เจาะข้อมูลลงทุนแฟรนไชส์ Krispy Kreme vs. Dunkin’ Donuts ในอเมริกา เท่านั้น

เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักโดนัท และหลายคนก็ชอบทานโดนัทด้วย แต่ถ้าจะให้คุณผู้อ่านเลือกระหว่าง Dunkin ‘Donuts หรือ Krispy Kreme doughnut คงคิดว่าชอบทานทั้งสองแบรนด์ แล้วแต่ว่าแบรนด์ไหนจะหาซื้อได้ง่ายและสะดวกมากกว่ากัน

แต่สำหรับนักลงทุน หรือผู้ที่อยากเปิดร้านขายโดนัท ก็คงต้องพิจารณากันอย่างลึกซึ้ง เพราะทั้งสองแบรนด์มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบรนด์ไหนเท่านั้น เพราะ Dunkin ‘Donuts และ Krispy Kreme doughnut ต่างก็อยู่ในอันดับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ 500 ราย โดย Dunkin ‘Donuts อยู่อันดับ 2 และ Krispy Kreme doughnut อยู่อันดับ 18

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอข้อมูลการลงทุนของแฟรนไชส์ทั้งสองแบรนด์ ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายใยการลงทุน การขยายสาขา การฝึกอบรม ทำเลที่ตั้ง รวมถึงการให้การสนับสนุนแฟรนไชส์ซี ซึ่งข้อมูลที่จะนำเสนอจะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ง่าย ว่าจะเลือกลงทุนแฟรนไชส์แบรนด์ไหน ที่เหมาะสมกับกับตัวเอง มี 5 ปัจจัยพิจารณาดังนี้

1. ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายในการลงทุนของสองแฟรนไชส์มีความคล้ายคลึงกัน เงินลงทุนของ Krispy Kreme เริ่มต้นที่ $ 275,000- $ 1,911,250 เสียค่าธรรมแฟรนไชส์แรกเข้า $ 12,500-$ 25,000 ส่วนค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้าของ Dunkin ‘Donuts จะแพงกว่าเริ่มต้นที่ $ 40,000-$ 90,000 ขณะที่ใช้เงินลงทุนเริ่มแรกน้อยกว่า $ 228,620-$ 1,691,200

จะเห็นว่า เงินลงทุนเริ่มแรกของ Krispy Kreme แพงกว่า Dunkin ‘Donuts แต่ Dunkin’ Donuts มีค่าสิทธิรายเดือนสูงกว่า 5.9% และค่าการตลาดและโฆษณา 2-6% ส่วน Krispy Kreme’s ค่าสิทธิ์รายเดือนอยู่ที่ 4.5% และค่าโฆษณา 1.5%

2. TREND

ตั้งแต่ต้นปี 2012 จนถึงต้นปี 2017 จำนวนร้าน Krispy Kreme ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 64.8% ในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวน Dunkin ‘Donuts เพิ่มขึ้น 20.4% ดูเหมือนว่า Krispy Kreme เติบโตเร็วขึ้นใช่หรือไม่

แต่ถ้านับจำนวนร้านที่แท้จริง Dunkin ‘Donuts ขยายสาขาในพื้นที่อื่นๆ อีกมากมาย 2,087 สาขา ส่วน Krispy Kreme ขยายสาขา 461 สาขา สิ่งที่สำคัญคือทั้งสองแบรนด์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ แม้ว่า Krispy Kreme จะเริ่มทำแฟรนไชส์ตั้งแต่ปี 1947 และ Dunkin ‘Donuts ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1955

3. การฝึกอบรม

ขั้นตอนการฝึกอบรมสำหรับแฟรนไชส์ซีของ Krispy Kreme มีทั้งในร้านและสำนักงานใหญ่ กล่าวคือ ใช้เวลาฝึกอบรมแฟรนไชส์ซีมากกว่า Dunkin ‘Donuts โดย Krispy Kreme ใช้เวลาฝึกอบรมในสถานที่ทำงาน 65 วัน

หรือประมาณ 219-324 ชั่วโมง ขณะที่ Dunkin ‘Donuts ใช้เวลาฝึกอบรมแฟรนไชส์ซีประมาณ 27-41 วัน ส่วนการฝึกอบรมที่สำนักงานใหญ่ของ Krispy Kreme ประมาณ 15 มากกว่า Dunkin ‘Donuts ที่ใช้เวลา 8-10 วัน

4. ทำเลที่ตั้ง

ตลาดส่วนใหญ่หรือทำเลที่ตั้งของร้าน Dunkin ‘Donuts จะอยู่ทางภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา (ยกเว้นฟลอริด้าและนิวเม็กชิโก) และมิดเวสต์ ในทางตรงกันข้ามทำเลที่ตั้งสาขาของ Krispy Kreme ส่วนใหญ่จะอยู่ทางภาคเหนือและตะวันตกของสหรัฐอเมริกา เช่น Washington, Oregon และ Dakotas ขณะที่ Dunkin ‘Donuts ได้ปิดสาขาไปแล้ว

5. การสนับสนุน

ทั้งสองแบรนด์ให้การสนับสนุนแฟรนไชส์ซีเป็นอย่างดี ตั้งแต่ก่อนเปิดร้านไปจนตลอดระยะเวลาดำเนินการ ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกอย่าง เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักทั้งในสหรัฐอเมริกาและนอกสหรัฐอเมริกา

สำหรับในเมืองไทย Krispy Kreme ถูกซื้อไลเซนส์เข้ามาโดยบริษัท เคดีเอ็น จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ “คุณอุษณีย์ มหากิจศิริ” เปิดสาขาแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 ณ สยามพารากอน ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 26 สาขา โดยมีสัญญาแฟรนไชส์นาน 5 ปีต่ออีก 5 ปี และค่าไลเซนส์อยู่ที่ 30 ล้านบาท

ขณะที่ Dunkin’ Donuts อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ดังกิ้น โดนัท (ประเทศไทย) เปิดสาขาแรกที่สยามสแควร์ เมื่อปี พ.ศ. 2524 ปัจจุบันมีสาขากระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคกว่า 280 สาขา ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ โดยทั้งสองแบรนด์ บริษัทเป็นผู้บริหารและขยายสาขาเองทั้งหมด

สรุปก็คือ หากผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องการฝึกอบรมระยะเวลาสั้น ก็คงต้องเลือกลงทุนแฟรนไชส์ Dunkin ‘Donuts แต่ถ้าหากใครไม่อยากเสียค่าแฟรนไชส์แรกเข้า และค่าสิทธิ์รายเดือนแพง ก็ต้องเลือก Krispy Kreme น่าจะเหมาะสมกว่าครับ แต่ถึงอย่างไรแฟรนไชส์ทั้งสองแบรนด์ ถือเป็นแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่นิยมลงทุนทั่วโลก

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com
สนใจซื้อแฟรนไชส์ไทย www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

อ้างอิงข้อมูลจาก https://bit.ly/3nNPxr5