ยังหนัก! รวมข่าวปลดพนักงาน layoff ไทยเทศ ในรอบปี 2565

ในรอบปีที่ผ่านมาทั่วโลกต้องเจอปัญหาใหญ่คือภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ผสมผสานกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้ต้องมีการ “ปรับลดขนาดองค์กร” เพื่อความอยู่รอด โดยหลายธุรกิจมีการปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุน

หรือลดการจ้างงานเพื่อใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ข้อมูลชัดเจนว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมาบริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีได้ปรับลดพนักงานลงแล้วมากกว่า 21,000 ตำแหน่ง ส่วนข้อมูลในประเทศไทย

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่าเฉพาะในเดือนกรกฏาคม 2565 มีธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการจำนวน 1,543 ราย เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อนหน้า ซึ่งแน่นอนว่าการเลิกกิจการก็ต้องหมายถึงการเลิกจ้างพนักงานด้วยเช่นกัน และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบ รวมข่าวปลดพนักงาน layoff ไทยเทศ ในรอบปี 2565 มีที่ไหนบ้าง ลองไปติดตามดูกัน

1. Netflix ปลดพนักงาน 150 คน

รวมข่าวปลดพนักงาน

ภาพจาก https://nbcnews.to/3hulnv2

ช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 มีข่าวว่า Netflix ปลดพนักงาน 150 คน หลังจากรายได้ลดลง เพราะสมาชิก ลดลงทั่วโลกกว่า 200,000 ราย การตัดสินใจปลดพนักงาน 150 คนครั้งนี้ คิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด 11,000 คน และการปลดครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา

2. Tesla ประกาศปลดพนักงานกว่า 10,000 คน

14

ภาพจาก https://bit.ly/3Py0vj9

Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ต้องมีการปรับลดต้นทุนทางธุรกิจ และมองว่า Tesla พนักงานมากเกินไป จึงถือโอกาสนี้ประกาศเป้าหมายลดพนักงานลง 10% หรือประมาณ 10,000 คน

3. Coinbase ปลดพนักงานกว่า 1,100 คน

13

ภาพจาก https://bit.ly/3j8nIw7

Coinbase แพลตฟอร์มตลาดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี ที่ได้ประกาศแผนชะลอการจ้างงานใหม่ แต่ยังไม่ทันไรก็มีการปลดพนักงานออกด้วย โดยเป็นการเลิกจ้างประมาณ 18% หรือ 1,100 คน ภายใต้เป้าหมายลดพนักงานเหลือ 5,000 คนก่อนสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2565

4. META ประกาศปลดพนักงาน 11,000 คน

12

ภาพจาก https://reut.rs/3PvLOwV

บริษัท META ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook ประกาศเลย์ออฟ หรือปลดพนักงาน 11,000 คน คิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานทั้งหมดกว่า 87,000 คนทั่วโลก ซึ่งการลดพนักงานครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2004 สาเหตุหลักที่ต้องปรับลดพนักงานลงคือภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและการเจอคู่แข่งอย่าง TikTok

5.ทวิตเตอร์ ประกาศปลดพนักงาน 3,700 คน

11

ภาพจาก https://bit.ly/3YrIXcI

ทวิตเตอร์ ได้ประกาศปรับลดพนักงานในส่วนของทีมความไว้วางใจและความปลอดภัย ซึ่งรับผิดชอบในการป้องกันการแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและเนื้อหาที่เป็นอันตรายราว 15 % ขณะที่การเลิกจ้างพนักงานของบริษัทโดยรวม ได้ส่งผลกระทบต่อพนักงาน 50% หรือราว 3,700 คน จากพนักงานทั้งหมด 7,500 คน

6.บริษัทมูดีส์ คอร์ป ประกาศปิดธุรกิจในจีนและปลดพนักงาน 100 ตำแหน่ง

10

ภาพจาก https://bit.ly/3YskELs

บริษัทมูดีส์ คอร์ป ประกาศปิดธุรกิจด้านบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดำเนินงานในประเทศจีน และมีการปลดพนักงานประมาณ 100 ตำแหน่งอย่างไรก็ดี ธุรกิจการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของมูดีส์ในประเทศจีนจะยังคงดำเนินต่อไป ทั้งนี้ธุรกิจบริหารจัดการความเสี่ยงของมูดีส์ในประเทศจีนชะลอตัวลงในช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัทอีกหลายแห่งในตลาดวอลล์สตรีทก็ซบเซาลงเช่นกัน

7.อิเล็กโทรลักซ์ ปลดพนักงาน 50,000 คน

9

ภาพจาก https://bit.ly/3PreWpi

อิเล็กโทรลักซ์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนของสวีเดน ประกาศปลดพนักงาน 8% จากจำนวนพนักงาน 50,000 คนทั่วโลก หรือประมาณ 3,500-4,000 คน สาเหตุของการประกาศปลดพนักงานในครั้งนี้ เกิดจากความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่ลดลง รวมถึง เป็นการลดต้นทุนหลังบริษัทประสบปัญหาด้านผลประกอบการลดลงอย่างมาก

8.ฟิลิปส์เตรียมปลดพนักงานกว่า 4,000 คน

ฟิลิปส์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของเนเธอร์แลนด์ มีแผนปลดพนักงานทั่วโลกราว 4,000 คน หลังประสบปัญหาการขาดทุนต่อเนื่องจากการเรียกคืนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีปัญหา จนทำให้มูลค่าตลาดลดลงถึง 70% จากปี2564

9.Shopee ปรับลดพนักงานในประเทศไทย

8

ภาพจาก https://bit.ly/3j7Lico

บริษัท ช้อปปี้ ประเทศไทย (Shopee) มีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ทั่วภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์หลัก ที่จะมีปรับโครงสร้างให้องค์กรมีความคล่องตัวโดยจะมีการปรับลดพนักงานในไทยลงใน “จำนวนเปอร์เซ็นต์เป็นตัวเลขหลักเดียว” การลดพนักงานลงครั้งนี้ จะไม่กระทบถึงภาพรวมการดำเนินงานของ Shopee ในประเทศไทยอย่างไร ทุกอย่างยังคงเดินหน้าต่อ โดยปัจจุบัน Shopee มีพนักงานในไทยราว 1,000 คน

10.บริษัท สแน็ป อิงค์ ปลดพนักงานกว่า 1,000 คน

7

ภาพจาก https://bit.ly/3VWli2i

บริษัท สแน็ป อิงค์ เตรียมปลดพนักงาน 20% หรือประมาณ 1,000 คนจากพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 6,400 คน และทีมที่มีโอกาสถูกปลดออกมากที่สุดคือ ฝ่ายพัฒนามินิแอปและเกม โดยปัญหาหลักที่ทำให้สแน็ปต้องปรับลดพนักงานคือภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้การทำโฆษณาดิจิทอลมีปัญหา

11.Seagate ปรับโครงสร้างลดพนักงานกว่า 3,000 คน

6

ภาพจาก https://bit.ly/3VfzjqV

บริษัท Seagate ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์ชั้นนำ เตรียมปรับลดโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงความจำเป็นในการ ปลดพนักงาน ของบริษัทมากถึง 3,000 คน ซึ่งทางบริษัทวางแผนที่จะลดจำนวนพนักงานทั่วโลก 8% หรือประมาณ 3,000 คน โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความต้องการชิ้นส่วนที่ลดลง ซ่งคาดว่าการเลิกจ้างจะช่วยให้บริษัทประหยัดเงินได้ประมาณ 110 ล้านดอลลาร์ต่อปี

