5 ข้อคิดเตือนใจ ก่อนตัดสินใจ เลือกซื้อแฟรนไชส์

แม้ว่าการเลือกลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ จะทำได้ง่ายและเป็นทางลัดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น จนปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์หน้าใหม่เกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว แต่คุณก็อย่าลืมไปว่า การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ผู้ที่จะ เลือกซื้อแฟรนไชส์ ควรทำการศึกษาข้อมูลแฟรนไชส์ก่อนการลงทุน

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อคิด เตือนใจ มาฝากท่านที่สนใจทำธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อนำไปใช้ในการพิจารณา ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง

1.ต้องพิจารณาธุรกิจแฟรนไชส์ให้รอบคอบ

ก่อนตัดสินใจ

ว่าธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ มีความเหมาะสมกับคุณจริงหรือไม่ รักที่จะทำหรือเปล่า ถ้าคุณไม่รักในธุรกิจแฟรนไชส์นั้น คุณก็จะไม่ดูแลเอาใจ อาจจะล้มเลิกไปกลางคันก็ได้ สิ่งสำคัญในการพิจารณาธุรกิจแฟรนไชส์ก่อนลงทุน ต้องดูว่า เป็นแฟรนไชส์ที่ก่อตั้งมานานหรือยัง เป็นแฟรนไชส์ที่คนนิยมลงทุนหรือไม่ และถ้าจะให้ดีต้องเป็นแฟรนไชส์ที่ได้รับรางวัลมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ด้วย

ยกตัวอย่าง แบรนด์แฟรนไชส์ เชสเตอร์ ถือเป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองความถูกต้อง Verified จากทีมงาน ThaiFranchiseCenter.com อย่างสม่ำเสมอ เจ้าของแฟรนไชส์มีนโยบายทำการตลาด พร้อมขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังติด 5 อันดับแฟรนไชส์ก่อตั้งนานสุด และ 5 อันดับแฟรนไชส์ยอดนิยม ได้รับรางวัลมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์พ่วงมาด้วย

p1

p2

  • คุณสามารถเข้าดูรายละเอียดข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์เชสเตอร์ เพื่อใช้เป็นตัวอย่างในการพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนได้ที่ : http://goo.gl/LhQ0qB
  • หากต้องการดูแบรนด์แฟรนไชส์อื่นๆ ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองข้อมูลถูกต้องจาก ThaiFranchiseCenter.com สามารถเข้าไปดูได้ที่ : http://goo.gl/Zx8Sig

2.อย่าหลงเชื่อโฆษณาที่เกินจริง

p3

เพราะเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ซอร์บางราย อาจใช้วิธีการสร้างความเน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของตัวเอง ด้วยการถ่ายรูปกับดารา หาภาพคนดังมาติดไว้หน้าร้าน รวมถึงไปลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ

แต่ในความเป็นจริง เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ที่โฆษณาลงสื่อ ไม่ประสบความสำเร็จก็มีเยอะ ทางที่ดีคุณควร พิจารณาธุรกิจแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ

3.แฟรนไชส์ซีจะขาดอิสรภาพในการดำเนินธุรกิจ

p4

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่ารูปแบบการบริหารจัดการธุรกิจและกระบวนการตัดสินใจ จะอยู่ที่เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ซอร์

ที่สำคัญเมื่อตัดสินใจใช้แบรนด์ของเขาแล้ว หากแฟรนไชส์ซีรายใดรายหนึ่งทำเสียชื่อ คุณก็จะเสียไปด้วย

4.ไม่มีหลักประกันความสำเร็จ

p5

ถึงแม้ว่าการซื้อธุรกิจแฟรนไชส์จะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง แต่ก็ไม่มีหลักประกันที่แน่นอนว่าแฟรนไชส์ซีจะประสบความสำเร็จตามแบบฉบับของแฟรนไชส์ซอร์ไปด้วย

เพราะความเสี่ยงทางธุรกิจสามารถเกิดขึ้นได้ อีกทั้งแฟรนไชส์ซีที่ไม่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารธุรกิจ และไม่มีวินัยทางการเงินก็อาจประสบกับความล้มเหลวได้

5.ค่าใช้จ่ายสูง เพราะแฟรนไชส์ซีจำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

p6

เพื่อซื้อสิทธิในการประกอบกิจการ นอกจากนี้แฟรนไชส์ซียังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น เงินลงทุนเพื่อตกแต่งร้านค้า ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเป็นประจำสำหรับ บริการสนับสนุน ที่ได้รับจากแฟรนไชส์ซอร์

เมื่อรวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้เข้าด้วยกัน จะพบว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงเหมือนกัน ดังนั้น เงินจำนวนนี้จะคุ้มค่าต่อการลงทุน ก็ต่อเมื่อแฟรนไชส์ซีได้รับผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน

การลงทุนทำธุรกิจด้วยการซื้อแฟรนไชส์ อาจจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่า การลงทุนทำธุรกิจด้วยตัวเอง ที่กว่าจะสร้างแบรนด์ และบริหารธุรกิจให้เติบโตได้ต้องใช้เวลานาน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จจากการซื้อแฟรนไชส์เสมอไป ก่อนจะซื้อแฟรนไชส์ใดๆ คุณต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญาที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่างๆ

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/34Y59QC

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช