บริหารร้านบุฟเฟ่ต์อย่างไร ลูกค้ารู้สึกคุ้ม ร้านอยู่รอด

การเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ ให้มีกำไรและอยู่รอดอาจไม่ใช่เรื่องง่ายของหลายๆ คน เนื่องจากต้องบริหารจัดการในเรื่องของต้นทุนอาหารไม่ให้สูง ควบคู่กับการทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีวิธีการบริหารจัดการร้านบุฟเฟ่ต์ให้อยู่รอด ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า ร้านอยู่ได้ มานำเสนอให้ทราบ

หัวใจสำคัญของการทำร้านบุฟเฟ่ต์ ก็คือ การสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ความรู้สึกของคนกินบุฟเฟ่ต์ คือ ต้องคุ้ม ต้องได้เยอะ ต้องถล่มให้แหลก หากลูกค้ากินร้านบุฟเฟ่ต์แล้ว รู้สึกไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โอกาสจะกลับมาอีกก็ยาก

ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลายของอาหาร และคุณภาพอาหารที่ดีเยี่ยม เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกคุ้มค่า แม้ว่าราคาจะแพง ลูกค้าที่กินราคาถูกอาจรู้สึกไม่คุ้มก็มี เพราะอาหารน้อย ไม่อร่อย

บริหารร้าน

ภาพจาก bit.ly/3ihRY1C

ส่วนในเรื่องของการตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 เป็นการตั้งราคาเชิงจิตวิทยา ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า จ่ายไม่แพงเท่าไรนัก เช่น บุฟเฟต์ราคา 199 บาท ลูกค้าจะรู้สึกว่าจ่ายเงินเพียงแค่ 100 กว่าบาทยังไม่ถึง 200 บาท ทำให้รู้สึกว่าราคายังจับต้องได้

นอกจกนี้ ผู้ที่จะเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ต้องศึกษาคู่แข่งว่าขายเท่าไหร่แล้วทดสอบ เช่น เอาเพื่อนมา 5 คน กินเท่าไรก็ได้ กินไปเลย แล้วประเมินดูว่า คนหนึ่งโดยเฉลี่ยกินหมูกี่กรัม กินเนื้อกี่กรัม กินปลากี่กรัม ตีออกมาเป็นต้นทุนเท่าไหร่ เป็นต้นทุนอาหารกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปิดร้านแล้วอยู่ได้หรือไม่ ถ้าอยู่ในช่วงที่กำหนดไว้ ก็เปิดร้านได้เลย

19

ภาพจาก bit.ly/3jn1Zfr

ถ้าหากมีคนบอกว่าให้หอยนางรมเยอะขนาดนี้ก็เจ๊งอย่างเดียว ราคาตั้งหลายบาท แต่อย่าลืมว่าเวลาหากเราเป็นลูกค้าจะมองในมูลค่าของสินค้า เช่น หอย 1 ตัว ราคาขาย 99 บาท เขาคิดว่า กิน 5 ตัว ก็ 500 แล้ว คุ้ม แต่ฐานะเจ้าของร้านไม่ได้ซื้อของในราคา 99 บาท อาจจะซื้อตัวละ 30 บาท หากกิน 5 ตัว ยังแค่ 150 บาท แต่จริงๆ ลูกค้าไม่กินหอยอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม การเปิดร้านบุฟเฟ่ต์เราจะไม่สามารถบังคับให้ลูกค้ากินนั่นกินนี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นของแพง หรือถูก แต่ถ้าลูกค้าชอบกินแต่ของแพงๆ ควรนำวัตถุดิบอะไรแพง วางไว้ด้านในสุดของร้าน เพราะกว่าลูกค้าจะเดินไปถึงต้องมีการตักวัตถุดิบอื่นๆ ใส่ไปในจาน เมื่อถึงตัววัตถุดิบแพงจานก็เต็มแล้ว ทำให้ใส่ของได้อีกไม่มาก รอมาตักรอบหน้าท้องก็คงเริ่มแน่นแล้ว

18

ภาพจาก bit.ly/3cQvZxx

เรื่องของการบริการลูกค้าในร้านก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะการเสิร์ฟน้ำ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ถ้าเมื่อไหร่เห็นน้ำในแก้วลูกค้าลดลงต่ำกว่าครึ่ง พนักงานจะต้องรู้หน้าที่สำคัญคือ รีบไปเติมให้เลย เนื่องจากพฤติกรรมคนกินบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่เมื่อเห็นปริมาณน้ำเต็มแก้วใหม่ๆ มักจะหยิบขึ้นมาจิบเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ เมื่อจิบบ่อยๆ ท้องก็แน่นแล้ว

หรือแม้แต่การจัดโปรโมชั่น อย่าได้มองข้าม แต่ต้องทำอย่างมีวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และต้องสามารถวัดผลได้ เช่น ทำโปรโมชั่น มา 5 จ่าย 4 ช่วงเวลา 14.00 – 17.00 น. (จันทร์-ศุกร์) เพื่อเพิ่มยอดขายในช่วง 14.00 – 17.00 น. เนื่องจากในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ไม่มีลูกค้า จึงสามารถทำโปรโมชั่นส่วนลดในการดึงลูกค้าเข้าร้านได้

ร้านบุฟเฟ่ต์ที่จะประสบความสำเร็จ อยู่รอดได้ ต้องควบคุมต้นทุนให้ได้ พร้อมกับการทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/36wvebT

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช