ร้าน ส้มตำ อร่อย แซ่บ! ทำอย่างไรกำไรถึงจะซี๊ด ซ๊าด เพื่อให้เป็นกิจการที่น่าลงทุน

อาหารพื้นบ้านที่เรียกว่าถูกใจคนวัยหนุ่มสาวไม่มีเมนูไหนดีไปกว่า “ ส้มตำ ” ด้วยรสชาติที่จัดจ้านบวกกับความหลากหลายที่สามารถเพิ่มนั่นเติมนี่ได้ตามใจชอบ เมนูนี้จึงกลายเป็นเมนูท็อปฮิตโดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ว่ากันว่าบางคนแทบจะกินส้มตำแทนข้าวกันได้เลยทีเดียว

www.ThaiSMEseCenter.com เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจการทำส้มตำที่ปัจจุบันมีแฟรนไชส์หลายแบรนด์เข้ามาให้การสนับสนุนธุรกิจประเภทนี้แต่ในส่วนของการลงทุนทั่วไปก็มีทั้งรถเข็นริมทาง หรือการเปิดร้านแบบที่ไม่ต้องใช้ระบบแฟรนไชส์

จึงเป็นทางเลือกที่หลากหลายของผู้บริโภค ซึ่งผู้ลงทุนหน้าใหม่เองก็ตัดสินใจได้ว่าถ้าจะเดินสู่เส้นทางนี้วิธีการลงทุนแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

โอกาสทางธุรกิจใครจะคิดว่า “ส้มตำ” ก็ทำกำไรได้ดีทีเดียว

ส้มตำ

เมนูยอดฮิตอย่างส้มตำสามารถแทรกซึมเข้าไปในทุกระดับชนชั้นได้อย่างง่ายดาย ด้วยข้อดีที่เป็นอาหารทานง่าย รสชาติดี ยิ่งเป็นแหล่งคนพลุกพล่านอยู่ใกล้โรงเรียน ชุมชน โรงงาน หรือว่าบริษัทห้างร้าน จะยิ่งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญเมื่อเทรนด์สุขภาพกำลังมา ส้มตำก็ดูจะท็อปฮิตติดตลาดไปมากกว่าเดิมหลายคนกินแทนข้าวลดคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้ไม่อ้วน

โดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ถือเป็นเมนูเด่นระดับฟูลคอร์สที่มีคนนึกถึงมากกว่าอาหารจานหลักแบบอื่นๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ และยิ่งมีการปรับเมนูให้หลากหลายเช่นปัจจุบันที่มีทั้งส้มตำปูม้า ส้มตำไข่เค็ม ตำแตง ตำปลาร้า ตำป่า ตำซั่ว ตำหอยดอง ตำผลไม้ ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ

งานนี้จึงเป็นการวัดกันที่ฝีมือมากกว่าบรรยากาศร้าน แต่ถ้ามีการแต่งเสริมเติมแต่งทั้งสองทางให้บาลานซ์กันอย่างดี ธุรกิจส้มตำที่ทำง่ายๆก็สร้างรายได้ถึงระดับเงินล้านในเวลาไม่นานเกินรอเช่นกัน

เทคนิคสำคัญคือทำให้เร็วทำให้ไว้ถ้าทำได้ “รวยแน่”

o8

หลายคนเริ่มจากการเปิดร้านด้วยการทำเอง หรือมีผู้ช่วยเป็นคนในครอบครัวอีก 1-2 คน โดยมากแล้วจะมีปัญหาการบริการลูกค้าไม่ทัน ถ้าเริ่มต้นก็ควรขายเพียงแค่ข้าวเหนียวส้มตำ

แต่ถ้าต้องการมี ไก่ย่าง ปลาปิ้ง ลาบ น้ำตก ก็ต้องเริ่มมองหาผู้ช่วย เพราะลูกค้าที่มาทานอาหารต้องการความเร็วในการกินเพราะต้องรีบกลับไปทำงานให้ทันเวลาก่อนบ่ายโมง หรือต้องรีบกลับบ้านยามเย็น

ถ้าสามารถทำเร็วได้ก็หมายถึงได้รับเงินเร็วเช่นกัน ความสามารถในการทำส้มตำจึงแปรผันตรงกับกำไร เพราะแต่ละครกก็ต้องใช้เวลาตำให้เนื้อส่วนผสมคลุกเคล้ากันได้ที่ ยกเว้นว่าคุณทำได้อร่อยจริง ลูกค้าก็ยอมยืนรอต่อคิว แต่ต้องจัดคิวให้ดี ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะมีปัญหาระหว่างกันเองได้ ไม่เป็นผลดีกับร้านแน่นอน

o10

ข้อดี 4 ประการ เปิดร้านขายส้มตำ ทำง่ายๆแต่รายได้ดีเว่อร์

  1. เป็นอาหารยอดฮิตไม่จำเป็นต้องโฆษณาให้มาก พูดว่าส้มตำทุกคนนึกภาพออก ถ้ามีฝีมือดี บริหารจัดการร้านได้ดี ทำให้เร็วทำให้ไว มีรายได้ต่อเดือนแบบน่าทึ่งทีเดียว
  2. ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ร้านมาก ใช้พื้นที่แค่รถเข็นแต่เน้นที่ฝีมือ หรือใช้ความขยันเข้าหาแหล่งชุมชน โอกาสเพิ่มยอดขายสบายๆ
  3. การลงทุนไม่เยอะแต่ความต้องการสูงมีโอกาสคืนทุนเร็วแต่ก็อยู่ที่ฝีมือและการพลิกแพลงเมนูเพื่อดึงดูดความน่าสนใจผู้บริโภค
  4. เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยมาก ทุกอย่างอยู่ที่การบริหารและความขยัน รวมถึงสูตรการทำ ถ้าวางแผนให้ดีๆ มีแต่ช่องทางของกำไรแบบล้วนๆ

o11

ข้อเสียที่ไม่ควรมองข้ามกับการทำธุรกิจร้านส้มตำ

  1. ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนเรื่องของสุขลักษณะเป็นสิ่งสำคัญ ร้านไม่ว่าจะแบบรถเข็นหรือเปิดร้านอาหารก็ควรสะอาดสะอ้านไร้แมลงต่างๆ รบกวน อุปกรณ์การทำก็เช่นกัน ทั้งครก จาน ชาม ควรเน้นสะอาดน่ามองเป็นสำคัญ
  2. คู่แข่งมีจำนวนมาก สิ่งที่ต้องทำคือหาความแตกต่างที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเรื่องฝีมือ ลักษณะร้าน หรือถ้าเป็นรถเข็นก็ควรตกแต่งให้น่าสนใจจัดวางของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
  3. เป็นธุรกิจที่ต้องขยันและอดทน ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด ยิ่งเข้าหาคนมาก ก็ยิ่งมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น

การลงทุนเบื้องต้นและกำไรที่คาดว่าจะได้รับจากการเปิดร้านขายส้มตำ

o12

งบประมาณการลงทุนเบื้องต้น ถ้านิยมในรูปแบบแฟรนไชส์ก็มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์แล้วแต่ระดับความพอใจถ้าแบบขึ้นห้างหรือเป็นร้านใหญ่บรรยากาศดีๆ อาจจะถึงหลักแสนแต่ถ้าเอาแบบง่ายๆเน้นแบบ เริ่มต้นก็ประมาณ 20,000-30,000 บาท เป็นอย่างน้อย

งบประมาณสำหรับการลงทุนเอง คือเป็นแบบรถเข็นหรือมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง อาจจะใช้ งบเบื้องต้น 12,000-15,000 บาท อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ต้องจัดเตรียมสำคัญก็คือครก มะละกอ ผลไม้ต่างๆ ผักต่างๆ เครื่องปรุง ปูดอง กุ้งแห้ง ปลาร้าน หรือว่าบางร้านจะขายไก่ย่างด้วยก็ดีจะได้ครบวงจร

รายได้เบื้องต้นที่คาดว่าจะได้รับจากการเปิดร้านขายส้มตำ คิดแบบมาตรฐานคือครกละ 20-30 บาท แต่ถ้าเป็นร้านขนาดใหญ่หรือขึ้นห้างสรรพสินค้าก็อาจจะตั้งราคาขายที่สูงกว่านี้ได้เช่นกัน

รายได้เฉลี่ย/วันหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วเบ็ดเสร็จมีไม่ต่ำกว่าวันละ 500-1,000 (ร้านใหญ่อาจจะได้มากกว่านี้) คิดต่อเดือนก็มีรายได้ไม่น้อยกว่า 15,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับความขยันและฝีมือในการทำเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตามถ้าสนใจธุรกิจนี้เป็นอาชีพแต่ยังขาดทักษะหรือไม่มีความชำนาญมากพออาจเริ่มด้วยการไปเรียนตามคอร์สต่างๆ ที่เปิดสอนเกี่ยวกับการทำส้มตำจากนั้นค่อยมาเริ่มต้นการทำร้านที่พัฒนาจากเล็กๆไปสู่ร้านที่ใหญ่ ขอเพียงฝีมือดี บริหารจัดการดี มีความอดทน ตั้งใจ ส้มตำที่ง่ายๆ ก็กลายเป็นสุดยอดธุรกิจทำเงินที่เห็นผลแบบทันตาเห็นเช่นกัน

01565898888

ท่านใดสนใจอยากให้สร้างระบบแฟรนไชส์ แจ้งความประสงค์ได้ที่
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise

อ้างอิงจาก https://bit.ly/395gVdj

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด