7 แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจจาก Stephen Hawking สุดยอดอัจฉริยะของโลก
ความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการฟิสิกส์โลก กับการจากไปของ Stephen Hawking นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักจักรวาลวิทยา ที่ถือเป็นอัจฉริยะแห่งยุค นับตั้งแต่การจากไปของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เขาเกิดวันที่ 8 ม.ค.1942 ที่ออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ
ชายผู้นี้ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการวิทยาศาสตร์ ด้วยการพลิกเกมการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์และความเป็นไปของจักรวาล และจุดประกายความหวังของมวลมนุษยชาติ ด้วยชีวิตอันที่มีสีสันรอบด้าน ภายใต้ข้อจำกัดทางร่างกาย
วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอข้อคิดที่ได้จากการทำงานของ “สตีเฟน ฮอว์คิง” เพื่อสร้างแรงบันดาลให้กับคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านครับ โดยเฉพาะเรื่องการเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แม้ว่าตัวเองจะพิการก็ตาม
ภาพจาก https://goo.gl/Vunpui
1.ลงมือทำในสิ่งที่ตนเองชอบ เพราะเมื่อถึงเวลาที่เข้ามหาวิทยาลัย เขาทะเลาะกับพ่อ เนื่องจากพ่อต้องการให้เป็นแพทย์ แต่ตัวเขามีความสนใจในเรื่อง ดวงดาวและจักรวาลมาก จนสุดท้ายแล้วพ่อก็ตามใจเขาในที่สุด
2.ไม่ใช้ข้อจำกัดทางร่างกาย สร้างขีดจำกัดให้ตัวเอง ทั้งในแง่ของวิชาการ และการถ่ายทอดความรู้ให้คนทั่วโลก เขาเป็นศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายทอดความรู้ในฐานะนักฟิสิกส์และนักจักรวาลวิทยา ในฐานะนักเขียน หนังสือ A Brief History of Time ของเขาติดอันดับหนังสือขายดียาวนานหลายร้อยสัปดาห์
3.เป็นต้นแบบในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรค ALS หลังจากที่เขาต้องใช้อุปกรณ์สังเคราะห์เสียงพูด เพื่อการสื่อสารด้วยกล้ามเนื้อมัดเดียวบนในหน้า และนิ้วมือที่สามารถขยับได้ หลายบริษัทด้านเทคโนโลยี แข่งกันพัฒนาอุปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง เพื่อให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ภาพจาก https://goo.gl/tCCZbL
4.ความต้องการของมนุษย์ ไม่ควรถูกจำกัดด้วยความบกพร่องทางด้านร่างกาย เพราะเมื่อพูดเหตุผลถึงการทำกิจกรรมเสี่ยงตายต่างๆ เขาได้ตอบกลับไปว่า ความต้องการของมนุษย์ ไม่ควรถูกจำกัดด้วยความบกพร่องทางร่างกาย ตราบเท่าที่เรา ไม่บกพร่องทางจิตวิญญาณ
5.ถ้าช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เขาจะตั้งใจทำทุกอย่างให้เต็มที่ ให้คุ้มกับหนึ่งชีวิตที่เขาได้มา
6.แม้ตัวเองจะบกพร่องทางร่างกาย แต่ก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับวงการบันเทิงโลก
7.ปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกนี้ แม้จะร้ายแรงแค่ไหน อาจเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวของอีกคน
ประวัติคร่าวๆ ของ สตีเฟ่น ฮอว์กิง (Stephen Hawking)
ภาพจาก https://goo.gl/9kiAyz
- เกิด 8 ม.ค.1942 ที่ออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ
- ปี 1959 เข้าเรียนวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ก่อนจะศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge)
- ในปี 1963 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม (motor neurone disease) และมีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อได้เพียง 2 ปี
- ปี 1974 เสนอทฤษฎีว่าหลุมดำ (black holes) ปลดปล่อยรังสีได้ ซึ่งเรียกว่า “การแผ่รังสีฮอว์กิง” (Hawking radiation)
- ปี 1979 ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ลูคัสเซียน (Lucasian Professor) ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้านั้นคือ เซอร์ไอแซค นิวตัน (Sir Isaac Newton)
- ปี 1988 ตีพิมพ์หนังสือ A Brief History of Time in 1988 ซึ่งขายได้มากกว่า 10 ล้านเล่ม
- ปลายทศวรรษ 1990s ได้รับเสนอยศอัศวิน แต่ 10 ปีให้หลังพบว่าเขาคืนยศเนื่องจากปัญหาเรื่องการให้งบสนับสนุนงานวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล
- เรื่องราวชีวิตของเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง The Theory of Everything เมื่อปี 2014 ซึ่ง เอดดี เรดเมยน์ (Eddie Redmayne) รับบทแสดงเป็นฮอว์กิง
- 14 มี.ค.2018 เสียชีวิตในวัย 76 ปี
ภาพจาก https://goo.gl/sC1bMw
หวังว่าข้อคิดต่างๆ รวมถึงเรื่องราวชีวิตของ Stephen Hawking สุดยอดอัจฉริยะของโลก น่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลให้กับคุณผู้อ่านได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะเรื่องของการไม่จำกัดตัวเอง ด้วยข้อบกพร่องทางร่างกาย และเราต้องมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกนี้ แม้จะร้ายแรงแค่ไหน อาจเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวของอีกคน
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ http://www.thaifranchisecenter.com/home.php
สนใจซื้อแฟรนไชส์ http://www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
แหล่งข้อมูล
https://www.voathai.com/a/stephen-hawking-tribute/4299012.html
https://mgronline.com/science/detail/9610000025626
http://longtunman.com/4764
