8 วิธีทำธุรกิจแบบไม่เพ้อฝัน

8 วิธีทำธุรกิจแบบไม่เพ้อฝัน  ในแต่ละปีมีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจำนวนมาก ซึ่งตำแหน่งงานที่จะรองรับนั้นย่อมไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้จึงมีตัวเลขคนว่างงานที่สูงมาก หนทางหนึ่งในการอยู่รอดของคนยุคนี้เมื่อไม่มีตำแหน่งงานดีๆไว้รองรับก็คือการหาธุรกิจของตัวเอง

ใครที่มีพ่อแม่เริ่มต้นมาให้ก็ไม่ยากเท่าไหร่ที่จะสานต่อ แต่สำหรับใครที่ไม่มีต้นทุนส่วนนี้ และต้องมาเริ่มก่อร่างสร้างใหม่ขอบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนจึงได้แต่คิดเพ้อฝันไม่มีวันเป็นจริงด้วยเหตุนี้

www.ThaiSMEsCenter.com สรรหา8วิธีให้เราสร้างธุรกิจตัวเองแบบไม่ต้องกลัวคำว่าคว้าน้ำเหลวอีกต่อไปทั้ง8วิธีนี้เป็นกรอบและแนวทางที่ใครทำตามอย่างเคร่งครัดโอกาสเป็นเถ้าแก่ในอนาคตก็มีไม่น้อยทีเดียว

1.สร้างPassionให้ตัวเอง

8 วิธีทำธุรกิจแบบไม่เพ้อฝัน

คำว่า Passion คือเป้าหมายที่เราจะต้องไปให้ถึง Passion ของคนเราไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องธุรกิจเงินทองเสมอไป เนื่องจากเป้าหมายของแต่ละคนนั้นมีพื้นฐานจากความชอบที่ต่างกัน แต่ในฐานะที่เราคิดจะเดินหน้าเป็นนักธุรกิจ Passion ของเราก็ต้องเป็นทิศทางเดียวกัน

เช่น ฉันจะต้องมีเงิน 1 ล้านบาทภายใน 2 ปี หรือฉันจะต้องขยายสาขาธุรกิจให้ครบ 10 แห่งใน 3 ปี พลังของPassion จะช่วยให้เรามองเห็นเป้าหมายว่าควรทำอะไรบ้างเพื่อให้สำเร็จอย่างที่ใจคิด คนที่ไม่มีPassion ในการทำธุรกิจก็ไม่ต่างจากคนทำงานให้จบๆวันไป ในระยะยาวย่อมไม่มีทางประสบความสำเร็จได้แน่

2.ลงมือสำรวจตัวเองว่าเราชอบทำอะไร

296

พูดกันมานานและหลายคนก็เข้าใจว่าการทำธุรกิจต้องเริ่มจากสิ่งที่เราทำแล้วถนัดที่สุด บางคนพ่อแม่มีกิจการตั้งต้นมาให้การต่อยอดก็ง่ายบวกกับเขามีใจรักก็ทำให้กิจการเดินหน้าได้ง่ายขึ้น ในทางกลับกันหากเราไม่ได้มีต้นทุนชีวิตแบบนั้น สองมือเปล่าๆ ที่เรามีตอนนี้ให้สำรวจก่อนว่าเรามีความรู้ ความถนัด หรือสนใจเรื่องอะไร

ซึ่งเราอาจเป็นคนที่ไม่ได้เก่งวิชาการอะไรเลย ไม่ได้ชอบเครื่องยนต์ กลไก ไอที อะไรทั้งนั้น แต่ข้อดีของเราอาจจะพูดเก่ง เป็นคนเฮฮา ซึ่งจุดนี้เราก็เอามาทำธุรกิจได้เช่นการเขียนBlog หรือทำยูทูปในสไตล์ตัวเอง เพียงแค่เราค้นพบตัวเองเท่านั้น วิธีการทำงานก็จะตามมาเอง

3.เลือกรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมกับตัวเอง

298

แบบธุรกิจในปัจจุบันมีทั้งแบบ B2B และ B2C ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไป อย่าง B2B (Business-to-Business) เป็นธุรกิจที่มุ่งตอบโจทย์อีกธุรกิจหนึ่งเช่น เอเจนซี่โฆษณา ธุรกิจระบบคอมพิวเตอร์ ธุรกิจขายเครื่องจักร ข้อดีคือไม่ต้องทำตลาดมาก สินค้าบางอย่างราคาสูง มีปริมาณในการสั่งซื้อที่ชัดเจน

แต่ธุรกิจแนวนี้เราก็ต้องมีสายป่านที่ยาวพอสมควร ส่วน B2C (Business-to-Customer) มีกลุ่มลูกค้าคือคนทั่วไปเน้นการขายแบบแมส ส่วนใหญ่คือสินค้าอุปโภค บริโภค อย่างเสื้อผ้า อาหาร บ้าน ธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น ธุรกิจแนวนี้เราต้องทำการตลาดมากเพื่อให้คนรู้จักแต่มีข้อดีคือหากสินค้าเป็นที่ต้องการเราก็สามารถสร้างรายได้ที่มหาศาลเช่นกัน

4.มีเป้าหมายธุรกิจที่ชัดเจน

299

เพื่อป้องกันไม่ให้ความคิดนั้นเพ้อฝันเกินจริง เราต้องมีตัวเลขทางธุรกิจกำหนดความคิดเราไว้ เช่นตั้งเป้ายอดขายว่าต้องได้ทำไรในระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ขนาดขององค์กรต้องมีสาขากี่แห่งในระยะเวลาที่กำหนด สิ่งเหล่านี้จะเป็นกรอบให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น และเป็นแรงกระตุ้นอย่างดีเพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายที่วางไว้

5.รู้จักการเขียนแผนธุรกิจ

300

การเขียนแผนธุรกิจ มีข้อดีเพราะสามารถใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจได้ทั้งระยะสั้น 1-3 ปี หรือในระยะยาว 3-5 ปี หรือตามกำหนดระยะเวลาที่ผู้ประกอบการเป็นผู้กำหนด นอกจากนั้นยังทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพรวมในการดำเนินธุรกิจ และสามารถบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการสร้างแนวทางที่ถูกต้องในการทำงานที่ทำให้องเห็นช่องโหว่ ปัญหา และแนวทางที่ต้องแก้ไขต่อไปด้วย

6.คำนวณความเสี่ยงรอบทิศทาง

301

อย่าคิดว่ามีแค่เงินแล้วจะทำธุรกิจให้รอดได้ หากไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นฝันลมๆแล้งๆ การทำธุรกิจให้รอดต้องมีการคำนวณความเสี่ยงรอบด้านและหาทางรองรับปัญหาเหล่านั้นไว้หากเกิดขึ้นจริง เป็นหนึ่งในวิธีบริหารจัดการที่ผู้ลงทุนทุกคนควรทำ

วิธีการที่แนะนำเช่นให้เราลิสต์รายการออกมาว่ามีเหตุการณ์ใดบ้างในอนาคตที่หากเกิดขึ้นจะทำให้ธุรกิจเรามีปัญเช่น คู่แข่ง สภาพอากาศ การเมือง ภัยธรรมชาติ หุ้นส่วน เศรษฐกิจ ฯลฯ จากนั้นหาวิธีป้องกันเช่นออมเงินทางธุรกิจ หรือทำประกันวินาศภัย เป็นต้น

7.บริหารการเงินดีธุรกิจก็รอด

302

เราจะเห็นว่าหลายธุรกิจขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแต่สุดท้ายกลับต้องปิดกิจการ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากการบริหารงานที่ผิดพลาด อาจจะเกิดปัญหาระหว่างหุ้นส่วนด้วยกันเอง หรือเกิดการรั่วไหลของรายได้ที่ไม่เข้าบริษัท หากเราอยากได้ชื่อว่าเป็นธุรกิจที่อยู่รอด

ต้องรู้จักกลยุทธ์การบริหารการเงิน ยิ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลาอย่างที่ช่วยเราเรื่องนี้ได้มาก อย่าคิดว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญเพราะทำให้ธุรกิจพังพับมากนักต่อนักแล้ว

8.ทำธุรกิจต้องรักการขายด้วย

303

การขายและยอดขายคือเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจ ถ้ารักที่จะทำธุรกิจ แต่ไม่มีทักษะการขาย ไม่ชอบงานขายจะโตได้ยากมาก หรือเต็มที่ก็คือประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ไม่มีทางรวยระดับร้อยล้าน พันล้าน จงโฟกัสและพัฒนาทักษะเรื่องนี้ให้ติดตัวเอาไว้ เพราะไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต่อให้ชอบหรือไม่มีความรู้เรื่องสินค้า เราก็ขายสินค้าได้แน่

ใน 8 วิธีที่พูดถึงทั้งหมดนี้คือการสร้างธุรกิจที่เรียกว่าฝันที่เป็นจริงได้ ไม่ใช่แนวคิดเลื่อนลอย หากตอนนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่มองหาโอกาสในการลงทุนคุณต้องกำหนดทั้ง 8 อย่างนี้ให้ได้สำรวจตัวเองก่อนว่าขาดตกบกพร่องในข้อไหนและรีบพัฒนาทักษะส่วนนั้นให้เกิดขึ้นมิเช่นนั้นธุรกิจที่ตั้งใจอาจกลายเป็นความคิดธรรมดาที่สุดท้ายก็ไม่กลายเป็นจริงขึ้นมาได้


SMEs Tips

  1. สร้างPassionให้ตัวเอง
  2. ลงมือสำรวจตัวเองว่าเราชอบทำอะไร
  3. เลือกรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมกับตัวเอง
  4. มีเป้าหมายธุรกิจที่ชัดเจน
  5. รู้จักการเขียนแผนธุรกิจ
  6. คำนวณความเสี่ยงรอบทิศทาง
  7. บริหารการเงินดีธุรกิจก็รอด
  8. ทำธุรกิจต้องรักการขายด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

plann01

ท่านใดสนใจอยากให้ร่างสัญญาแฟรนไชส์โดยถูกต้องตามหลักกฎหมายแจ้งความประสงค์ได้ที่
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด