4 เทคนิค! ขายสินค้าทางโทรศัพท์ ให้ชนะใจลูกค้า

การขายสินค้าผ่าน ทางโทรศัพท์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่หลายธุรกิจได้หันมาเลือกใช้ในการทำธุรกิจ เพราะสามารถลดต้นทุนได้มากกว่าการออกไปพบกับลูกค้า

แม้จะเป็นการขายที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับลูกค้าโดยตรง มีโอกาสลูกค้าปฏิเสธสูง คุณจึงจำเป็นต้องมีเทคนิคและอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการพูดโน้มใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณในตอนนั้น แทนการรอตอบกลับในภายในหลัง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่พนักงานขายทุกคนต้องพบเจออยู่เสมอ

แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น กลับพบว่าพนักงานขายไม่สามารถปิดการขายและพิชิตใจลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ได้รับแต่เสียงตอบรับกำลังยุ่งอยู่ ไม่สะดวกคุยในตอนนี้ โทรมาอีกทีได้ไหม ไม่สนใจ หรือไม่ก็ตัดสายวางทิ้งไปเลย

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีเทคนิคสำหรับการขายสินค้าทางโทรศัพท์ เพื่อให้พิชิตใจลูกค้า มาฝากผู้ประกอบการธุรกิจ รวมถึงพนักงานขายทุกคน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย และสามารถปิดการขายได้ทันที มาดูกันเลย

1.เตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะยกหูโทรศัพท์โทรหาลูกค้า

ให้ชนะใจลูกค้า

ภาพจาก: http://goo.gl/xXK33j

การขายสินค้าทางโทรศัพท์อาจเป็นเรื่องยากกว่าการเดินเข้าไปคุยกับลูกค้าโดยตรง เมื่อคุณเห็นว่าแล้วว่าใครที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในการสินค้าและบริการ คุณต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม

ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการพูดจากับลูกค้า ข้อมูลและรายละเอียดสินค้า รูปแบบการนำเสนอขายสินค้าให้ดึงดูดใจลูกค้า เครื่องมือ อุปกรณ์ส่งเสริมการขาย รวมถึงการจัดเตรียมโปรโมชั่นต่างๆ ไว้มอบให้แก่ลูกค้า และที่สำคัญต้องเตรียมตัวตอบคำถามที่ลูกค้าจะถามกลับมาด้วย

ดังนั้น ก่อนจะยกหูหาลูกค้า คุณจะต้องคิดวางแผนทำให้ลูกค้าเห็นภาพและเข้าใจในตัวสินค้าให้ได้ ไม่เช่นนั้นลูกค้าจะงงและไม่อยากฟัง โดยเฉพาะในเรื่องของประโยชน์ของสินค้าหรือบริการ ที่จะสามารถตอบสนอง เติมเต็ม และแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ต้องเน้นจุดที่สำคัญของสินค้า สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ นำเสนอขายเข้าใจง่าย โดยไม่ต้องบอกรายละเอียดมากนัก

2.อย่าขายสินค้าหรือบริการช่วงเริ่มสนทนาในทันทีทันใด

c12

ภาพจาก: http://goo.gl/dlt4iy

แน่นอนว่าการขายสินค้าหรือบริการทางโทรศัพท์ คุณอยากที่จะให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าโดยเร็ว ซึ่งก็เป็นเหมือนกันทุกคนนั่นแหละ ปิดการขายได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น แต่คุณต้องไม่ลืมว่าการขายสินค้าทางโทรศัพท์นั้น ลูกค้าไม่ได้เห็นหน้าคุณ และอาจไม่รู้จักคุณ ทำให้ไม่กล้าตัดสินใจซื้อสินค้า หรือไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ

ดังนั้น ในขณะที่ลูกค้าพึ่งจะรับสายของคุณ ขอให้คุณใจเย็นๆ นะครับ อย่ารีบร้อนที่จะขายสินค้าในทันทีทันใด เพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกเบื่อหน่าย และทำการตัดสายไปเลยก็ได้

แต่สิ่งที่คุณจะต้องทำในช่วงเริ่มสนทนา คือ ต้องสร้างความรู้สึกเป็นกันระหว่างคุณกับลูกค้า พูดทักทาย แนะนำตัวคุณเอง ขออนุญาตรบกวนอย่างนั้นอย่างนี้ พูดเหตุผลของการโทรหาลูกค้า ช่วงคุณพูดนั้นอาจจะเว้นช่องให้ลูกค้าได้พูดบ้าง เพื่อให้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวคุณบ้าง ถ้าลูกค้าถามมาคุณต้องพร้อมที่จะตอบคำถามเหล่านี้ พร้อมๆกับการพูดคุยเป็นกันเอง

คุณอาจจะเรียกลูกค้าของคุณว่า คุณ หรือพี่ หรือท่านก็ได้ ตามโอกาสและความเหมาะสม เพื่อเป็นการให้เกียรติลูกค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับคุณ และรู้สึกประทับใจในระหว่างการพูดคุย ทำให้ไว้เนื้อเชื่อใจคุณ นำไปสู่การพร้อมรับฟังข้อมูล

3.นำเสนอสินค้าหรือบริการ และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ

c13

ภาพจาก: http://goo.gl/sfFSb2

หลังจากที่ลูกค้าพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลรายละเอียดกับตัวสินค้าจากคุณแล้ว คุณต้องรีบนำเสนอสินค้าและบริการที่ต้องการขาย เป็นสินค้าอะไร มีข้อมูลรายละเอียดอย่างไรบ้าง

พร้อมทั้งประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ มีอะไรบ้าง ซึ่งระหว่างการนำเสนอสินค้าคุณต้องพูดให้มีความน่าสนใจ พูดอย่างรวบรัด เข้าใจง่าย ถ้าประโยชน์ที่คุณนำเสนอแก่ลูกค้าเป็นที่พอใจของลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้ อาจทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อในตอนนั้นทันทีก็ได้

แต่ถ้าลูกค้ายังไม่ตัดสินใจซื้อ หรือยังลังเลอยู่ คุณอาจจะส่งข้อมูลรายละเอียดสินค้าให้ดูทางอีเมล์ ไลน์ หรือไม่ก็เฟสบุ๊ค เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าก่อน หรือคุณอาจพูดคุยถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้า

เพื่อที่จะหาวิธีแก้ปัญหาให้กับลูกค้า เช่น ลูกค้าอยากได้อะไรเพิ่ม หรือ ติดปัญหาเรื่องอะไร แล้วคุณก็นำเสนอสินค้าที่จะช่วยเขาได้ แล้วค่อยเชื่อมโยงกับสินค้าของคุณ ว่าสามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าด้านไหนบ้าง

4.พยายามสังเกตและทำความเข้าใจความรู้สึกของลูกค้าระหว่างสนทนา

c14

ภาพจาก: http://goo.gl/aEhgYd

ช่วงระหว่างที่คุณได้ทำการพูดคุยทางโทรศัพท์กับลูกค้าอยู่นั้น คุณต้องอย่าลืมสังเกตปฏิกิริยาอาการของลูกค้าจากการการพูดคุยโต้ตอบออกมา เพราะจะทำให้รับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของลูกค้าในตอนนั้น ว่ากำลังยุ่งวุ่นวาย หรือกำลังโกรธ หรือกำลังอารมณ์ดีอยู่หรือเปล่า ถ้าคุณรู้ว่าอารมณ์ของลูกค้าในตอนนั้นเป็นอย่างไร จะได้ปรับวิธีการนำเสนอสินค้าใหม่

นอกจากนี้ คุณจะต้องพยายามค้นหาความต้องการของลูกค้าให้เจอ อาจจะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไป การทำงาน หรือสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ เพื่อที่จะได้รับฟังในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หรืออยากจะให้แก้ปัญหา ซึ่งมักจะซ่อนเอาไว้ในตัวลูกค้า และไม่ง่ายนักที่ทุกคนจะหาให้เจอ

ดังนั้น คุณต้องใช้เวลาและให้ความสำคัญกับจุดนี้ให้มาก หากหาพบก็มีโอกาสที่จะแก้ปัญหาของลูกค้าได้ โดยการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับลูกค้า เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

หัวใจสำคัญของการขายทางโทรศัพท์ หรือทุกการขาย คือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา สมมติตัวคุณเป็นลูกค้า แล้วคุณต้องการอะไร จากนั้นนำเสนอสินค้าของคุณ เพื่อตอบสนองความต้องการนั้น คุณก็จะสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช