4 ซอฟแวร์ไฮเทคสำหรับ การลดต้นทุน ทางธุรกิจ สร้างกำไรให้กลับมาโดยเร็ว!

เชื่อว่าทุกธุรกิจสิ่งสำคัญคือ การลดต้นทุน เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร โจทย์ใหญ่คือ “จะทำอย่างไร” ในเมื่อเราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว การจ้างบุคลากร หรือการจ้างงานแบบรับช่วงต่อก็เพื่อให้ธุรกิจเราเดินหน้าได้ แต่สิ่งที่ตามมาคือบางธุรกิจมีรายจ่ายมากจนมองไม่เห็นคำว่ากำไรจะงอกเงยกลับคืนมาถึงมือเราได้อย่างไร

www.ThaiSMEsCenter.com นำเสนอเทคโนโลยีน่าสนใจ 4 ประการเพื่อช่วยแก้ปัญหารายจ่ายที่มากเกินความจำเป็นกับการใช้โปรแกรมที่ตอบโจทย์การทำงานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและสร้างความเป็นมืออาชีพให้ธุรกิจมากยิ่งขึ้นด้วย

1.โปรแกรม CRM Zoho

ภาพจาก http://goo.gl/jo3Jov

การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจในการจัดการกับลูกค้าทั้งหมดที่จะเพิ่มรายได้ให้กับองค์กรโดยให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับการบริการที่ดีที่สุดตลอดเวลา

เนื้องานในส่วนนี้มีความสำคัญแต่การที่จะจ้างบุคลากรนั้นไม่อาจทำเพียงคนเดียวได้ต้นทุนเรื่องรายจ่ายจึงเป็นสิ่งที่บริษัทต้องแบกรับ แต่โปรแกรม CRM Zoho ถูกพัฒนาขึ้นมาตอบสนองปัญหานี้ประโยชน์ที่ได้ยังคงเหมือนเดิมแต่สิ่งที่ดีกว่าคือลดต้นทุนเรื่องการจ้างแรงงานได้อย่างชัดเจน

มีบริษัทมากกว่า 50,000 แห่งวางใจในระบบ CRM Zoho นี้เพราะการเริ่มต้นใช้งานเสียค่า Licenseเริ่มต้นต่ำเพียงแค่ 12USD/ผู้ใช้งาน/เดือน เท่านั้น คุณสมบัติของ CRM Zoho จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเชื่อมต่อCall Center Application กับ Zoho CRM และบริหารจัดการ กิจกรรมแผนก Telemarketing, แผนกขาย ในทุกขั้นตอนของธุรกิจคุณ

ภาพจาก http://goo.gl/tvYrF2

จากการปั้นลูกค้ามุ่งหวัง ( lead nurture) ไปถึง การติดตามการขาย (Sales Follow up) และ ปิดการขาย รวมทั้งการบริการหลังการขาย ทุกแผนกสามารถเข้าวิเคราะห์ข้อมูล เรียกดูข้อมูล ลดเวลาในการค้นหาข้อมูล ตั้งแต่ การโทรออกหาลูกค้าใหม่ๆ และสายลูกค้าเรียกเข้า เพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

และภายในระบบเองมีกล่องกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกับธุรกิจและจะเก็บบันทึกข้อมูลลูกค้าต่างๆ ในหน้า Contact us ที่เว็บไซต์ของคุณ ระบบตัวนี้เรียกว่า Web to lead from ทำให้เราทราบว่าลูกค้าแต่ละรายที่เข้ามาจากโฆษณาของเราเป็นอย่างไรและสามารถวัดประสิทธิภาพของโฆษณาได้แม่นยำขึ้นด้วย

2.WIX-wix.com

ภาพจาก https://goo.gl/VzcC7I

ธุรกิจจำเป็นต้องมีหน้าเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อการติดต่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์กร แต่ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์ถ้ามีการจ้างพนักงานก็ต้องมีต้นทุนในเรื่องเงินเดือนเข้ามาเพิ่ม

ทางเลือกที่ดีและน่าสนใจคือการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองด้วยโปรแกรมที่เรียกว่า Wix-wix.com นี่คือความสะดวกสบายในโลกของธุรกิจสมัยใหม่เป็นการสร้างเว็บไซต์แบบออนไลน์จากสมัยก่อนที่มีWordPress แต่การใช้ Wix-wix.com ง่ายกว่าเป็นเท่าตัว

เริ่มต้นที่เข้าไปยัง www.wix.com และเข้าไปที่ My Site จะเริ่มให้เข้าสู่ระบบ และไม่จำเป็นต้องสมัครให้ยุ่งยากสามารถใช้ Facebook ล็อคอินเข้าได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิมมาก และก็เริ่มเลือกได้เลยว่าต้องการทำเว็บไซต์ในรูปแบบของอะไร เช่น Business ร้านค้า หรือว่าบริษัทส่วนตัว

ภาพจาก http://goo.gl/RzNNm9

เลือกเสร็จแล้วก็เลือกเทมเพลตให้เหมาะสม กด edit รอโหลดสองสามนาที ก็เริ่มมาปรับตกแต่งได้ตามใจชอบ ตรวจสอบความสวยงามได้ที่ปุ่ม Preview เมื่อพอใจก็คลิก Publish แต่โดเมนที่ได้จะเป็นติดชื่อของ wix.com

หากจะเปลี่ยนเป็นโดเมนตัวเอง wix ก็มีแพลน upgrad ให้ใช้บริการ ราคาเริ่มต้นที่ 4-16 USD ราคาจะแตกต่างตามแพคเกจ จ่ายเป็นรายเดือน ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพและรายจ่ายที่ลดลงทางธุรกิจแบบชัดเจนทีเดียว

3.FreshBooks

ภาพจาก https://goo.gl/1UgnaH

เรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ห้างร้าน หรือแม้กระทั่งทำงานด้วยตัวเองหรือ Freelance ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของบัญชี การเงิน การวางบิล การเสนอราคา

นี่คือสิ่งที่ยุ่งยากและต้องมีการจ้างพนักงานที่มีประสบการณ์เพื่อมาแก้ปัญหาเหล่านี้กันโดยเฉพาะ แต่บังเอิญว่าโลกใบนี้มีบริการแจ่มๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังปวดหัวเป็น Online Accounting for FREELANCE ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า FRESHBOOKS.COM

FRESHBOOKS นี้สามารถจัดการเรื่องฐานข้อมูลได้ใกล้เคียงกับ MINI CRM ช่วยในการทำใบแจ้งหนี้แบบออนไลน์และการบริการติดตามที่ช่วยให้ประหยัดเวลาและดูมีความเป็นมืออาชีพทางธุรกิจมากขึ้น

ภาพจาก http://goo.gl/K6L7Du

รวมถึงการส่งใบเสนอราคา การทำ invoice ทั้งแบบ one time (ออกครั้งเดียว) และแบบ recurring (แบบออกประจำ) รายสัปดาห์, รายเดือน, รายปี โดยพิเศษกว่าคือสามารถกำหนดวันหยุดได้อีกด้วย

พร้อมกับมีบริการเช็ค Stat ว่าลูกค้าได้ดูเอกสารต่างๆบ้างหรือยังเพื่อแก้ปัญหาลูกค้าเห็นแล้วแต่บอกว่าไม่เห็นหรือดูแล้วไม่สนใจก็ทำให้เราติดตามได้ง่ายขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดโปรแกรมนี้มีให้ทดลองใช้ฟรีก่อนแบบ Full Functions 30 วัน

จากนั้นก็เป็นการเลือกราคาตามฟังก์ชั่นเริ่มต้นที่ 19.95 US/เดือน ไปถึงฟังก์ชั่นที่ครอบคลุมทุกอย่างคือ 39.95 US/เดือน ซึ่งเราสามารถเข้าไปเริ่มทดลองใช้งานได้ง่ายๆตามลิงค์นี้เลย https://lianudomcoltd.freshbooks.com/refer/www

4. VPN

ภาพจาก http://goo.gl/OXPnjP

VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายนอกอาคารที่มีความน่าสนใจและเริ่มนำไปใช้ในหน่วยงานที่มีหลายสาขา หรือ มีสำนักงานกระจัดกระจายอยู่ในหลายภูมิภาค

ในระบบ VPN การเชื่อมต่อระหว่างสำนักงานโดยใช้เครือข่าย อินเตอร์เนต แทนการต่อเชื่อมด้วย Leased line หรือ Frame Relay นั้นหมายความว่าไม่ว่าคุณจะมีกี่สาขาหรือว่าทำงานที่อื่นระบบนี้จะทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานมีความเร็วและคล่องตัวเทียบเท่ากับการอยู่ที่สำนักงานใหญ่

แน่นอนว่าเป็นการอัพเกรดให้ธุรกิจเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นกำไรที่ได้ก็จะมีมากขึ้นซึ่งระบบของ VPN นี้ปัจจุบันมีบริษัทที่รับติดตั้งจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นของ LinkSYS , TPLINK หรือ Zyzell เป็นต้น ราคาก็จะแตกต่างกันตามปริมาณสาขาของธุรกิจมีตั้งแต่ 4,000 ไปจนถึงราคาหลายหมื่นบาทตามแต่ความเหมาะสมในการใช้งาน

ภาพจาก http://goo.gl/OXPnjP

ข้อดีของ V P N คือลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อแบบแบบ WAN ได้ราว 40 % มี ความยืดหยุ่นสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีการทำ Remote Access ให้ผู้ใช้ติดต่อเข้ามาใช้งานเครือข่าย จากนอกสถานที่ แต่ VPN technologies นั้นปัจจุบันมาตรฐานของผู้ให้บริการติดตั้งก็จะแตกต่างกัน ถ้าคิดจะใช้ระบบนี้ก็ควรศึกษาเพื่อให้การใช้งานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการอย่างแท้จริง

และถ้าศึกษากันแบบจริงๆจังจะพบว่าโลกปัจจุบันมีเทคโนโลยีอีกจำนวนมากที่สามารถนำมาใช้ลดต้นทุนทางธุรกิจได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเทคโนโลยีก็ยังเป็นแค่เครื่องมือสิ่งสำคัญคือบุคลากรและระบบการบริหารจัดการ

เรื่องเหล่านี้ไม่สามารถทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำใดๆได้ทั้งสิ้นธุรกิจเป็นเรื่องของการวางแผน เรื่องของความคิด ไม่ว่าเราจะลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยีได้มากแค่ไหน แต่ถ้าบริหารผิดพลาด ระบบการทำงานไม่ดี ความเสี่ยงที่ตามมาก็มีมากอยู่เหมือนเดิม
ขอบคุณข้อมูลจาก https://goo.gl/PsDHsk