เลือกที่จะเล็ก เอสเอ็มอี ไทย

สิ่งสำคัญของธุรกิจ เอสเอ็มอี คือ การทำกำไร คำพูดนี้ได้ฟังกันมาเนิ่นนาน แต่เชื่อไหมว่าธุรกิจ เอสเอ็มอี ส่วนใหญ่ขณะนี้ บางครั้งก็ตกหลุม ที่นอกจากไม่วางงานเพื่อสร้างกำไร กับเน้น สิ่งที่กำลังจะพาให้ขาดทุนไปเสียด้วย

ความคิดที่ว่า ขาดทุนไม่ว่า เอาหน้าไว้ก่อน นี้เป็นเรื่องจริงในวงธุรกิจ เอสเอ็มอี ที่คุยกันสามวันไม่จบ แต่ถ้าเราเป็นธุรกิจ เอสเอ็มอี ร้านค้าร้านขาย ที่ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงถึงขนาดนั้น ผมก็เน้นหนักให้ เอสเอ็มอี เลือก การทำงานที่เน้น เลือกที่จะเล็กไว้ก่อน

เอสเอ็มอี ที่มีขนาดเล็ก ง่ายในการปรับตัว
เอสเอ็มอี ที่มีขนาดเล็ก ง่ายในการปรับตัว

การเลือกที่จะเล็ก ก็คือการบริหารโอกาส เอสเอ็มอี รับโอกาสเข้ามาเมื่อมีความพร้อม การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้า และวิธีการบริหารจัดการที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุหลักที่เป็นแรงขับของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นพร้อมกันหลายๆ อย่าง เช่น การลดราคาของระบบคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร การขนส่งเดินทาง นี่คือการพัฒนาของโลก

ตลาดแรงงานและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวที่เกี่ยวข้องกับประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ธุรกิจขนาดเล็ก เอสเอ็มอี จึงต้องสร้างความพร้อมที่จะต้องปรับตัวกับสภาพแข่งขันต่างๆ การสร้างความพร้อมทั้งวิธีการทำงาน แนวความคิดจึงเป็นอาวุธที่สำคัญไม่ใช่เพื่อการขยายธุรกิจเท่านั้นแต่เป็นการป้องกันธุรกิจเองด้วย

การปรับเปลี่ยนเรื่องหลักๆ ระดับโลกที่มีผลกระทบต่อทุกสิ่งนั้นก็คือ การสร้างนวัตกรรมกรรม ที่ผลักดันให้เกิดการศึกษาวิจัยพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการแข่งขันระดับประเทศ ส่งผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจข้ามชาติ การเพิ่มจำนวนการค้าขายลงทุน การเพิ่มการร่วมมือ และการลงทุนร่วมที่มีความซับซ้อนทั้งด้านการผลิตและการตลาด การค้นพบใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์ได้ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมทั้งหมด ปรับตลาดด้านการเงิน การค้าขายที่ผ่านระบบอีเลคโทรนิคที่มีรูปแบบหลากหลายที่ท้าทายทั้งภาพธุรกิจและองค์กรรัฐ

ธุรกิจ SMEs ไทย ต้องมีความพร้อมตลอดเวลา
ธุรกิจ SMEs ไทย ต้องมีความพร้อมตลอดเวลา

ขณะที่โลกมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับการบริหารงานธุรกิจเอสเอ็มอี กับมีแนวคิดใหม่ที่ว่าถ้าสามารถสร้างความเล็กแล้วโฟกัสหรือมุ่งด้านใดด้านหนึ่งได้นั้นจะทำให้ทำธุรกิจได้ดีกว่าเพราะการมีแนวทางธุรกิจชัดเจนจะช่วยการสื่อสารในองค์กรได้ดี ทำให้ต่างเข้าใจจุดประสงค์และเป้าหมายมากขึ้น

การทำงานที่ต่างมีจุดรวมของความสนใจเดียวกันจะช่วยให้งานมีคุณภาพ เมื่อวางเป้าเล็กจะชัดเจนและไม่เสียกำลังมากเกินไป โดยปกติธุรกิจขนาดเล็กนั้นมีกำลังคนและกำลังทุนค่อนข้างจำกัด การที่มีเป้าหมายชัดเจน กลุ่มลูกค้ามุ่งหวังเฉพาะเจาะจง เลือกทำสินค้าไม่มาก การใช้กำลังที่มีอยู่จะคุ้มค่ากว่า และสามารถรักษามาตรฐานงานได้ดี

เป้าหมายชัดไม่เหนื่อยใจ การเลือกทำชิ้นงานที่มีชำนาญที่สุด จะช่วยให้การแข่งขันเป็นเรื่องง่ายขึ้น เมื่อเกิดปัญหาในด้านการตลาด เศรษฐกิจในวงกว้างก็สามารถปรับตัวได้ง่ายกว่า ตราบใดที่ธุรกิจเป็นผู้เลือกย่อมดีกว่าเป็นผู้ถูกเลือกเมื่อมีการแข่งขันในตลาดสูงที่มาจากการขยายที่เติบโตเกินความต้องการตลาด ความต้องการที่อยากใหญ่มากไป เร็วไป

สินค้าที่มีนวัตกรรม และการออกแบบย่อมได้เปรียบ
สินค้าที่มีนวัตกรรม และการออกแบบย่อมได้เปรียบ

โอกาสที่ดีเมื่อรับมาก็จะเป็นภาระ ความไม่พร้อมของหน่วยงานจะทำให้โอกาสดีๆ ที่มีหรือรับเข้ามา เป็นภาระที่สะสางได้ยาก เช่น การรับสินค้าหรือยอดขายมากเกินกำลังที่จะบริหารได้ ย่อมสร้างความยุ่งยากและสุดท้ายผลเสียก็เกิดกับลูกค้า ส่งสินค้าไม่ทัน คุณภาพไม่ดี การเสียหายที่มากขึ้น นี่ล้วนมักเกิดจากการรับโอกาสเข้ามาในขณะที่ยังไม่มีความพร้อมเพียงพอ

ความพอดีของ เอสเอ็มอี

การหาความพอดีทางธุรกิจเอสเอ็มอี นั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องยาก และสามารถแก้ป้องกันความเสี่ยงได้ด้วย เมื่อไรก็ตามที่ธุรกิจสามารถสร้างพันธมิตรขึ้นมาได้ในวงจรการผลิต การบริการ ต่างคนต่างนำเอาความเข้มแข็งมาจับแต่ละขั้นตอนของวงจรการผลิต ก็จะเกิดความประหยัดทั้งในด้านเวลาและทรัพยากรมากกว่าการพัฒนาธุรกิจแบบทำเองครบวงจร

ถ้าเมื่อไรก็ตามธุรกิจเอสเอ็มอี ขาดความยืดหยุ่นและยังคงอัตรากำไรต่ำ ค่าใช้จ่ายมากกว่า ซึ่งเกิดจากการทุ่มเทลงไปในหลายเรื่องพร้อมกันจนไม่ได้อะไรขึ้นมา วันนั้นก็คือ การอยู่ในหลุมกับดักกันเสียแล้ว การสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ครบวงจรในบางช่วงหรือขณะที่ยังไม่พร้อมคงไม่เกิดประโยชน์ ทางเลือกที่ดีนั้นก็คือ กลับมาทบทวนแล้วดูซิว่า บางทีขนาดเล็กที่กะทัดรัดนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีมากกว่าสำหรับธุรกิจและชีวิตวันนี้

 

ลิขสิทธิ์รูปภาพโดย ThaiSMEsCenter.com

บทความโดย ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์  บริษัท บิสิเนส โค้ช แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด
Email : peerapong@consultant.com