12.Amazon ปรับลดพนักงานกว่า 10,000 คน

5

ภาพจาก https://bit.ly/3VZMhu1

Amazon ได้แจ้งพนักงานว่าบริษัทจะเลิกจ้างพนักงานเพิ่มอีกในช่วงต้นปี 2023 แม้เพิ่งจะปลดพนักงานออกถึง 10,000 คนหรือคิดเป็น 3% ของพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นการปลดพนักงานครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ซึ่งการเลิกจ้างที่ผ่านมาจำนวน 10,000 คนนี้ คิดเป็นเพียงร้อยละ 1 ของพนักงาน Amazon ทั่วโลกที่มีมากกว่า 1.5 ล้านคน แต่ก็ถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Amazon

13.HP ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 4,000-6,000

4

ภาพจาก https://bit.ly/3uPOhca

HP บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก ประกาศจะลดขนาดองค์กรลง เนื่องจากความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีแผนเลิกจ้างพนักงาน 4,000-6,000 คนในช่วง 3 ปีข้างหน้า ที่คาดว่าแผนการปรับลดพนักงานลงนี้จะประหยัดต้นทุนได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี

14.ฟอร์ด ประกาศลดการจ้างพนักงานลง 3,000 คน

3

ภาพจาก https://bit.ly/3WiMhEX

“ฟอร์ด” ประกาศลดการจ้างพนักงานลง 3,000 คน และเดินหน้าผลิต รถยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าปี 2023 จะผลิต รถยนต์ไฟฟ้า ให้ได้ครึ่งหนึ่งของสายการผลิต โดยระบุว่าตำแหน่งที่จะถูกตัดนั้นเป็นพนักงานเต็มเวลา 2,000 คน ซึ่งคิดเป็น 6% ของจำนวนพนักงานสำนักงานทั้งหมดของ ฟอร์ด 31,000 คนในอเมริกาและแคนาดา และพนักงานชั่วคราวอีก 1,000 คน โดยที่ พนักงานฝ่ายผลิตที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานรถยนต์จำนวน 56,000 คนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดจำนวนพนักงานในครั้งนี้

15.สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ ประกาศปิดกิจการ เลิกจ้างพนักงานกว่า 200 คน

2

ภาพจาก https://bit.ly/3FUtsmh

สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ซึ่งเปิดเดำเนินกิจการมากว่า 20 ปี ประกาศปิดตัวอย่างเป็นทางการ และปลดพนักงานทั้งหมดกว่า 200 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยบริษัทฯ ได้แจ้งพนักงานไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 พร้อมจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน สำหรับสาเหตุการปิดกิจการในครั้งนี้ เกิดจากภาวะขาดทุน เพราะมีการแข่งขันกันสูง แม้ว่าบริษัทฯ จะปรับรูปแบบมาทำสื่อออนไลน์แทน แต่ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้

16.บริษัท เจวีซีเคนวูด อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเลิกกิจการในเมืองไทย

1

ภาพจาก https://bit.ly/3V0YeOz

บริษัท เจวีซีเคนวูด อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากบริษัทประกาศปิดกิจการถาวรเพื่อย้ายฐานการผลิตกลับญี่ปุ่น โดยการประกาศปิดกิจการดังกล่าวได้มีการแจ้งล่วงหน้าต่อพนักงานของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายให้แก่พนักงานทุกคน และมีเงินสบทบให้แก่พนักงานอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

ในปี 2566 ที่จะถึงนี้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในประเทศและทั่วโลกจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ก็อาจเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราได้เห็นข่าวการเลิกจ้างลดน้อยลง แต่ปัจจัยที่ยังน่าห่วงคือการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่อาจจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น และอาจเป็นเหตุผลสำคัญในการปรับลดพนักงานเพื่อหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้นได้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3VVblSw , https://bit.ly/3Y1tWy4 , https://bit.ly/3uqyVuv , https://bit.ly/3FrT75C , https://bit.ly/3iD9Fyv , https://bit.ly/3h604Qr , https://bit.ly/3iG4E8v , https://bit.ly/3UBK5qO , https://bit.ly/3Y0wQmt , https://bit.ly/3P3bKQl , https://bit.ly/3HhOzzY , https://bit.ly/3h13Fz5

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3UWfCUM

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต