ส่อง! แนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐฯ ปี 2564
การะบาดโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจอย่างหนักหนาสาหัส ธุรกิจที่มีสายป่านไม่ยาวพอจำเป็นต้องปิดกิจการ แม้แต่ประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา หลายๆ ธุรกิจต้องยื่นล้มละลาย ปลดพนักงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์มีการเลิกจ้างงานเกือบล้านคนนับตั้งแต่มีการระบาดคิด-19
สถานการณ์ธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกาในปี 2564 เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น จากการรายของสมาคมแฟรนไชส์ระหว่างประเทศ (IFA) ซึ่งรายละเอียดต่างๆ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาไป ดู แนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐฯ
โควิด-19 ทุบธุรกิจแฟรนไชส์สหรัฐฯ เลิกจ้างงาน 9 แสนตำแหน่ง
ภาพจาก bit.ly/3yWFaHj
ในปี 2563 ธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ปิดกิจการไปกว่า 20,000 แห่ง มีร้านแฟรนไชส์เหลืออยู่ 753,770 แห่ง มีการเลิกจ้างพนักงานกว่า 900,000 ตำแหน่ง เหลือพนักงาน 7,500,000 ตำแหน่ง ขณะที่ธุรกิจแฟรนไชส์ในสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 670 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 3% ของจีดีพีในประเทศ คาดว่าในปี 2564 หากรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการเร่งฉีดวัคซีนและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์ฟื้นตัว
โดยในปี 2564 คาดว่าธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกาจะมีการเติบโต 7% และมีอัตราการขยายสาขาเพิ่ม 3.5% ซึ่งการฟื้นตัวของธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าการฉีดวัคซีนได้ครบทั่วถึงบรรลุเป้าหมาย 100 ล้านโดส ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ รวมถึงโรงเรียนกลับมาเปิดให้เรียนได้อีกครั้ง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก
FRANdata คาดการณ์ว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดที่เกิดจาก COVID-19 จะเริ่มเบาบางลง และเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ จะมีการเติบโตขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมาอีกครั้ง มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ภาพจาก bit.ly/3CNMBmu
ในปี 2564 ธุรกิจแฟรนไชส์หลายๆ กลุ่มคาดว่าจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์และภาคบริการ โดยจะมีการขยายตัวอัตรา 3.4% รองลงมาคือกลุ่มร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหารมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จากความพยายามในการฉีดวัคซีนของรัฐบาลอย่างกว้าง นำไปสู่การออกมาจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในอัตราสูงขึ้น
ปี 2564 ธุรกิจแฟรนไชส์สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 780 พันล้านดอลลาร์
ภาพจาก bit.ly/3CNMBmu
FRANdata คาดการณ์ในปี 2564 หากโควิด-19 มีการระบาดลดลง ธุรกิจแฟรนไชส์จะกลับมาสู่ภาวะปกติ มีอัตราการขยายตัวและเติบโต 16.4% สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ กว่า 780 พันล้านดอลลาร์ โดยในปี 2563 การเติบโตธุรกิจแฟรนไชส์ลดลง 14.9% ทั่วประเทศ แฟรนไชส์ประเภทที่พักอาศัยและร้านอาหารนั่งทานสูญเสียรายได้มากที่สุด
ภาพจาก bit.ly/3AyMo4k
ขณะที่แฟรนไชส์กลุ่มบริการทำสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อัตราเติบโต 7.7% โดยได้แรงหนุนจากคนอยู่บ้าน กิจกรรมก่อสร้าง/ปรับปรุงและสร้างขึ้นใหม่ ขายบ้าน ภาคธุรกิจค้าปลีกอาหาร ผลิตภัณฑ์และบริการ
ยังช่วยยกระดับการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์โดยรวมอีกด้วย โดยสมาคมอุตสาหกรรมอาหาร ส่วนใหญ่ผู้ค้าปลีกอาหาร (61%) กล่าวว่าเศรษฐกิจท้องถิ่นและการสนับสนุนภาครัฐในปี 2563 ส่งผลดีต่อธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีการเติบโต
แฟรนไชส์อสังหาฯ เติบโตมากสุดจากการระบาดโควิด-19
ภาพจาก bit.ly/3CNMBmu
โรคระบาดได้สร้างผู้ชนะและผู้แพ้ เพราะพฤติกรรมความชอบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงภาพรวมความแข็งแกร่งเศรษฐกิจในปัจจุบัน และข้อบังคับของรัฐบาล ส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์บางกลุ่มได้รับประโยชน์ เช่น กลุ่มเทคโนโลยี ไอทีที่ต้องประชุมออนไลน์ บริการเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ และการขายปลีกอาหาร
ภาพจาก bit.ly/3AHjtLt
อย่างไรก็ตาม มีธุรกิจแฟรนไชส์บางกลุ่มได้รับผลทบจากโควิด-19 เช่น บริการส่วนบุคคล ร้านอาหารเต็มรูปแบบ ส่วนแฟรนไชส์ร้านอาการขนาดเล็กและร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดได้รับผลกระทบเล็กน้อย และเริ่มฟื้นตัวในปี 2564
สำหรับปัจจัยทำให้แฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ มีการเติบโตในช่วงโรคระบาดโควิด-19 เพราะดอกเบี้ยต่ำและคนซื้อบ้านเยอะ และคนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน อีกทั้งมีการก่อสร้างที่พักอาศัยอย่างต่อเนื่อง
จะเห็นได้ว่า ปัจจัยในเรื่องของการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งผลให้ปี 2564 แนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐฯ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจแฟรนไชส์เติบโต ประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ข้อมูลจาก https://bit.ly/3iDCmZM
อ้างอิงจาก https://bit.ly/2VYxd5K
