4 วิธีเปลี่ยนทำเลรองให้เป็น ทำเลทอง รู้ก่อนได้เปรียบ!

ลงทุนนั้นเงินสำคัญแต่ ทำเลสำคัญกว่า ตำราการตลาดบอกว่าทำเลดีมีชัยไปกว่า 80% สังเกตง่ายๆดูจากบรรดาร้านสะดวกซื้อทั้งหลายพวกนี้ทำเลดีๆทั้งนั้นไม่อยู่หัวมุมปากซอย ก็ตั้งอยู่ในย่านออฟฟิศ หรือใกล้สถานศึกษา ตามตลาดใหญ่ๆ

เรียกว่าตรงไหนที่คนพลุกพล่าน ซอยไหนที่มีคนมากๆ บางทีมี 2-3 ร้านสะดวกซื้อกันเลยทีเดียว แต่คำว่าทำเลดีก็ใช่ว่าจะมีให้เห็นบ่อยๆ ไอ้ที่พอจะมีเหลืออยู่บ้างก็ต้องสู้ราคาที่แพงมาก

ถ้าหากเป็นธุรกิจที่ยังไม่แข็งแรงพอ ก็คงไม่กล้าลงทุนกับทำเลแบบนี้สุดท้ายก็ต้องวกกลับมาที่คำว่า “ทำเลรอง” ซึ่งดูเหมือนเป็นทำเลเกรดB

แต่เชื่อหรือไม่ว่าทำเลรองๆเหล่านี้สร้างโอกาสให้ธุรกิจเล็กๆลืมตาอ้าปากมาได้นักต่อนักแล้วขอแค่รู้จักปรับปรุงทำเลให้ดีขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น www.ThaiSMEsCenter.com มีวิธีดีๆที่ให้ทุกคนลองเอาไปใช้เผื่อว่าไม่ต้องกลุ้มใจหาทำเลทองราคาแพงมาลงทุนกันอีกต่อไป

1.ทำเลไม่สำคัญเท่ากลุ่มลูกค้า

4

ทำเลที่ดีนั้นหมายถึงแหล่งคนที่พลุกพล่าน มีกลุ่มคนหลากหลายอาชีพ หลากหลายช่วงอายุ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าในธุรกิจของเรา ดังนั้นทำเลทองจึงไม่ได้น่าสนใจเท่ากับว่าพื้นที่นั้นมีกลุ่มลูกค้าเรามากแค่ไหน

ทั้งนี้ให้พิจารณาที่ธุรกิจตัวเองเป็นสำคัญ ดูว่าสินค้าของเราใครคือผู้ที่ต้องการ เช่นหากต้องการขายสเต็ก ราคาต่อจาน 40-60 บาททำเลที่เหมาะสมอาจไม่ใช่ย่านธุรกิจ แต่ทำเลรองๆ ที่คนมองข้ามอย่างหน้าโรงงานเล็กๆ หรือใกล้กับโรงเรียนหรือใกล้อพาร์ทเม้นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หรือบางทีไม่ต้องคิดไปไกล ใช้ทำเลหน้าบ้านตัวเองก็ได้ขอแค่ให้ย่านนั้นมีกลุ่มลูกค้าของเราอยู่มากก็พอ

2.ที่ตั้งร้านสามารถเข้าถึงได้ง่าย

v3

ไม่จำเป็นว่าต้องไปอยู่ในย่านที่แออัดเพราะว่าบางทีการที่มีคนมากๆ ก็ใช่ว่าจะขายได้ดีเสมอไป ด้วยชีวิตคนเมืองที่รีบเร่ง การตั้งร้านในที่มีร้านค้าจำนวนมากอาจทำให้ลูกค้าเข้าถึงร้านเราได้ยาก และยิ่งรีบร้อนก็ยิ่งไม่มีเวลาพิจารณาร้านค้าอย่างทั่วถึงจึงเท่ากับว่าทำเลทองที่ใครๆคิดอาจไม่ได้ดีอย่างที่คิดก็ได้

สิ่งสำคัญคือหาทำเลในระดับรองๆ ลงมาแต่ลูกค้าสามารถเดินเข้าถึงร้านค้าเราได้ง่าย หรือเวลาลงจากรถโดยสารมาก็เจอ หรือเดินผ่านมาก็เห็น ถ้าจะให้ดีควรตั้งร้านในจุดที่กลุ่มเป้าหมายเดินผ่านเป็นประจำจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายได้ดีกว่าการไปอยู่ในทำเลราคาแพง

3.ทำเลที่ขายได้ตลอดเวลาดีกว่าทำเลที่ขายได้แค่บางเวลาเท่านั้น

v4

หลายคนมักมองทำเลในย่านธุรกิจที่มีออฟฟิศจำนวนมากด้วยคาดว่าพนักงานเหล่านี้คือกำลังซื้อที่ดี แต่อย่าลืมว่า พนักงานออฟฟิศต้องทำงานเป็นเวลา เข้า 8.00 น. เลิก 17.00 น. มีพักกลางวัน ตั้งแต่ 12.00-13.00 น. การขายที่ดีที่สุดจะเกิดในช่วง 1 ชม.

กลางวัน กับหลังเวลาเลิกงานที่บางบริษัทก็มีการทำงานล่วงเวลาก็ไม่ได้การันตีว่าคนจะพลุกพล่าน ดังนั้นจะดีกว่าหากเลือกทำเลที่ขายสินค้าได้ดีทั้งวันไม่ได้จำกัดแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น

4.ทำเลทองแต่คู่แข่งเยอะก็ขายได้น้อย

vv

จากที่สังเกตว่าคนส่วนใหญ่รุมแย่งพื้นที่ทำเลทองทำให้ในโซนเดียวกันมีร้านค้าแบบเดียวกันจำนวนมาก มองในด้านความน่าจะเป็นคือคนยิ่งเยอะโอกาสขายก็ยิ่งมาก แต่การที่มีร้านค้าเหมือนๆ กันก็ทำให้เกิดการแชร์ จนบางทีหากเราเป็นร้านค้าใหม่ๆ เข้าไปในพื้นที่ลูกค้านอกจากจะไม่รู้จักเราทำให้เสียค่าเช่าที่แพงๆ แบบเปล่าประโยชน์บางทีการขายก็ยังมีการตัดราคาเพื่อแย่งลูกค้า

ดังนั้นคำว่าทำเลทองที่จริงอาจไม่ใช่ทองอย่างที่คิด ลองเปลี่ยนวิธีสักนิดเลือกทำเลรองลงมาแต่คู่แข่งน้อยกว่า คนน้อยกว่าแต่อาจขายได้ในปริมาณที่มากกว่ารวมถึงต้นทุนค่าเช่าที่อาจถูกกว่าเมื่อธุรกิจโตขึ้นมีกำไรมากขึ้นค่อยลุยทำเลทองอย่างที่ตั้งใจก็ยังได้

ทั้งนี้การทำธุรกิจอย่ายึดแต่หลักทฤษฏีอย่างเดียวต้องรู้จักพลิกแพลงและประยุกต์ไปตามสถานการณ์ ร้านค้าที่ขายดีอาจไม่ใช่เพราะอยู่ในทำเลทองแต่เพราะมีไหวพริบและไอเดียในการทำธุรกิจที่ดี ทำเลที่ดีอาจช่วยให้ค้าขายได้ง่ายแต่ความคิดที่ดีจะช่วยทำให้ธุรกิจมีกำไรได้มากขึ้น


SMEs Tips

  1. ทำเลไม่สำคัญเท่ากลุ่มลูกค้า
  2. ที่ตั้งร้านสามารถเข้าถึงได้ง่าย
  3. ทำเลที่ขายได้ตลอดเวลาดีกว่าทำเลที่ขายได้แค่บางเวลาเท่านั้น
  4. ทำเลทองแต่คู่แข่งเยอะก็ขายได้น้อย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด