#รีวิวหนังสือ คัมภีร์เล่มเล็กของคนคิดใหญ่ (The Little Book of Thinking Big)

รีวิวหนังสือ อย่าให้ความฝันของคุณสะดุดเพียงเพราะ “ความคิด” ของคุณสั่งให้หยุดทำ รีวิวหนังสือ เล่มเล็กนี้เป็นคัมภีร์ของคน “คิดใหญ่” ซึ่งไม่เพียงมอบ “วิธีคิด” ที่จะช่วยให้คุณได้ทุกสิ่งที่ต้องการ แต่ยังมอบ “แรงกระตุ้น” ที่จะดันคุณให้ลุกจากเก้าอี้ทันทีที่อ่านจบ…แล้วลงมือทำสักที

รีวิวหนังสือ

เขาบอกกับผมว่า ถ้าเธอเดินเข้าหาพระเจ้าสองก้าว พระเจ้าจะทรงวิ่งเข้าหาเธอ
Life of Pi – ยานน์ มาร์เทล

สมองเป็นอวัยวะที่น่าอัศจรรย์สุดๆ มันเริ่มทำงานไม่หยุดตั้งแต่นาทีที่เราลืมตา จนกระทั่งตอนเราไปถึงที่ทำงานนั้นแหละ…
โรคเบิร์ต ฟรอสต์

รัสเซลล์

เซธ โกดิน นักเขียนชาวอเมริกัน
ผู้คนจะยอมจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อแลกกับสิ่งที่คาดไม่ถึง สิ่งที่หายากและล้ำค่า

โรเบิร์ต ริดจ์เวย์
Color Standards and Color Nomenclature

7

ออโต้จูน ถูกคิดค้นโดยนักธรณีวิทยา ผู้มีความสนใจด้านดนตรี เขาพบว่า ตัวเองสามารถเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง การปรับเปลี่ยนคลื่นความถี่ มาใช้ในการสร้างสรรค์งานเพลงได้

หรือคุณอาจ เอาแนวคิดเรื่อง จิตมนุษย์ และแม่แบบทางวัฒนธรรมของ นักจิตวิเคราะห์อย่างคาร์ล ยุงก์ ไปพัฒนาจนกลายเป็นทฤษฎีทางมนุษย์วิทยา ซึ่งอธิบายว่า ตำนานปรัมปราทุกเรื่องในโลกล้วนมีโครงเรื่องหลักเหมือนกัน แต่ก่อนอื่นคุณต้องมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เสียก่อนและหมายความว่า คุณต้องสนใจและกระหายใคร่รู้ถึงความเป็นไปในโลก

9

รีวิวหนังสือ หมวดหมู่ : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง
ผู้เขียน : Richard Newton | ริชาร์ด นิวตัน
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์


6

1. อย่าปล่อยตัวไปตามกระแส

บทเรียนชีวิตจากเพรียงหัวหอม

  • ตัวอ่อนเพรียง จะคล้ายกับ ลูกอ๊อด
  • หลังฟักออกมา จะว่ายไปทั่วทะเล หาอาหารและที่อยู่
  • เมื่อเจอโขดหิน หรือซากเรือเหมาะๆ ก็จะเกาะอยู่ตรงนั้น
  • จากนั้นก็จะไม่ไปไหนอีก อาหารก็สุดแต่ทะเลจะพามา
  • แล้วสุดท้ายเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้สมอง เพรียงหัวหอมก็จะกินสมองตัวเอง

สมองมนุษย์เหมืนหมูจอมตะกละ

  • มีน้ำหนักแค่ 1 ใน 50 ของน้ำหนักร่างกาย
  • แต่ใช้พลังงานถึง 1 ใน 5 ของพลังงานทั้งหมด
  • การส่งสัญญาณ 1 ครั้งเซลล์สมองต้องใช้พลังงานมาก
  • พอๆกับเซลล์กล้ามเนื้อขา ในการใช้ในการวิ่งมาราธอน

บทเรียนจากเพรียงหัวหอม คือ ถ้าไม่ใช้สมองก็จงกินมันซะ

พลังงานให้กำเนิดพลังงาน

  • ไม่ว่าจะนำความคิดไปทิศทางไหน ชีวิตก็จะมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น

ใครๆก็ทำได้

  • คนเราต่างมีวิธีการมองโลกของตัวเอง
  • การนำมาใช้ประโยชน์ต้องอาศัยการกระตุ้นความคิด
  • ยิ่งปรับวิธีคิดให้ถูกต้องได้เร็ว ก็จะยิ่งเข้าใจและประสบผลสำเร็จ
  • ต้องปรับความคิด ให้คิดใหญ่ขึ้น
  • จะได้มาซึ่งการตัดสินใจ และความคิดที่ดีขึ้น

เดี๋ยวนะ นี่ฉันคิดอะไรอยู่

  • ตัวคุณคือกุญแจสำคัญ ไม่จำเป็นต้องเพิ่งพาสิ่งอื่น
  • เพียงแค่คุณต้องดึงศักยภาพของคุณออกมา
  • ต้องเริ่มต้นว่า วันนั้นคุณจะคิดอะไร
  • เมื่อคุณใช้ความคิดกับสิ่งนั้น สิ่งนั้นก็จะนำทางชีวิตคุณ
  • พยายามฉุกคิดว่า เดี๋ยวนะ นี่ฉันคิดอะไรอยู่ ให้เป็นนิสัย
  • การควบคุมความคิด หมายถึง การไม่ปล่อยให้สมองคิดโดยอัตโนมัติ รวมถถึง ไม่ตอบสนองต่ออุปสรรคโดยไม่คิด
  • ยิ่งควบคุมความคิดของตัวเองได้มากเท่าไหร่ ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นมากเท่านั้น

วันจันทร์แห่งการเริ่มใหม่

  • วันแรกหลังจากหยุดยาวปีใหม่ทุกคนมีความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ไม่นานก็จะถูกทุกอย่างรุมเร้าจนค่อยๆลืมไป

เพรียงหัวหอมกินสมองตัวเอง

  • ชีวิตประกอบขึ้นจากสิ่งที่เราคิดในแต่ละวัน
  • การจดจ่อกับภาพรวมและสิ่งสำคัญต้องอาศัยการฝึกฝน

การหยุดคิดเป็นเรื่องง่าย

  • กรุงแบกแดดเคยเป็นเมืองหลวงทางปัญญาของโลก
  • แต่ในศตวรรษที่ 12 นักเผยแผ่ศาสนา ฮามิด อัล กาซาลี ประกาศว่า คณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ และฟิสิกส์ขัดแย้งกับคำสอนศาสนาอิสลาม
  • นั้นคือ จุดจบของกรุงแบกแดด ในฐานะศูนย์กลางความก้าวหน้า
  • เพียงเพราะศาสนาเข้ามาแทนที่การค้นคว้า
  • คัมภีร์เข้ามาแทนที่วิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์

บทเรียนที่สองจากเพรียงหัวหอม

  • หากใช้ชีวิตโดยไม่ใช้สมองคุณก็จะถูกกลืนสมองไปในที่สุด

ข้อคิดจากนิทาน ฝูงหมูป่าแห่งบึงโอกีฟีโนกี

  • ชายแปลกหน้าหันไปใช้วิธีใหม่จึงประสบความสำเร็จ
  • พวกหมูเลิกใช้สมอง จึงไม่ทันสังเกตว่าตัวเองถูกล้อมรั้วและโดนจับ

2. ทำหัวให้โล่ง

วังวนขยะในหัว

  • เต็มไปด้วย ความคิดเห็นของคนอื่น แรงกดดันในการทำงาน ข่าวลือ ธุระจุกจิก ความกลัว และอคติต่างๆ
  • หากอยากดึงศักยภาพออกมาใช้ ต้องค้นหาเป้าหมายของคุณหรือต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อน คืออะไร

เป้าหมายที่แท้จริง

  • การรู้ว่าสิ่งใดสำคัญกับคุณจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรทุ่มเทพลังงานไปที่ไหน
  • คุณแค่ต้องการทิศทางที่แน่ชัดเพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งสำคัญอย่างแท้จริง หมายความว่าในหัวของคุณต้องมีพื้นที่โล่งเสียก่อน

อย่าตกอยู่ในวังวนของการคิดที่คับแคบ

  • การหลงวนเวียนในเรื่องเรื่อยเปื่อยเป็นเรื่องง่าย
  • แต่คุณนั้นแหละที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น
  • วังวนขยะในสมองจะกัดกินเวลาที่คุณควรใช้กับสิ่งสำคัญ

ฝูงแกะชั้นยอด

  • คุณกำลังทำเพื่อเป้าหมายของตัวเองอยู่รึเปล่า?

ศาสตร์แห่งการใคร่ครวญและมองเห็นคุณค่า

  • ชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่หยุดแล้วมองไปรอบๆ คุณอาจจะพลาดอะไรไป
  • เราแทบไม่เคยหยุดนิ่งหรือใคร่ครวญถึงความน่าอัศจรรย์ของชีวิตและจักรวาล และนั้นคือ ความผิดพลาด เพราะการได้ครุ่นคิดว่าสิ่งใดสำคัญต่อเราอย่างแท้จริง เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต
  • การคิดใหญ่ > ใคร่ครวญว่าสิ่งใดสำคัญ > ทุ่มเทพลังงานไปกับสิ่งนั้น > รักทุกนาทีในชีวิต
  • หากไม่พยายามอย่างจริงจัง เราจะไม่ตระหนักถึงความน่าอัศจรรย์ของชีวิตและสิ่งสำคัญต่างๆ เหมือนกับปลาที่ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ

สิ่งสำคัญไม่อาจวัดเป็นตัวเลข

  1. แม้การวัดค่าเป็นตัวเลขจะมีประโยชน์ แต่มันไม่สามารถวัดความซับซ้อนของประสบการณ์มนุษย์ได้
  2. ถ้าโลกหมุนตามสิ่งที่วัดค่าเป็นตัวเลขได้ ความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ก็จะมีความสำคัญมาก
  3. โดยทั่วไปงานของนักเศรษฐศาสตร์คือการจัดการกับตัวเลข พวกเขาย่อมอยากรู้ว่าสิ่งใดวัดค่าเป็นตัวเลขได้ ชีวิตยังมีอะไรมากกว่าทรัพย์สินเงินทอง

ลัทธิบ้างาน

  • แนวคิดที่ว่าการทำงานเป็นความดีนั้นถือเป็นรากฐานของลัทธิบ้างานเลยกว่าว่าได้
    งูลอกคราบหลังจากงูลอกคราบแล้ว มันจะใช้ชีวิตต่อไปสักพักและเมื่อมันโตขึ้นก็จะลอกคราบอีกครั้ง
    ความคิดต่างๆ ล้วนเป็นผลลัพธ์จากประสบการณ์ชีวิต ถ้าคุณหลบหลีกขยะทางความคิดทั้งหลายพ้น คุณก็จะได้ปลดปล่อยจิตนาการของตัวเองให้โลดแล่น
    การใช้ประโยชน์จากความคิดต้องอาศัยความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นและการฝึกฝน แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่า

ไม่มีใครรักของปลอม

  • ความไม่สมบูรณ์แบบ ลักษณะเฉพาะตัว และอารมณ์ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านบทเพลง ทำให้เราหลงรักนักร้อง และเสียงของพวกเขา การใช้ออโต้จูนจึงเหมือนการหลอกลวง และดูปลอม
  • ดังนั้นการคิดใหญ่ พวกเขาจะไม่ลอกเลียนคนอื่น แต่จะพยายามเป็นตัวของตัวเอง
  • ไม่มีใครชอบของปลอม เราไม่ให้คุณค่าเพราะมันไม่มีความพิเศษ

5

3. เติมสิ่งดีๆใส่สมอง

  • สนใจแค่ทฤษฎีอย่างเดียวไม่พอ ต้องสนใจภาคปฏิบัติด้วย
  • ความสำเร็จไม่มีทางเกิดขึ้นได้หากไม่มีการทุ่มสุดตัวให้กับสิ่งที่หลงใหล
  • คุณไม่มีทางเป็นคนน่าสนใจได้ ถ้าคุณไม่มีความสนใจในสิ่งใดเลย
  • ยิ่งมีรากฐานให้ปีนป่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งไปได้ไกลเท่านั้น

เมนูสำหรับสมอง

  • ความรู้
  • ความหลงใหล
  • บุคคลต้นแบบ
  • อาจารย์
  • การอยู่ว่างๆ
  • คู่แข่ง
  • ความสันโดษ
  • การถกเถียงและการคิดต่าง
  • การติดใคร่ครวญ

เราไม่ใช่ผืนผ้าว่างเปล่า

  • ย่ามสารพัดนึกของเทพโฮเตอิ
    • เทพเจ้าแห่งโชคลาภของญี่ปุ่น
  • สำรวจให้กว้างและดำดิ่งให้ลึก
  • หยุดพักสักครึ่งนาที
    • เพื่อทบทวนสิ่งต่างๆและเลือกว่าสิ่งไหนสำคัญ

ใส่ผู้คนลงไปในย่ามของคุณด้วย เปิดรับไอเดียที่หลากหลายแล้วต้องพาตัวเองไปอยู่กับกลุ่มคนที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้คุณก้าวไปได้ไกลขึ้น

  1. มองหาต้นแบบ
  2. มองหาความเห็นต่าง
  3. อยู่ท่ามกลางมาตรฐานสูงๆ

ส่วนผสมวิเศษ การอยู่ว่างๆ

  • การทำสมาธิ
  • การคิดเรื่อยเปื่อย

ยิ่งคุณพาตัวเองไปซึมซับจากต้นแบบเก่งๆ และไอเดียดีๆ คิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง และใช้ชีวิตด้วยความ สนอกสนใจและกระตือรือร้นมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีของขวัญที่จะมอบให้โลกใบนี้มากขึ้นเท่านั้น

เม่นแคระกับสุนัขจิ้งจอก

  • สุนัขจิ้งจอกมีวิธีมากมายในการหลบหนีจากผู้ล่า
  • ส่วนเม่นแคระนั้นวิ่งช้า มันมีวิธีเดียวนั้นคือการม้วนตัวเป็นลูกบอลหนาม
  • สุนัขจิ้งจอกทำหลายสิ่งได้ค่อนข้างดี ส่วนแม่นแคระทำสิ่งเดียวได้ดีมากๆ
  • จิ้งจอกรู้รอบ เม่นแคระรู้จริง
    • วิธีคิดแบบเม่นแคระจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องเดียวเพิ่มโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จในเรื่องนั้น
    • วิธีคิดแบบจิ้งจอกมีความหลากหลาย จะทำให้คุณมีทางเลือกมากขึ้น

4. หูตาต้องไว

เรียนรู้ที่จะจับสังเกต เมื่อมีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้น

  • แค่ต้องรู้ว่ากำลังมองหาอะไร แล้วคุณจะรู้ได้ทันทีที่สิ่งนั้นเกิดขึ้นซึ่งสิ่งนั้นก็คือความรู้สึกสะกิดใจว่ามีอะไรแปลกๆ และควรค่าแก่การคิดทบทวน
  • การจะสังเกตเห็นและใช้ประโยชน์จากมันถือเป็นทักษะอย่างหนึ่ง สิ่งที่คุณต้องทำคือเปิดใจให้กว้าง
  • การสังเกตเห็นไอเดียและวิธีแก้ปัญหานั้นยากกว่ามาก

ดึงออกมาให้ได้

  • เมื่อไอเดีย หรือเรื่องแปลกเกิดขึ้น หยุดทำทุกอย่างเดียวนี้ ปล่อยให้สมองขบคิดว่าอะไรที่แปลก อะไรที่ซ่อนอยู่ หรือจะนำมาใช้ได้อย่างไร
  • หยุดสิ่งรบกวน คำตอบก็คือ คุณต้องหนีจากวังวนขยะ ถ้าอยากสังเกตเห็นสิ่งต่างๆ คุณต้องเลิกจดจ่อกับความคิดที่วุ่นวายรกสมอง
  • ความเบื่อหน่ายช่วยให้ไอเดียต่างๆผุดขึ้นมาได้
  • สิ่งที่ยอดเยี่ยมทั้งหลายมักเป็นผลมาจากความเบื่อหน่าย นำไปสู่การคิดใหญ่ในเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
  • การสร้างภาวะที่น่าเบื่อหน่าย ช่วยให้ผู้คนคิดอะไรแปลกใหม่ได้มากขึ้น
  • ช่างสังเกตให้เหมือนนักดนตรี
  • จดไอเดียลงไป เมื่อมีไอเดียดีๆ รีบจดมันลงไป

หนีจากระบบ

ช่วงเวลาที่คุณค้นพบว่าเพียงแค่เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสถานการณ์ต่างๆ คุณก็จะเจอหนทางใหม่ที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมาย หรือใช้ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่

4

5. อย่าปฏิเสธความจริง แต่จงเปลี่ยนมันให้ได้

ต่อต้านไปก็ไร้ประโยชน์ ปฏิกิริยาที่มนุษย์มีต่อเทคโนโลยีอยู่ใต้กฎ 3 ข้อนี้

  1. สิ่งที่มีอยู่แล้วตอนเกิดมา ดูเป็นสิ่งปกติธรรมดา
  2. สิ่งที่ถูกสร้างตอนอายุ 15-35 ดูเป็นสิ่งแปลกใหม่
  3. สิ่งที่ถูกสร้างหลังอายุ 35 ปี จะเป็นสิ่งฝืนธรรมชาติ

ความรู้สึกต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันจะไม่พาคุณไปไหนไกล

จะไปทางไหนดี

  • คนที่ต่อต้านจะบอกว่า ฉันไม่ต้องการสิ่งนี้
  • คนที่ยอมรับจะบอกว่า ลูกดูสักตั้ง
  • การต่อต้าน นำไปสู่การหยุดชะงัก และทำให้เสียพลังงานมากโดยเปล่าประโยชน์
  • การยอมรับ จะช่วยตั้งเป้าหมายบนรากฐานอันมั่นคงและก้าวหน้าไปได้ไกลกว่า

จะชนะได้ไม่ต้องถอดใจ

  • เมื่อมีไอเดียใหม่ๆขึ้นมา อย่าเพิ่งทำอะไรนอกจากคิดต่อสักครึ่งนาที จากนั้นอีกครึ่งนาทีจดมันลงไป
  • เวลาที่ต้องหยุดชะงักเพราะปฏิกิริยาที่คนอื่นมีต่อไอเดียของคุณหรือเพราะคุณนึกสงสัยตัวเองขึ้นมา ให้ลองคิด พิจารณา ยอมรับแก้ไข
  • หลังจบประขุมทุกครั้ง ใช้เวลา 1 นาทีจดบันทึกสิ่งที่สังเกตเห็นหรือสิ่งที่ได้รับ

6. ทั้งถ่อมตนและหลงตัวเอง

ทำตัวเป็นมือสมัครเล่น

  • มือสมัครเล่นเท่านั้นที่เป็นผู้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ และดินแดนใหม่ๆ
  • วิทยาศาสตร์คือการเชื่อในความไม่รู้ของผู้เชี่ยวชาญ
  • การคิดโดยใช้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่าในโลกนี้ไม่มีทฤษฎีใดที่ถูกต้องเสมอไป
  • หากจะให้ถูกต้องตามวิทยาศาสตร์ ทฤษฎี ก็คือ สมมุติฐานที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริงเสมอ

เสาะหาอุปสรรค

  • อุปสรรคคือจุดเริ่มต้นสู่แรงบันดาลใจ
  • คุณต้องสู้เพื่อสิ่งที่คุณเชื่อและสร้างสรรค์ขึ้นมา
  • กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อความคิดของคุณ และถ่อมตัวพอที่จะยอมรับเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายผิด

ใครคาดการณ์แม่นยำที่สุด

  • คนที่มีอาการซึมเศร้าขั้นรุนแรง คาดการณ์เลวร้ายเกินจริง
  • คนที่มีอาการซึมเศร้าเล็กน้อย คาดการณ์ได้ค่อนข้างแม่นยำ
  • คนที่มีอาการซึมเศร้าขั้นรุนแรง คาดการณ์ดีเกินจริง
  • การมองโลกแง่ดี คือ การไม่ยอมรับความจริง

3

7. ใช้ของดีในตัว

คิดแบบเป็นขั้นตอนกับคิดแบบอิสระต้องรู้ว่า เวลาไหนควรจดจ่อความคิด และเวลาไหนควรปล่อยให้จิตใต้สำนึกทำงาน ไอเดียใหญ่ๆ มาจากของสองสิ่ง

  1. แรงบันดาลใจ ความหลงไหล
  2. การคิด และทำอย่างเป็นขั้นตอน

คุณต้องรู้ว่ามีของดีในตัว และรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรใช้มัน

สับสวิตช์

สมองคนเราจะสลับไปมาระหว่างการคิดแบบเป็นขั้นตอน กับการคิดแบบอิสระ แต่จะใช้ความคิดแบบใดก่อนขึ้นอยู่กับว่าคุณแก้ปัญหาไปถึงไหนแล้ว

8. กำจัดตัวถ่วง

ตรวจสอบความเชื่อของคุณให้ดี

  • คนเราจะยอมโดนผูกมัด ก็ต่อเมื่อเราเชื่อว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว

ระวังอย่าสับสน

  • ระวังความเสมอต้นเสมอปลาย เพราะมันทำให้คุณมีความคิดที่คับแคบ
  • โยนคู่มือทิ้งไป มองหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ
  • เมื่อไหร่ที่มนุษย์โยนความคิดแย่ๆทิ้งไป แล้วลงมือใช้ความคิดกับเรื่องต่างๆอย่างแท้จริง เราจะมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดมากนัก

เคล็ดลับที่ช่วยให้มองเห็นอย่างชัดเจน

  • มองในมุมมองของคนนอก

9. โดนใจ

ถ้าไม่โดนใจก็ไร้ความหมาย

  • หากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ได้ ไอเดียของคุณต้องโดนใจ

เมื่อมันโดนใจคุณ ต้องตรวจสอบไอเดียนั้นว่าเป็นไปตามเงื่อนไขรึเปล่า

  1. คุณมั่นใจว่าไอเดียสะท้อนถึงสิ่งที่ต้องการจริงๆ
  2. ไอเดียตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
  3. จะสามารถทำให้ไอเดียนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้

เมื่อมันโดนใจคนอื่น

  • ความรู้สึกเชื่อมโยงของไอเดียมีจะเติบโตและขยายใหญ่ขึ้น

เล่าเรื่องของคุณ

  • หากต้องการให้คนอื่นๆ รู้สึกเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณคิด คุณต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นนักเล่าเรื่องเสียก่อน

อย่าต้านแรงลม

  • ความคิดของคุณก็เหมือนเรือ มันต้องการแรงหนุนที่จะช่วยส่งให้ถึงเป้าหมาย
  • เมื่อคุณพยายามคิดให้ใหญ่ขึ้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือคำวิจารณ์ที่มีประโยชน์

 

รีวิวหนังสือ โดย : คุณปิยาพัชร ปกครอง (ปาร์มี่)

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3nwlrrx