5 โมเดลทำธุรกิจไม่ให้ตกม้าตาย และขายได้ด้วย

5 โมเดลทำธุรกิจไม่ให้ตกม้าตาย และขายได้ด้วย  ปัจจุบันหากต้องการทำธุรกิจไม่ให้ตกม้าตาย และขายได้ด้วย ผู้ประกอบการต้องมองธุรกิจรอบด้าน ด้วยโมเดลธุรกิจ Business Model Canvas โดย Nakamol Asawa นักการตลาดมือใหม่

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะขอนำเสนอ Business Model Canvas เป็นเครื่องมือที่ช่วยออกแบบโมเดลธุรกิจผ่านปัจจัยทั้ง 9 ด้าน และสรุปออกมาเป็น 5 ขั้นตอน ที่ถูกมองว่าครอบคลุมส่วนสำคัญๆ ต่อธุรกิจทุกประเภท

โดยผู้ต้นคิดคือ Alexander Osterwalder ในหนังสือชื่อ Business Model Generation ในเมืองไทยมีหนังสือเรื่อง Business Model Canvas ขายอยู่ตามร้านหนังสือทั่วไป เครื่องมือนี้นอกจาก Startup แล้ว ยังเป็นที่ยอมรับของนักการตลาด และ SMEs อย่างแพร่หลาย และนิยมใช้กันเป็นเครื่องมือพื้นฐานครับ

1.หาคนที่ต้องการในสินค้าของเรา

ตอนที่ไอเดียของคุณกำลังเฉิดฉาย หลายครั้งเรามักคิดว่า “คนอื่นต้องชอบเหมือนเราแน่ๆ” แนวคิดแบบนี้เป็นอันตรายมากๆ ก่อนจะกระโดดลงไปทำ อยากให้ผู้ประกอบการลองไปถามลูกค้าก่อนว่าเขาต้องการอะไร
เมื่อพอคุณถามแล้ว อาจทำให้คุณตกใจก็ได้ เพราะลูกค้าต้องการหลายอย่างเหลือเกิน ซึ่งคุณอาจทำไม่ได้หมดหรอก ธุรกิจที่ดี ไม่ใช่การทำทุกอย่างแต่เป็นการโฟกัส “คุณค่า” ที่สำคัญลำดับต้นๆ ที่ลูกค้าต้องการครับ ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การหาว่าลูกค้าคือใคร และเขาต้องการอะไรก่อน
สมมุติตัวแทนลูกค้าขึ้นมาก่อน เช่น นายก. นักศึกษาจบใหม่ มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง ต้องการทำธุรกิจ แต่ไม่มีความรู้มาก่อน จากตัวอย่างจะเห็นว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการอาจสนองความต้องการเขาได้ คือ การให้ความรู้ในการทำธุรกิจครับ

2. หาความสัมพันธ์ในการส่งมอบคุณค่า

กำหนดความสัมพันธ์ ก็เหมือนการจีบสาวครับ ต่อจากนั้นคุณต้องหารูปแบบของความสัมพันธ์ให้เจอ รู้ว่าเขาชอบ หรือไม่ชอบอะไร ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนการจีบสาวนั่นเอง ผู้ประกอบการต้องหาว่า ลูกค้าชอบแบบไหน คู่แข่งเป็นยังไง แล้วคู่แข่งมีวิธีแบบไหนในการจีบลูกค้า แบบไหนที่น่าจะสำเร็จ ลองประยุกต์เข้ากับธุรกิจตัวเอง
ที่สำคัญต้องดูว่าวิธีการสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร ที่จะทำให้ลูกค้าชอบ ไว้เนื้อเชื่อใจคุณมากที่สุด แบบไหนที่โดนใจแล้วกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณกดไลค์ กดแชร์มากๆ ดาราคนไหนที่เขาชอบ เขาชอบไปที่ไหนบ้าง แล้วจุดนั้นทั้งหมด คือสิ่งที่คุณสามารถมีความสัมพันธ์กับเขาได้ พูดง่ายๆ ก็คือ “เหมือนคนที่ตามจีบสาว” นั่นเอง

3. หาช่องทางส่งของไปสู่มือลูกค้า

ส่งสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ ไปให้ถึงมือเขา ด้ายช่องทางต่างๆ ซึ่งหลายครั้งลูกค้าไม่ได้รับรู้ว่า คุณขนส่งยากยังไง ลำบากแค่ไหน โปรแกรมขนส่งของคุณจะล้ำขนาดไหน เขาสนใจแค่ว่า “เขาได้รับคุณค่าที่ต้องการรึเปล่า”
ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องหาช่องทางในการส่งมอบคุณค่า ซึ่งช่องทางต้องดูจากพฤติกรรมลูกค้า เช่น เขาเสพสื่ออะไร ช่องทางประเภทไหนบ้าง ใช้วิธีซื้อสินค้าแบบไหนมากที่สุด ซื้อทางออนไลน์ หรือ ออฟไลน์
ซึ่งนับเป็นโอกาสดีของยุคปัจจุบันมาก ที่เรามีเครื่องมือทุ่นแรงจำนวนมากทั้งในตลาด E-Commerce การใช้ Social media หรือแม้แต่เว็บส่วนตัว จึงสามารถนอนกลิ้งอยู่ในบ้านก็ขายของได้สบายๆ

4. สร้างความสัมพันธ์แล้วทำให้ลูกค้าซื้อ

ถึงเวลาลงมือทำให้ลูกค้าซื้อของครับ ในส่วนนี้จะให้ความสำคัญในเรื่องคนและงาน โดยหลังจากที่ผู้ประกอบการรู้แล้วว่า ลูกค้าต้องการอะไร แล้วคุณอยากจีบเขาแบบไหน และช่องทางหรือเครื่องมืออะไร ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้บ้าง
ผู้ประกอบการก็ต้องมากำหนดว่า ตัวเองต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งคุณต้องลิสต์มาอย่างละเอียด และใครจะเป็นคนทำสิ่งนั้น เช่น หุ้นส่วนของคุณทำได้รึเปล่า หรือมีหน่วยงานรัฐสนับสนุนรึเปล่า คุณจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญรึเปล่า
คำถามเหล่านี้ ไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละธุรกิจเลย แต่ก็เป็นคำถามที่ควรต้องตอบให้ได้ ก่อนที่จะเริ่มครับ ซึ่งหลายครั้งก็เป็นสิ่งที่ชี้เป็นชี้ตายได้เลย

5.คำนวณรายได้ และ ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

ไม่ใช่เรื่องสายป่านไม่ยาวพอ แต่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ หลังจากได้งานที่ต้องทำแล้ว ส่วนสุดท้ายนี้ เป็นเรื่องของเงินล้วนๆ
Startup หลายคนล้มลง เพราะไม่มีเงินทุนหนุน เพราะไม่คิดให้ดีก่อนว่า ต้องทำอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายจึงบานปลาย สุดท้ายจึงต้องปิดกิจการลง แต่ก่อนจะแย่ไปถึงจุดนั้น ผู้ประกอบการควรจะคำนวณตั้งแต่แรกว่า จะมีรายได้เท่าไหร่ และต้องใช้จ่ายเท่าไหร่ อะไรบ้าง ซึ่งรวมทั้งคนและงาน

สรุปก็คือ การทำธุรกิจไม่ให้ตกม้าตาย ต้องมองรอบด้าน ด้วยปัจจัยหรือโมเดลธุรกิจ 5 ขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการหาคนที่ต้องการในสิ่งที่เรามี (หาลูกค้าที่ต้องการสินค้าเรา และชูจุดขายที่ทำให้เขาต้องซื้อ) จีบคนๆ นั้นให้ติด (ทำให้เขาซื้อ) ส่งคุณค่า ไปสู่มือของเขา (ส่งมอบคุณค่าให้เขาอยู่กับเรา) จัดการหลังบ้านให้ดี (จัดการทั้งคน และงานให้สอดคล้องกับธุรกิจ) และคำนวณสายป่านให้ยาวพอ (จัดการเงินให้เพียงพอต่อการดำเนินงาน)

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ http://www.thaifranchisecenter.com/home.php
เลือกแฟรนไชส์ไปลงทุน http://www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

---

SMEs Tip

1. หาคนที่ต้องการในสินค้าของเรา
2. หาความสัมพันธ์ในการส่งมอบคุณค่า
3. หาช่องทางส่งของไปสู่มือลูกค้า
4. สร้างความสัมพันธ์แล้วทำให้ลูกค้าซื้อ
5. คำนวณรายได้ และ ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

แหล่งข้อมูล http://oss.sme.go.th/oss/Oss_Km_Detail?ID=2057