3 วิธีลงทุนสร้างรายได้ 50,000 บาท/เดือน

หลายครั้งที่เราเข้าไปค้นหา วิธีการสร้างรายได้ ในอินเทอร์เนตก็จะพบสารพัดวิธีมากมายทั้งแบบลงทุนสร้างอาชีพ ใช้เงินต่อเงิน ลงทุนอสังหาริมทรัพย์

ซึ่งก็พูดกันตามจริงว่ามีทั้งที่ขายฝันและไม่ขายฝัน บางวิธีทำได้จริงแต่ไม่ใช่กับทุกคน ยิ่งโฟกัสให้แคบเข้ามาอีกว่าหากเราอยากมีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท ก็จะมีวิธีที่รวบลัดได้เงินเร็วแต่พอมาดูเงินที่ต้องลงทุนเข้าไปโอ้โห! นี่มันเศรษฐีลงทุนชัดๆ

www.ThaiSMEsCenter.com ได้นำเอาข้อมูลชี้ชัดๆว่าหากมีเงินมากพอต้องลงทุนกับอะไรบ้างถึงจะมีรายได้ 50,000 ต่อเดือน เริ่มจาก

  1. เอาเงินไปฝากในธนาคาร 20 ล้านบาท ซึ่งจากดอกเบี้ยฝากประจำ 3% ต่อปี จะได้ดอกเบี้ย 600,000/ปี ดอกเบี้ยเฉลี่ย/เดือนจึงเท่ากับ 50,000 บาท
  2. นำเงิน 15 ล้านไปลงทุนในหุ้นกู้ ซึ่งจะได้ผลตอบแทนประมาณ 4%ต่อปี (ผลตอบแทน 600,000 บาท/ปี)
  3. นำเงิน 10 ล้านไปเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจได้ผลตอบแทนต่อปี 6%
  4. นำเงิน 8 ล้านบาท ลงทุนกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มีผลตอบแทนประมาณ 7.5% ต่อปี

แต่แค่เห็นตัวเลขหลัก 10 ล้านแบบนี้พูดได้คำเดียวว่าไม่ใช่ตัวเราแน่ ๆ เพราะลำพังมนุษย์เงินเดือนแบบเรานี้มีเงินเดือนแค่15,000-20,000 การคิดจะเอาเงินล้านไปลงทุนก็คงทำไม่ได้ แต่ใช่ว่าคนรายได้น้อย ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง จะหมดโอกาสสร้างรายได้ต่อเดือนในหลัก 50,000 บาท

เมื่อเงินมีน้อย รายได้ไม่มาก ลงทุนก้อนใหญ่ไม่ได้ ก็ต้องใช้เรื่องวินัยเข้ามาทดแทนในการช่วยสร้างแผนการออมเงินซึ่งเราก็มี 3 วิธีที่ให้ลองเอาไปใช้กันได้

1.เก็บเงินฝากธนาคารคู่กับการทำบัญชีลดรายจ่าย

วิธีลงทุนสร้างรายได้

ภาพจาก goo.gl/gbecpS

เป็นวิธีพื้นฐานที่ง่ายที่สุดแต่ก็ทำยากที่สุดเหมือนกัน บางคนมีรายจ่ายเยอะมาก เงินเดือนยังไม่พอใช้อย่าว่าแต่ฝากธนาคารบางทีต้องขอยืมเงินคนอื่นมาใช้ด้วยซ้ำ วิธีนี้สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักลดรายจ่ายตัวเองให้ได้ มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ดูว่ารายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็นต้องพยายามตัดใจเอาทิ้งไปบ้างเพื่อให้มีเงินเหลือ

และสร้างวินัยในการออมที่เป็นระบบ เช่นเงินเดือนน้อยรายจ่ายเยอะ อาจเริ่มต้นเลือกออมเงินในธนาคารเดือนละ 1,000 บาท พอบครบ 1 ปีจะมีเงิน 12,000 บาท หรือสำหรับคนที่ขยันอาจจะมีงานพิเศษ หรือทำฟรีแลนด์ ที่อาจทำให้มีรายได้มากกว่าเงินเดือนประจำอาจเพิ่มการเก็บออมมากขึ้นเป็นเดือนละ 2,000 – 3,000 บาท

คิดดูคร่าวๆ ถ้าเราเก็บเดือนละ 1,000 ในปีแรกจะมีเงิน 12,000 บาท ดอกเบี้ย 0.5% = 12,060 บาท พอปีที่สองมีทุนอยู่แล้ว 12,060 บาท เก็บเพิ่มอีกเดือนละ 1,000 สิ้นปีที่ 2 จะมีทุน 24,060บาท ดอกเบี้ย 0.5% = 24,180 บาท และถ้าทำอย่างต่อเนื่องแบบนี้เรื่อยไปเงินของเราก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ปัญหาสำคัญคือวินัยในการออมที่ต้องแข็งแรงมากๆ และมีวิธีบริหารการเงินที่สุดยอดด้วย

2.เลือกลงทุนกับกองทุน

f2

ภาพจาก goo.gl/gVfAhm

วิธีการฝากเงินกับธนาคารอาจจะเรียกว่ารายรับที่ได้แม้จะน้อยแต่ก็สบายใจ แต่หากใครคิดจะมีรายได้เยอะๆ ก็คงต้องเสี่ยงมากขึ้น กับการลงทุนในกองทุนต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเราสามารถศึกษาข้อมูลการลงทุนเบื้องต้นได้จากอินเทอร์เนตที่มีสาระความรู้เรื่องนี้มากมาย แต่ถ้าจะให้ดีไปคุยกับคนที่มีประสบการณ์โดยตรง

เช่นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่จะช่วยเราวิเคราะห์เรื่องนี้ได้เป็นฉากๆ ซึ่งส่วนใหญ่เขาจะแนะนำให้วางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับรายได้ตัวเอง มีตั้งแต่ลงทุนที่ 5,000 บาท หรือแผนการลงทุนอื่นๆ ตามแต่ละสถาบันการเงินจะนำเสนอ ซึ่งรูปแบบการลงทุนก็มีตั้งแต่ตราสารหนี้ กองทุนรวม หุ้น เป็นต้น

ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่าการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง แต่ในความเสี่ยงก็มีความคุ้มค่าหากประสบความสำเร็จ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแวดวงนักลงทุนถึงได้คึกคักและมีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ถ้ายังไม่มีความรู้ อย่าคิดลงทุนทีละมากๆ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟได้

3.ลงทุนกับแฟรนไชส์

gg2

สมัยนี้แฟรนไชส์มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายราคาให้เลือกได้ตามความเหมาะสม โดยทั่วไปมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปถึงระดับหมื่นต้นๆ โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของอาหารมีแพคเกจระดับ 10,000 ให้เลือกลงทุนมากมาย หากใครมีเงินทุนสำหรับซื้อแฟรนไชส์ที่คำนวณคร่าว ๆทั้งซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ บวกงบลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 20,000 บาท

gg1

ซึ่งข้อดีของระบบแฟรนไชส์คือให้เราต่อยอดกิจการได้ทันทีไม่ต้องสร้างแบรนด์ใหม่ เพราะคนรู้จักดี ไม่ต้องวางระบบร้านเอง ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ บางแฟรนไชส์สามารถคืนทุนได้ภายใน 2-3 เดือน นั้นหมายความว่า จากเงินทุนที่เราลงไปคิดคร่าวๆว่า 20,000 บาท อาจคุ้มทุนภายใน 3 เดือน

และหลังจากนั้นก็จะมีต้นทุนคือค่าวัตถุดิบและรายจ่ายทั่วไปเช่นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าสถานที่ และยิ่งขายนานยิ่งมีประสบการณ์ ลูกค้ายิ่งเยอะ รายได้ต่อวันก็จะยิ่งมาก เฉลี่ยบางแฟรนไชส์มีกำไรต่อเดือนไม่น้อยกว่า 20,000-30,000 บาท ซึ่งถือว่าดีกว่าทำงานประจำและดีกว่าการออมในรูปแบบอื่นๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยความขยัน และทุ่มเทให้กับการลงทุนไม่น้อยเช่นกัน

gg3

เราจะเห็นว่าวิธีการไปถึงเป้าหมายที่มีรายได้ 50,000 บาท/เดือนนั้นพื้นฐานแล้วมีไม่กี่อย่าง แบ่งเป็นหลักใหญ่ก็คือออมเงินกับลงทุน ซึ่งการลงทุนก็แยกย่อยว่าจะเลือกลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง เงิน 50,000 บาท

ถามว่ามากไหมก็ไม่มากซึ่งถ้าเรารู้จักวิธีคิด วิธีบริหาร และลงมือทำจริงจังด้วยศักยภาพของคนเราเชื่อว่าเงิน 50,000/เดือนไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถแต่อย่างใด


SMEs Tips

  1. เก็บเงินฝากธนาคารคู่กับการทำบัญชีลดรายจ่าย
  2. เลือกลงทุนกับกองทุน
  3. ลงทุนกับแฟรนไชส์

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด