ที่บ้านใช้แบบไหน! 8 ไมโครเวฟสุดเจ๋ง ใครไม่มีต้องรีบซื้อเลย

อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องของแม่บ้านแต่ว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ภายในครัวนั้นก็มีการแข่งขันที่ดุเดือดไม่ใช่น้อย ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีนั้นมีบทบาทกับคนเราเป็นอย่างมากนวัตกรรมก็ต้องมีการก้าวล้ำนำสมัยด้วยเช่นกันไม่เว้นกระทั่งเรื่องของไมโครเวฟที่ใครๆก็รู้จักกันดี

แต่ไมโครเวฟในโลกยุคใหม่ปัจจัยการผลิตต้องคำนึงถึงเหตุผลหลายอย่างมาประกอบกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บรรดาบริษัทชั้นนำทั้งหลายจะเกทับบัฟแหลกสู้กันด้วยเทคโนโลยีในการสร้างไมโครเวฟให้มีฟังก์ชั่นที่สุดยอดแตกต่างเพื่อหวังสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด

ซึ่งในครั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมข้อมูลของไมโครเวฟสุดเจ๋งจำนวน 8 ยี่ห้อมานำเสนอให้ดูว่าวงการนี้เขาแข่งขันกันจริงจังขนาดไหน รวมถึงอาจจะเป็นข้อมูลให้คน ที่อยากจะซื้อไมโครเวฟได้มองเห็นด้วยว่าไมโครเวฟแบบไหนที่เหมาะกับฐานะอย่างเรามากที่สุด

1.Panasonic NN-CS894

ไมโครเวฟรุ่นนี้เรียกว่าไฮเทคล้ำหน้ากับความสามารถในแบบผสมผสานเป็นได้ทั้งเครื่องไมโครเวฟและเตาอบไปในตัว โดยมีความจุขนาด 32 ลิตร นอกจากนี้ระบบของไมโครเวฟรุ่นนี้ยังเป็นแบบ Inverter

ช่วยให้ประหยัดไฟไปในตัว ซึ่งระหว่างการใช้ไมโครเวฟจะใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อสร้างคลื่นไมโครเวฟ แต่ในขั้นตอนการอบจะใช้ความร้อนที่ได้จากคลื่นไมโครเวฟเป็นตัวอบโดยไม่ใช้กระแสไฟฟ้า

2. Samsung MS28J5215AS

หากใครที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นสาวก Samsung Smartphone ต้องหลงรักไมโครเวฟรุ่นนี้ เพราะผู้ผลิตกล่าวไว้ชัดเจนเลยว่าไมโครเวฟรุ่นนี้ถูกดีไซน์ออกมาจากแรงบันดาลใจในรูปทรงของ Galaxy S7 โดยมีขนาดความจุ 28 ลิตร รวมถึงระบบป้องกันกลิ่นในเครื่องไมโครเวฟ และ16 ฟังก์ชั่นที่ครอบคลุมการทำอาหารทุกประเภททั้งข้าว อกไก่ พาสต้าและปลา เป็นต้น

3.Sage by Heston Blumenthal Quick Touch Crisp

เป็นหนึ่งในไมโครเวฟที่สามารถอบได้ในตัวกับขนาดที่เล็กแต่ความสามารถไม่เบา โดยเฉพาะจุดเด่นในเรื่องการทำอาหารให้ยังคงนุ่มน่าทานไม่ใช้แห้งแข็งกระด้าง ด้วยปุ่ม Smart ถึง 3 ปุ่มทั้งการปรุงอาหาร, อุ่นและละลายน้ำแข็ง กับไมโครเวฟขนาดความจุ 25 ลิตรที่ใช้ไฟเพียง 1,000 วัตต์เท่านั้น

4. Daewoo Eco Zero KOR7LBKC

หนึ่งในสินค้าจากแบรนด์เกาหลีที่สร้างประสบการณ์ไม่ดีกับคนไทยอย่างแดวู (Daewoo) ก็มีผลิตภัณฑ์ไมโครเวฟเช่นกัน แม้ว่าจะดีไซน์รูปทรงให้ออกมาเชยสุดๆ ย้อนยุคกลับไปในปี 1950

แต่ก็มีฟังก์ชั่นให้เลือกสำหรับการทำอาหาร ที่สำคัญยังดีไซน์ออกมาให้มีรูปทรงโค้งมนและสีที่ดูเหมือนจะสะท้อนแสงอีกด้วย โดยไมโครเวฟจากแดวูมาพร้อมกับความจุขนาด 28 ลิตรและกำลังไฟเพียง 800 วัตต์ เรียกว่าประหยัดสุดๆ

5. Ikea HUSHALLA

เป็นอีกหนึ่งไมโครเวฟที่ออกแบบให้ล้ำอนาคตโดยการใช้วัสดุสแตนเลสสตีลช่วยให้ดูหรูหราขึ้น แถมยังดีไซน์ไม่ให้เป็นไมโครเวฟอีกต่างหาก โดยจุดเด่นอยู่ที่การกระจายรังสีไมโครเวฟแบบ 3D

ช่วยให้อาหารได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Jet-Start สำหรับอุ่นเครื่องดื่มโดยที่ไม่ทำให้ร้อนเกินไป โมโครเวฟเครื่องนี้มาพร้อมกับขนาดความจุ 27 ลิตร และการใช้พลังงานที่มีตั้งแต่160-750 วัตต์ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน

6. AEG MCD2664E-M

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไมโครเวฟที่มีความอัจฉริยะอีกรุ่นหนึ่ง โดยเครื่องนี้สามารถใช้งานทั้งไมโครเวฟหรือเตาอบได้ ที่สำคัญสามารถใช้ความสามารถของทั้ง 2 เครื่องพร้อมกันได้เลยด้วย

ซึ่งเครื่องนี้มีขนาดความจุ 26 ลิตร ในส่วนของไมโครเวฟใช้ไฟเพียง 900 วัตต์ ขณะที่การใช้งานเตาอบจะใช้ไฟอยู่ที่ 1,000 วัตต์ ความอัจฉริยะอยู่ที่สามารถป้อนข้อมูลในส่วนของน้ำหนักและประเภทในการทำอาหาร เครื่องจะคำนวนความร้อนและระยะเวลาแจ้งให้ทราบเพื่อให้อาหารออกน่ารับประทานในแบบสมบูรณ์แบบ

7. Miele M 6032 SC

จิ๋วแต่แจ๋ว สามารถใช้คำนี้ได้กับเตาไมโครเวฟรุ่นนี้ได้ไม่น่าจะผิดเพราะด้วยขนาดที่เล็กโดยมีขนาดความจุเพียง 17 ลิตรและใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 80-900 วัตต์ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน กับดีไซน์ที่ให้ดูเหมือนไมโครเวฟสุดหรู

และฟังก์ชั่นการทำงานที่สามารถให้ไมโครเวฟทำงานร่วมกับเตาอบได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบประมวลผลการปรุงอาหารเพียงแค่ใส่ข้อมูลน้ำหนักของอาหารและประเภทที่ต้องการ เครื่องจะคำนวนหาค่าความร้อนและระยะเวลาในประทำอาหารเพื่อให้ออกมา Perfect

8. Russell Hobbs RHM3003B

ปิดท้ายด้วยไมโครเวฟที่เน้นไปที่การออกแบบให้เรียบหรูดูดีมีดีไซน์ แต่ใช่ว่าจะมีแต่รูปร่างเท่านั้น หากแต่เครื่องนี้ยังสามารถทำงานได้หลากหลายเรียกว่า 3 in 1 เลยที่เพราะสามารถใช้งานเป็นไมโครเวฟได้

เตาย่างก็ได้หรือเตาอบก็สามารถทำได้ โดยมาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่พอสมควรกับขนาดความจุ 30 ลิตร และการใช้ไฟกับไมโครเวฟเพียง 900 วัตต์ เตาย่าง 1,100 วัตต์และเตาอบที่ใช้ไฟถึง 2,500 วัตต์

เป็นเรื่องเบาๆแต่ก็น่าสนใจสำหรับแวดวงธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บอกให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้การแข่งขันนั้นเน้นที่ความไฮเทคมากขึ้นแตกต่างจากการตลาดในยุคก่อนๆที่ให้น้ำหนักเรื่องราคาเป็นสำคัญ สินค้าสมัยนี้ถ้าเทคโนโลยีล้ำสมัย

ดีไซน์น่าสนใจ ฟังก์ชั่นใช้งานเลิศหรูแล้วละก็เรื่องราคาถ้าแพงสักนิดหน่อยก็ยังมีคนสนใจ และถ้ายิ่งภาวะเศรษฐกิจดีๆ เชื่อว่าสินค้าเทคโนโลยีดีๆ จะขายคล่องได้อีกมาก สำหรับใครที่อยากก้าวเข้ามาในธุรกิจแนวนี้ก็ศึกษาไว้เป็นตัวอย่างประกอบการทำธุรกิจของตัวเองก็แล้วกันนะ

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก goo.gl/tMGyKF