9 เทคนิคการตั้งชื่อร้านค้าให้โดน!

การตั้งชื่อร้านค้า ที่เหมาะสมจะทำให้คุณดูแตกต่างจากคู่แข่งธุรกิจ ลูกค้าจดจำได้ง่าย และยังช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับธุรกิจคุณได้อีกด้วย

แม้ว่าชื่อร้านค้าอาจจะไม่มีผลต่อการบริหารงานและช่วยเพิ่มยอดขายให้กับคุณ แต่ถ้าหากทำการตั้งชื่อร้านค้าที่ดี คุณก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้มีเทคนิคและวิธีการตั้งชื่อร้านค้าให้โดนใจลูกค้า และมีประสิทธิภาพ มาฝากท่านที่กำลังคิดจะทำธุรกิจแต่ยังไม่มีชื่อร้านค้าครับ

1.มีความโดดเด่น เน้นจุดขาย

การตั้งชื่อร้านค้าควรเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ เพื่อให้ลูกค้าได้รู้ว่าร้านค้าของคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ขายอะไร และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องไหนบ้าง ตรงนี้จะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจ อยากใช้บริการ และรู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจเมื่อซื้อสินค้าของคุณไป

2.ความหมายดี ไม่ผิดศีลธรรม

การตั้งชื่อดีจึงอาจสร้างสิริมงคลให้กับร้านค้าของคุณก็ได้ และถึงแม้คุณจะไม่ได้เคร่งครัดในเรื่องนี้ แต่อย่าลืมว่าอย่างน้อยลูกค้าของคุณส่วนใหญ่ อาจยังยึดถือเรื่องโชคลาง หากชื่อร้านค้าของคุณฟังดูไม่เข้าหูหรือไม่เป็นสิริมงคล ลูกค้าก็อาจใช้มันในการตัดสินใจเลือกระหว่างร้านของคุณกับร้านค้าคู่แข่งก็ได้

3.ชื่อออกเสียงง่าย อ่านง่าย

ชื่อร้านค้าถ้าทำให้คนอื่นหรือลูกค้าอ่านยาก หรือออกเสียงเพี้ยน ก็จะไม่ดีกับร้านค้า ดังนั้นชื่อร้านค้าต้องดูง่าย อ่านง่าย เข้าใจง่าย และต้องมีความแตกต่างจากชื่อร้านอื่น ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันหรือใกล้เคียง รวมทั้งสามารถบอกต่อแบบปากต่อปาก และ Viral Marketing ได้ง่าย

4.มองการณ์ไกล

คุณอย่าคิดเพียงแค่ว่า จะทำธุรกิจจำกัดอยู่เพียงแค่ในพื้นที่ หรือจังหวัด หรือประเทศ ของตัวเองเท่านั้น การตั้งชื่อร้านค้าจะต้องมองการณ์ไกลไปถึงการเติบโตของธุรกิจคุณ กระทั่งขยายธุรกิจไปทั่วประเทศ ชื่อร้านค้าจะต้องรองรับในจุดๆ นี้ด้วย ชื่อต้องมีความเป็นสากล และที่สำคัญก็อย่าใช้ชื่อจังหวัดมาตั้งเป็นชื่อร้านค้าคุณเองเด็ดขาด เพราะถ้าขยายธุรกิจไปยังจังหวัดอื่นๆ อาจไม่ได้รับความสนใจ ลูกค้าบางคนอาจไม่ชอบจังหวัดนั้นอยู่แล้ว

5.หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อ-นามสกุลตัวเอง

การนำชื่อตัวเองหรือคนในครอบครัวมาตั้งเป็นชื่อร้านค้าไม่ขอแนะนำนะครับ เพราะว่าการตั้งชื่อร้านค้าแบบนี้จะไม่โดดเด่นและไม่ดึงดูดใจลูกค้าเลย เมื่อเทียบกับร้านอื่นที่สร้างชื่อเสียงจากตัวสินค้าหรือบริการอื่นๆ การใช้ชื่อนามสกุลอาจบ่งบอกถึงความเก่าแก่ ไม่เป็นมืออาชีพของก็ได้

6.ชื่อแปลกๆ ดึงดูดความสนใจ

กรณีถ้าคุณอยากได้ชื่อบริษัทเป็นภาษาแปลกๆ หรือเป็นภาษาท้องถิ่น ก็ควรพิจารณาดีๆ หรือลองทดสอบ โดยให้คนอื่นหรือลูกค้าอ่านออกเสียงดูก่อนว่าอ่านง่ายไหม หรืออ่านออกเสียงถูกต้องหรือเปล่า เพราะถ้าคนอื่นอ่านออกเสียงยาก ก็จะทำให้บริษัทของคุณไม่น่าสนใจ

7.ชื่อต้องใช้บนเว็บได้ง่าย

ผู้บริโภคนั้นโดนกรอกหูกรอกตาด้วยชื่อร้านค้าวันอยู่แล้ว งานของคุณคือต้องเลือกชื่อที่ลูกค้าผู้สามารถจดจำได้ง่าย ขณะที่ชื่อเว็บไซท์ก็ควรเป็นชื่อเดียวกับธุรกิจ สิ่งสำคัญคุณพยายามอย่าขีดเส้นระหว่างคำ เพราะมันจะทำให้คนจำได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น www.ThaiFranchiseCenter.com (ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์) และ www.ThaiSMEsCenter.com (ไทยเอสเอ็มอีเซ็นเตอร์) ซึ่งปัจจุบันเป็นชื่อเว็บไซต์ศูนย์กลางแฟรนไชส์ และ SMEs ที่คนนิยมและจดจำได้ง่าย

8.ชื่อไม่ซ้ำคนอื่น

เมื่อคุณมีชื่อในใจแล้ว ก็ควรตรวจสอบดูว่าไม่ใช่ชื่อซ้ำกับร้านค้าอื่น เพราะถ้าชื่อร้านซ้ำกันนั้นเป็นปัญหาอย่างแน่นอน เพราะคุณอาจยื่นเรื่องกับกรมธุรกิจการค้าไม่ผ่านตั้งแต่ในเบื้องต้น จนต้องเสียเวลายื่นเรื่องใหม่อีกรอบ หรือถ้าคุณยื่นเรื่องผ่านเพราะไม่ได้ใช้ชื่อโดยตรง แต่จงใจใช้ชื่อใกล้เคียงกับร้านอื่นที่ประกอบธุรกิจลักษณะเดียวกับคุณมานานแล้วเพื่อหวังผลให้เกิดความเข้าใจผิดจากลูกค้า คุณก็อาจถูกฟ้องร้องจากร้านค้า ที่คุณจงใจเลียนแบบได้เช่นกัน

9.ชื่อสามารถทำตัวอักษร หรือโลโก้ได้สวยงาม

ชื่อร้านค้าที่คุณเลือกมานั้น นอกจากจะเป็นชื่อที่ดีและเหมาะสมแล้ว ยังต้องสามารถจัดทำให้อยู่ในรูปแบบอักษรที่สวยงาม และถ้าสามารถประกอบกับโลโก้ของร้านค้าได้ด้วยจะยิ่งดีมาก เพราะมันเป็นเสมือนสิ่งแรกที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้า

ชื่อร้านค้าก็เหมือนกับชื่อคน ถ้าตั้งชื่อไม่ดี ไม่มีประสิทธิภาพ ถือว่าไม่เป็นสิริมงคลทั้งตัวคุณเองและลูกค้า หากคุณคิดจะทำการสิ่งใดอาจไม่ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้น ตั้งชื่อร้านค้าดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2TTFwOY