ไอศกรีม COOL HAUS จากหนึ่งร้าน Food Truck สู่ 6,000 ร้านค้าปลีก สร้างยอดขายนับล้านเหรียญสหรัฐ

ใครที่กำลังอยากเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว อยากเป็นเจ้าของกิจการ หรืออยากประกอบอาชีพเสริมที่ตนเองรัก เพื่อสร้างรายได้ แต่ยังไม่คิดไม่ออกว่า จะเริ่มต้นอย่างไรดี และทำธุรกิจแบบไหนที่จะเหมาะกับตนเอง อย่าพึ่งท้อ หมดกำลังใจครับ


วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอพาคุณผู้อ่านไปศึกษากรณีร้านไอศกรีม “COOL HAUS” ที่มีเมนูจุดขายอย่างไอศกรีมแซนด์วิช (เหมือนแฮมเบอร์เกอร์) ที่ขายดิบขายดีในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

gbg1

ภาพจาก goo.gl/mUa7Xo

โดยธุรกิจนี้เกิดขึ้นมาจากความรักและความหลงใหลในการทำไอศกรีมด้วยมือของเจ้าของร้าน ว่ากันว่าเธอเรียนจบปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์อีกด้วย มาดูพร้อมๆ กันเลยว่าไอศกรีม COOL HAUS ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร ทำการตลาดแบบไหน จับกลุ่มลูกค้าด้วยวิธีอะไร รับรองว่าสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณในการเริ่มธุรกิจได้อย่างแน่นอนครับ

จุดเริ่มต้น COOL HAUS เกิดจากใจรัก ชอบ หลงใหล

gbg2

ภาพจาก goo.gl/Bxfi4x

เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ ส่วนใหญ่มักจะทำธุรกิจที่ตัวเองรัก ตัวเองชอบ ตัวเองหลงใหล ยิ่งถ้าตัวเองมีความถนัดในการทำธุรกิจนั้นๆ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น

Natasha Case และ Freya Estreller เจ้าของแบรนด์ไอศกรีม COOL KAUS ก็เช่นกัน เธอทั้งสองร่วมสร้างธุรกิจไอศกรีม อาจจะเรียกว่ากิจการเล็กๆ ก็ได้ เพราะไอศกรีมที่เธอทั้งสองทำนั้น มาจากฝีมือที่ประณีตและสร้างสรรค์ของพวกเธอทั้งนั้น

พวกเธอใช้ช่วงเวลาวันหยุด ช่วยกันทำไอศกรีม COOL KAUS จากฝีมือตัวเองไปขายตามงานเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาอย่าง Coachella Valley Music and Arts Festival หรือเรียกสั้นๆ Coachella Music Festival หรือเรียกสั้นกว่านี้ว่า Coachella ที่จัดขึ้นทุกปี ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประมาณช่วงวันสงกรานต์ของเมืองไทย

จริงๆ แล้วพวกเธอไม่ได้ทำไอศกรีมขึ้นมาแล้วไปขายทันทีนะ พวกเธอทำไอศกรีมเป็นงานอดิเรกเมื่อยามว่าง ทำเพื่อกินเล่น แบ่งให้กับเพื่อนๆ และญาติพี่น้อง พอทุกคนรอบข้างบอกว่ารสชาติอร่อย แถมหน้าหน้าตาไอศกรีมแปลกๆ แตกต่างจากไอศกรีมร้านอื่นๆ อีกทั้งยังใช้ความคิดสร้างสรรค์หน้าตาของไอศกรีมได้อย่างสวยงาม

COOL HAUS เริ่มขายและเจาะกลุ่มลูกค้าในงานเทศกาลดนตรี

gbg3
ภาพจาก goo.gl/EQSEd9

หลังจากนั้นในช่วงปี 2009 ก่อนถึงเทศกาลดนตรี Coachella ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย พวกเธอก็มีความคิดอยากทำไอศกรีมขาย เพื่อหารายได้เสริม อีกทั้งพวกเธออยากรู้ว่าไอศกรีมที่พวกเธอทำนั้น คนอื่นๆ ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ ที่นอกเหนือจากเพื่อนและครอบครัวของพวกเธอจะชอบหรือไม่ เรียกได้ว่า พวกเธออยากทดลองทำการตลาดดู เพื่อจะได้รู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร

วิธีการขายไอศกรีม COOL HAUS ของพวกเธอ ถือว่ามีไอเดียสุดยอดมาก อย่างกรณีงานเทศกาลดนตรี Coachella คนที่ไปเที่ยวงานส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น และมักจะแต่งกายแบบ Hip Hop กางเกงขาสั้น มีหมวก มีเครื่องประดับต่างๆ

พวกเธอก็เกิดไอเดียด้วยการไปตระเวนหาซื้อ Food Truck เป็นลักษณะรถตู้สั้นๆ คล้ายๆ รถทหารบ้านเรา สุดท้ายก็หาเจอและซื้อ Food Truck ด้วยบัตรเครดิตเป็นเงิน 2,500 เหรียญสหรัฐ แล้วลากไปแอลเอบ้านพ่อแม่ ก่อนลากไปแคลิฟอร์เนีย

gbg4

ภาพจาก goo.gl/Dwjtmw

โดยไอศกรีมที่นำไปขายในงานเทศกาลดนตรี มีด้วยกัน 2 เมนู คือ “Frank Behry” เป็นคุกกี้น้ำตาล 2 ก้อน ที่มีไอศกรีมสตรอเบอร์รี่อยู่ตรงกลาง และ “Mintimalism” เป็นคุกกี้ช็อกโกแลต 2 ชิ้น ที่ใส่ไอศกรีมมินต์ ปรากฏว่าขายดิบขายดี ลูกค้ามองว่าเป็นของแปลกใหม่ สร้างสรรค์รูปร่างหน้าตาไอศกรีมได้อย่างดี อีกทั้งรสชาติอร่อย

พอจบงานเทศกาลดนตรี Coachella พวกเธอกลับมาบ้าน มีนักข่าวและผู้คนได้พูดถึงกันมากในสื่อสังคมออนไลน์ มีการแชร์ต่อกันเรื่อยๆ รวมถึงพวกเธอยังมีการทวีตเป็นรูปภาพและข้อความต่างๆ ส่งผลให้ผู้คนรู้จักกันกว้างขวาง

เมื่อมีลูกค้าเยอะขึ้น พวกเธอจึงตัดสินใจเปิดร้านไอศกรีมแบบตัก รวมถึงเพิ่มจำนวน Food Truck ให้ครอบคลุมตามเมืองแอลเอ ดัลลาส และแคลิฟอร์เนีย จนสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และถือว่าพวกเธอเป็นผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี โดยปีแรกมียอดขาย 100,000 เหรียญสหรัฐ

ต่อไปทีมงานขอนำเสนอข้อคิดต่างๆ จากกรณีร้านไอศกรีม COOL HAUS

gbg5

ภาพจาก goo.gl/KGy5Cv

  • ปี 2009 เริ่มขายไอศกรีม Food Truck ในงานเทศกาลดนตรี Coachella แคลิฟอร์เนีย
  • เจ้าของเรียนจบด้านสถาปัตยกรรม มีความคิดในการสร้างสรรค์ และออกแบบไอศกรีมแซนด์วิช ตั้งทรงสูงแบบตึก
  • เจ้าของธุรกิจเลือกทำธุรกิจจากสิ่งที่ตนเองรัก และชอบ คือ การทำไอศกรีมแซนด์วิช
  • สร้างความแปลกใหม่ แตกต่าง สร้างสรรค์ ด้วยการซื้อรถ Food Truck ด้วยเงิน 2,500 เหรียญ
  • เจ้าของธุรกิจไอศกรีม COOL HAUS มีดีกรีปริญญาโท ที่เป็นผู้หญิงในอเมริกา มีอายุต่ำกว่า 35 ปี
  • เป็นผู้นำเทรนด์ Food Truck ในงาน Coachella เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา
  • Food Truck จาก 1 คัน เพิ่มเป็น 10 คัน ใน LA ดัลลัส นิวยอร์ก
  • เปิดเป็นร้านขายตัก ในคัลเวิอร์ ซิตี แคลิฟอร์เนีย (จุดเริ่มต้นของการทำตลาด)
  • ปัจจุบันขายส่งตามร้านค้าปลีกมากกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ห้าง Whole Foods ไปจนถึง Safeway
  • ปี 2009 มีรายได้ 100,000 เหรียญสหรัฐ
  • ปี 2010 มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็น 650,000 เหรียญสหรัฐ
  • ปี 2011 เปิดร้านไอศกรีมแบบตักร้านแรก สร้างยอดขายได้ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ปี 2016 Coolhaus มีรายได้ 7,000,000 เหรียญสหรัฐ
  • ปี 2017 Natasha Case ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 11-12 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งออกเป็นรายได้จากไอศกรีม Truck แล
  • ร้านไอศกรีมแบบตัก 2,500,000 เหรียญสหรัฐ ส่วนที่เหลือมาจากร้านค้าปลีกต่างๆ มีพนักงานมากกว่า 50 คน
  • COOL HAUS ใช้เวลาระดมทุน 11 ล้านดอลลาร์ภายใน 3 ปี
  • COOL HAUS วางเป้าหมายเป็นร้านไอศกรีมแบบ Ben & Jerry’s แฟรนไชส์ไอศกรีมจากสหรัฐอเมริกา
  • ปี 2020 เป้าหมายยอดขาย 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยมูลค่าแบรนด์กว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ปัจจุบัน Case อายุ 33 ปี และ Estreller อายุ 35 ปี (แยกออกไปทำธุรกิจเครื่องดื่มเหล้ารัมที่ตนเองชอบ)

0655566232

ภาพจาก goo.gl/23R9ci

ได้เห็นกรณีศึกษาของร้านไอศกรีม COOL HAUS ที่เกิดขึ้นจากเจ้าของธุรกิจทำในสิ่งที่ตนเองรัก ตนเองชอบ และรู้จักนำเอาความรู้ของตัวเองมาประยุกต์ สร้างสรรค์ไอศกรีมของตัวเองให้มีความแตกต่างจากคนอื่น ทีมงานคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจได้เป็นอย่างดีครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์  www.thaifranchisecenter.com/home.php
อ้างอิงข้อมูลจาก goo.gl/CBWdTu

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช