บทความพิเศษเรื่อง เทคนิค วิธีการล้าง สารพิษ ตกค้างในผัก ผลไม้แบบชาวบ้าน

ในการลด ละ เลี่ยง เลิก ในการใช้ สารพิษ ถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา หลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ผลิตหรือเกษตรกรเอง ต้องมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือกัน ตั้งแต่ระดับต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เราจึงจะมีแหล่งอาหารที่สะอาด ปลอดภัย

แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้คนไทยยังไม่สามารถหลีก เลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ จึงขอแนะนำเทคนิคเกี่ยวกับการทำความสะอาดพืชผักผลไม้ให้มั่นใจก่อนรับประทาน ดังนี้

1. การแช่น้ำ

เริ่มด้วยการล้างผักรอบแรกให้ สะอาดเสียก่อน หลังจากนั้นเด็ดผักออกเป็นใบๆ แล้วนำมาแช่ในภาชนะที่เตรียมไว้ ประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะ ช่วยลด สารพิษ จากฆ่ายาแมลงได้ ประมาณ 7-33%

2. ล้างผักในน้ำ

ที่ไหลผ่านอย่างเช่นน้ำก๊อก ประมาณ 2-5 นาที โดยเด็ดผักออกเป็นใบ ๆ นำมาใส่ในตะกร้าหรือตะแกรงโปร่ง แล้วเปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ระหว่างล้างให้ใช้มือช่วยคลี่ใบ ผักและถูไปมาบนผิวใบของผักผลไม้ ไปด้วยประมาณ 2 นาที วิธีนี้จะช่วยลด สารพิษ จากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25-63% (วิธีนี้เป็นวิธี ที่นิยมและได้ผลดีมากวิธีหนึ่ง แต่จะมีข้อเสียในเรื่องของการ ใช้เวลานานในการล้างและต้องใช้ น้ำสะอาดปริมาณมาก)

3. ปอกเปลือก

วิธีนี้ให้นำผักหรือผลไม้มาปอก เปลือกหรือการลอกใบผักชั้น นอกออก เช่น กะหล่ำปลี ฯลฯ โดยให้ลอกเปลือกหรือกาบด้าน นอกออกทิ้งสัก 2-3 ใบ เพราะ สารพิษ ส่วนใหญ่จะสะสมตก ค้างบริเวณเปลือกด้านนอกหรือ บริเวณกาบ แล้วจึงนำไปแช่ในน้ำสะอาดอีกประมาณ 5-10 นาที หลังจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาด อีกครั้งหนึ่ง วิธีนี้จะ ช่วยลดปริมาณของ สารพิษ ตกค้าง ได้ประมาณ 27-72%

4. น้ำเกลือ

ให้ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกับน้ำ 4 ลิตร แล้วนำผักผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำ สะอาดอีกครั้งหนึ่ง จะช่วย ลดปริมาณของ สารพิษ ตกค้างได้ ประมาณ 27-38% (วิธีนี้ไม่ค่อยเป็น ที่นิยมมากนัก เพราะลดปริมาณของ สารพิษ ได้ไม่ มาก และอาจทำให้ผักและผลไม้มีรสเค็มได้) แต่บางข้อมูลกลับระบุว่าการใช้ น้ำเกลือล้างผักผลไม้ไม่ได้ช่วย ทำให้ผักสะอาดขึ้นได้แต่อย่างใด เนื่องจากเกลือเป็นโซเดียมคลอไรด์ที่มีส่วนทำให้สารตกค้าง หรือยาฆ่าแมลงนั้นคงทนยิ่งขึ้น ทำให้ยังมีสารตกค้างอยู่ผักและ ผลไม้ (แต่ข้อมูลส่วนนี้เองผู้เขียนเองก็หาแหล่งอ้างอิงไม่เจอครับ จริงเท็จประการใดก็ไม่ทราบ ทางที่ดีก็ให้ลองเลือกใช้วิธีอื่นแทนจะดีกว่าครับ)

5. น้ำซาวข้าว

ให้นำผักหรือผลไม้มาแช่ด้วยน้ำซาวข้าวประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำ สะอาดอีกครั้ง วิธีนี้จะ ช่วยลดปริมาณของ สารพิษ ตกค้าง ได้ 29-38%

6. น้ำปูนใส (ทำมาจากปูนแดงหรือปูนขาวที่กิน กับหมาก)

ให้เตรียมน้ำปูนใสอิ่มตัวที่ผสมกับน้ำเท่าตัว แล้วนำผักมาแช่ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณของ สารพิษ ตกค้างได้ประมาณ 34-52%

7. ผงปูนคลอรีน (Calcium Hypochlorite แคลเซียมไฮโปคลอไรต์)

ให้ใช้ผงปูนคลอรีน 60% จำนวน 1/2 ช้อน ชา (ความเข้มข้นของคลอรีน 50 พีพี เอ็ม) นำมาผสมกับน้ำ 20 ลิตร แล้วนำมาผักผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 15-30 นาที วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ดี มาก

สารพิษ

8. ด่างทับทิม (Potassium permanganate โพแทสเซียม เปอร์แมงกาเนต)

ให้ใช้ด่างทับทิมประมาณ 20-30 เกล็ด ผสมกับน้ำ 4 ลิตร แล้วจึงนำผักมาแช่ไว้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยสะอาดอีกครั้งหนึ่ง วิธีนี้จะช่วยลดประมาณของ สารพิษ ตกค้างได้ประมาณ 35-43% (การใช้ด่างทับทิมใน ปริมาณที่มากจนเกินไป อาจเป็นอันตายต่อระบบทางเดิน อาหาร ถ้าหากสูดดมไอระเหยของด่างทับทิมเข้าไปมาก ๆ ก็อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจมี ปัญหาได้ และถ้าด่างทับทิมเข้าตาก็อาจทำให้ตาบอดได้ ดังนั้นการใช้วิธีนี้จึงต้องใช้ อย่างระมัดระวังครับ อีกอย่างการใช้ด่างทับทิมต้อง ใช้ในปริมาณน้อย ไม่อย่างนั้นผักและผลไม้จะเหี่ยวหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ ทำให้เปื้อนมือ เปื้อนอ่างด้วย)

9. น้ำส้มสายชู (Vinegar)

วิธีนี้ให้เตรียมน้ำ สายชูที่มีกรดน้ำส้มความเข้มข้น 5% ของกรด น้ำส้ม นำมาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 10 แล้วจึงนำผัก มาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ หนึ่ง จะช่วยลด สารพิษ จากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 60-84% (วิธีนี้ภาชนะไม่ ควรเป็นพลาสติก และการล้างผักด้วยวิธีนี้อาจทำ ให้ผักบางชนิดมีกลิ่นของน้ำส้มสายชูติดมาได้ เพราะผักบางอย่าง เช่น ผักกาดขาว ผักกาดเขียว อาจมีการดูดรสเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชู)

10. เบกกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) บ้างก็เรียกว่า “โซดาทำ ขนมปัง”

เป็นวิธีที่นิยมกัน มากการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 10 ลิตร แล้วนำผักหรือผลไม้มาแช่ไว้ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำ เปล่า 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยลด สารพิษได้มาก ถึง 90-95% เลยทีเดียว (ข้อเสียของการใช้เบกกิ้งโซดาในการล้างผักผลไม้ คือจะมีส่วนผสมของโซเดียมอยู่ และอาจจะดูดซึมเข้าสู่ผักและผล ไม้ที่นำไปแช่ได้ เพราะถ้าหากล้างไม่สะอาด การได้รับเบกกิ้งโซดาในปริมาณ มากเกินไปก็อาจทำให้ท้องเสีย ได้) เพิ่มเติม : เบกกิ้งโซดาไม่ใช่ผงฟู เพราะผงฟูคือ เบกกิ้งโซดา + แป้ง

11. ผงฟู (Baking Powder) (เบกกิ้ง โซดา + แป้ง)

ให้ใช้ผงฟู 1/2 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา 10 ลิตร แล้วนำผักหรือผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีก ครั้งหนึ่ง วิธีนี้สามารถ ช่วยลดปริมาณของ สารพิษ จากยา ฆ่าแมลงได้มากกว่า 90% และเป็นวิธีที่ ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย (เพราะผงฟูกินได้)

12. น้ำยาล้างผัก

การแช่ผักในน้ำยาล้างผักที่มี วางจำหน่ายกันอยู่ทั่วไป ให้เลือกใช้ที่มีความเข้มข้น ประมาณ 0.3% ในน้ำ 4 ลิตร และนำผักหรือผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณของ สารพิษ จากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25-70% (การเลือกใช้น้ำยาล้าง ผักจะต้องดูให้ดีกว่าน้ำยาล้าง ผักมีส่วนประกอบอะไรบ้าง และต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะในบางครั้งน้ำยาล้างผักจะ แทรกซึมเข้าไปในผักและอาจเป็น อันตรายกับเราได้)

13. น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาล้างขวดนม

การล้างผลไม้โดยใช้น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาล้างขวดนมกับฟองน้ำถูเบา ๆ จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อที่อยู่บริเวณผิวของผลไม้ได้ และการล้างไข่ก่อนทำอาหารก็ สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน โดย วิธีนี้จะช่วยลดการปนเปื้อน ของเชื้อได้มากกว่า 95%

14. ผงถ่าน ผงถ่านแอคติเวทชาร์โคลหรือ ผงคาร์บอน กัมมันต์ (activated carbon) หรือ ถ่านกัมมันต์ (activate chacoal)

เป็นวัสดุคาร์บอนซึ่งมีเนื้อพรุน มีคุณสมบัติในการดูดซับสูงมาก ทำให้มันสามารถจับสารในปริมาณมากมายไว้ที่ผิว ด้วยคุณสมบัตินี้เองเราจึงนำมาใช้ ประโยชน์ในการล้างผักผลไม้ได้ ซึ่งจะช่วยดูดกลิ่น ดูดสี ดูดซับ สารพิษ ออกจากผัก แต่จะไม่ดูดซับแร่ธาตุออกไป อีกทั้งร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึม ผงถ่านได้ จึงไม่เป็นอันตรายเพราะร่างกาย สามารถขับออกได้ แต่การนำมาใช้ล้างผักผลไม้ หากใช้ในปริมาณน้อยและแช่ไว้ไม่ นานพอ จะไม่สามารถดูดซับสารพิษออกมาได้หมดครับ วิธีนี้ให้ใช้ผงถ่าน 1 ช้อน ชา ต่อน้ำ 5 ลิตร แล้วนำผักผลไม้มาแช่ไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

** วิธีการทำความสะอาดผักอ้างอิงบาง ส่วนจาก : วารสาร หมอชาวบ้าน **

สนับ สนุนบทความโดย นาย มนตรี บุญจรัส  กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ไทยกรีน อะโกร จำกัด (ชมรม เกษตรปลอดสารพิษ)

สอบ ถามข้อมูลข่าวได้ที่ฝ่ายประชา สัมพันธ์ โทรศัพท์ 0 2000 8499 , 081 732 7889

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
พงษ์ ซูม พีอาร์
ฝ่าย ประชาสัมพันธ์
081 732 7889

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต