งข้อความ Broadcast message, ส่งคูปอง และโปรโมชั่น , Chat แบบ 1 ต่อ 1 แต่จะต่างกันที่

บัญชีทั่วไป (สัญลักษณ์โล่สีเทา) นั้นเป็นบัญชีแบบที่ลูกค้าจะแอดเราเป็นเพื่อนได้ก็ต่อเมื่อแอดไอดี (ID) กับสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) เท่านั้น

บัญชีที่ผ่านการรับรอง (สัญลักษณ์โล่สีน้ำเงิน) เป็นบัญชีที่ผ่านการรองรับแล้ว ซึ่งลูกค้าจะเพิ่มเราเป็นเพื่อนได้ผ่านทางการแอดไอดี (ID), สแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) และยังสามารถเสิร์ชชื่อแบรนด์ ร้านค้าในหน้าต่าง Official Account เจออีกด้วย ซึ่งหลักๆ บัญชีที่จะผ่านการรับรองจากทาง Line นั้น ส่วนมากจะเป็นธุรกิจที่มีหน้าร้าน

 

ฟีเจอร์สุดว้าวของ LINE@

 

ฟีเจอร์ทั่วไปมีประมาณนี้จ้า

p61

แชต 1 ต่อ 1 คือสามารถคุยกับลูกค้าแบบส่วนตัว ได้อย่างง่ายดาย

 

p62
การตอบกลับอัตโนมัติ (Auto Reply) คือ การตั้งค่าข้อความตอบกลับแบบอัตโนมัติ จะมีทั้งแบบทั่วไป และแบบตอบกลับอัตโนมัติตามคำที่ลูกค้าถามเป็นประจำ(Keyword Reply)

ตัวอย่างเช่น ร้านค้าออนไลน์ที่จะต้องถูกลูกค้าถามถึงเลขบัญชีบ่อย ๆ คุณก็แค่ตั้งค่าให้ระบบตอบกลับเป็นเลขบัญชีของทางร้านได้ทันที

แต่ก่อนใช้ฟีเจอร์นี้ คุณต้องปิดระบบแชทแบบ 1 ต่อ 1 ด้วย

 

p6
ไทม์ไลน์ (Timeline) คือ หน้าที่ที่คุณสามารถโพสต์เนื้อหา (ข้อความ, รูปภาพ, คูปองและโปรโมชั่น, แบบสอบถาม) ของคุณได้ ลูกค้าสามารถกดไลค์ หรือแสดงความเห็นบนโพสต์ของคุณได้ แล้วโพสต์ของคุณยังแสดงบนไทม์ไลน์ของผู้ใช้ที่เพิ่มคุณเป็นเพื่อนอีกด้วย

 

ฟีเจอร์พิเศษที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

p7

 

ส่งข้อความถึงทุกคน (Broadcast) คือฟีเจอร์ที่สามารถส่งข้อความ รูปภาพ คูปอง และโปรโมชั่น ให้กับผู้ที่ติดตามบัญชี LINE@ ของคุณได้ทั้งหมดในทีเดียว และยังสามารถตั้งเวลาส่งข้อความล่วงหน้าได้ด้วย บอกก่อนว่าบริการนี้มีค่าใช้จ่าย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แพ็กเกจคือ

1. แบบฟรี สามารถส่งข้อความ 1,000 ข้อความ ต่อเดือน (1 ผู้ติดตาม นับเป็น 1 ข้อความ)

2. ถ้ามากกว่า 1,000 ข้อความ ต้องอัพเกรดเป็น Monthly Package โดยมีค่าบริการ 24.99 $ ต่อเดือน (ประมาณ 800 บาทต่อเดือน) สามารถส่งข้อความได้เดือนละ 50,000 ข้อความ และหากส่งเกิน 50,000 ข้อความ จะคิดค่าบริการ ข้อความละ 0.006$ (ประมาณข้อความละ 20 สตางค์)

 

ID LINE@

ชื่อไอดีของ LINE@ นั้นจะต่างจาก LINE ส่วนบุคคลที่สามารถตั้งชื่อไอดีได้เอง คือ LINE@ จะเป็นระบบสุ่มชื่อไอดีให้เรา ตัวอย่างไอดีแบบสุ่มเช่น @TFC0000A  คุณสามารถใช้ไอดีนี้เลยก็ได้ หรือถ้าหากคุณไม่พอใจอยากเปลี่ยนชื่อไอดีตามแบบที่คุณต้องการ

ซึ่งเรียกว่า Premium ID นั้น คุณต้องชำระค่าบริการจำนวน 5.99$ หรือประมาณเกือบ 200 บาทต่อหนึ่งปี ในการเปลี่ยนชื่อไอดีของคุณ

 

ธุรกิจ SMEs ใช้ LINE@ แล้ว ดีอย่างไร?

S__8617998

1. เมื่อคุณมีธุรกิจSMEs รับรองว่า LINE@ จะเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าของคุณเกิดความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นแน่นอน เนื่องจาก LINE@ เป็นช่องทางในบอกกล่าว ประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่น คูปองส่วนลดต่าง ๆ ให้ลูกค้าของคุณได้ทราบ และLINE@ ยังเป็นการสร้าง Engagement คือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค เพื่อเพิ่มยอดขายอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น เมื่อแบรนด์ของคุณมีการแจกคูปองผ่านทาง LINE@ ลูกค้าก็จะเกิดความรู้สึกอยากใช้บริการที่ร้านของคุณโดยการนำคูปองที่ได้รับไปเป็นส่วนลด และการใช้ LINE@ นี้ยังเป็นการสร้างลูกค้าประจำที่ต้องการติดตามโปรโมทชั่นพิเศษต่าง ๆ ของร้านอีกด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า LINE@ เป็นการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้ากับธุรกิจของคุณได้โดยตรงแบบไม่ยากเลย

 

2. เมื่อคุณมีร้านค้าออนไลน์ ข้อดีของการใช้ LINE@ คือ จะช่วยให้ปิดการขายได้รวดเร็ว สะดวกยิ่งขึ้น และยังไม่ต้องทำให้ลูกค้ารอนาน เนื่องจากการค้าขายออนไลน์สมัยนี้ลูกค้าต้องการความรวดเร็ว ยิ่งร้านค้าของคุณตอบช้าก็จะมีโอกาสสูงที่จะเสียลูกค้าได้มากขึ้น เพราะการขายของออนไลน์หัวใจสำคัญคือความรวดเร็วในการปิดการขาย ดังนั้งฟีเจอร์ต่างๆ ใน LINE@ ตอบสนองตรงความต้องการของเจ้าของธุรกิจร้านค้าออนไลน์อย่างคุณแน่นอน

 

LINE@เหมาะกับธุรกิจแฟรนไชส์หรือเปล่า?

1.ธุรกิจแฟรนไชส์สามารถใช้ LINE@ ในการติดต่อธุรกิจกับกลุ่มแฟรนไชส์ด้วยกันเองได้สะดวก รวดเร็ว ไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น
2.ธุรกิจแฟรนไชส์ยังสามารถใช้ LINE@ ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าในเรื่องของการโปรโมท ประชาสัมพันธ์ ต่าง ๆ ระหว่างลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก ๆ อีกด้วย

 

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ LINE@

132635

ตัวอย่างธุรกิจล่าสุดที่ใช้บริการ LINE@ คือแบรนด์ โออิชิ (OISHI) โดยทางโออิชิมีการเล่นเกมกับลูกค้าเพื่อลุ้นรับส่วนลด โดยการให้ลูกค้าคอมเมนต์ และแชร์ในไทม์ไลน์ของ LINE ซึ่งปรากฏว่ามีคนมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนเกือบหมื่นคน แล้วยังมีเพื่อนที่แอดมาเพิ่มใหม่อีกหมื่นกว่าคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากสนใจ และต้องการที่จะรับโปรโมชั่น ติดตามข่าวสารของทางโออิชิ

 

ThaiFranchiseCenter.com ก็เป็นสมาชิกของ LINE@ แล้ว

132634

แน่นอนว่าเมื่อมีแอปพลิเคชันดี ๆ อย่าง LINE@ ทาง ThaiFranchiseCenter.com ก็ไม่พลาดที่จะมี LINE@ เหมือนกัน ถ้าหากคุณสนใจเรื่องการทำธุรกิจ ก็มาเป็นเพื่อนกับ ThaiFranchiseCenter.com ได้เลยจ้า

รับประกันว่าคุณจะไม่พลาดข้อมูลข่าวสารเรื่องธุรกิจ, ธุรกิจแฟรนไชส์มาใหม่, แฟรนไชส์ยอดนิยม, คอร์สเรียน, อบรม-สัมมนาสร้างอาชีพ, ธุรกิจ SMES, แผนธุรกิจ, งานออกบูธ, งานแสดงสินค้า รับรองว่ารู้จริงก่อนใครแน่นอน แอดมาเป็นเพื่อนกันได้ที่

S__8683673

เห็นไหมคะว่า LINE@ เหมาะมาก ๆ สำหรับธุรกิจSMEs แบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ ที่จะใช้งานในการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้า และถ้าหากคุณสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ at.line.me/th/ เลยจ้า

ขอบอกว่าการใช้งานนั้นไม่ยากเลยจริง ๆ

 

ลิขสิทธิ์บทความโดย ThaiSMEsCenter.com