“ควิก เซอร์วิส” รุกตลาด E-Commerce การลงทุนยุค New Normal ตั้งเป้า 600 สาขาในปี 2563

นับแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา ทุกประเทศทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID 19 ที่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น แม้แต่ในประเทศไทยเองตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมมาจนถึงพฤษภาคม

ก็เป็นช่วงวิกฤติหนัก ที่ตอนนี้สถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลายลงเป็นลำดับ และภาครัฐเริ่มทยอยผ่อนปรนมาตรการต่างๆ มากขึ้น ผลกระทบจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจอย่างชัดเจน แต่ในวิกฤติก็ยังมีโอกาสและกลายเป็น “ตลาดออนไลน์” จากที่เคยคาดหมายว่าจะเติบโต ก็กลายเป็น “เฟื่องฟู” เกินความคาดหมายเมื่อหลายธุรกิจต้องหันมาทำตลาดออนไลน์แก้ปัญหาเฉพาะหน้าและกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับลูกค้าในยุค New Normal

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่าบรรดาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการตลาดออนไลน์จะมีอัตราการเติบโตชัดเจน โดยเฉพาะแฟรนไชส์ ร้านส่งพัสดุด่วนและงานสารพัดบริการต่างๆ ที่การแพร่ระบาดของ COVID 19 ไม่ได้สร้างผลกระทบในธุรกิจเหล่านี้หากแต่ยังทำให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะกับ “ควิก เซอร์วิส” ซึ่งมีประสบการณ์ มีการบริหารจัดการที่ดี เน้นคุณภาพในการขยายสาขามากกว่าปริมาณ ทำให้มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มี 450 สาขาได้ตั้งเป้าจะขยายเพิ่มอีก 150 สาขา ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าหมายในปี 2563 นี้ ควิก เซอร์วิส จะมีสาขาทั่วประเทศกว่า 600 แห่งเลยทีเดียว

มูลค่าการตลาด E-Commerce เติบโตสดใส

มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2562 มีมูลค่า 163,300 ล้านบาท แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID 19 ได้ผลักผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขตลาด E-Commerce ไทยพุ่งสูงถึง 220,000 ล้านบาท

โดยในปี 2563 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 35% จากปีก่อนหน้า สัดส่วนมูลค่าตลาด E-Commerce ไทยเฉพาะ B2C (Business-to-Consumer) และ C2C (Consumer-to-Consumer) ในปี 2562 มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยพบว่าช่องทาง E-Marketplace เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคนิยมใช้ในการซื้อของออนไลน์ในสัดส่วนมากขึ้น จากปี 2561 อยู่ที่ 35% เติบโตมาเป็นสัดส่วนมากถึง 47% ในปี 2562

โดยกลุ่มสินค้าที่คนสนใจได้แก่ สุขภาพและความงาม มีตัวเลขเติบโตถึง 34% ตามมาด้วยสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน 35% , หนังสือโต 27% , เครื่องใช้ไฟฟ้า 22% เป็นต้น สำหรับในช่องทางของ E-Marketplace มีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นจากผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ แต่ตลาดในประเทศไทยยังคงมีเพียงผู้เล่นหลักเพียง 2 รายเท่านั้น ได้แก่ Lazada และ Shopee

โดยพบว่าสัดส่วนการตลาดของ Shopee มีประมาณ 54% และ Lazada ประมาณ 46% เจาะลึกลงไปในกลุ่มผู้ใช้งานพบว่า ลูกค้าใช้เวลาเฉลี่ยในการใช้งานต่อครั้ง 11 นาที ซึ่งนานขึ้นถึง 11% และดูแค่แพลตฟอร์มของ Lazada ยังมีร้านค้าที่มาใช้พื้นที่กว่า 200,000 ราย มียอดคำสั่งซื้อใน พุ่งสูงกว่า 130% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นภาพรวมการเติบโตในตลาด E-Commerce ได้อย่างชัดเจน

ควิก เซอร์วิส ตั้งเป้าตอบโจทย์ “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” ทั่วประเทศ

ควิก เซอร์วิส แฟรนไชส์ร้านส่งพัสดุด่วนและงานสารพัดบริการที่สามารถตอบโจทย์แม่ค้าออนไลน์ได้ดีที่สุด ตั้งเป้าเป็นจุดให้บริการสำหรับ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) แบบครบวงจร ด้วย 5 บริการหลัก โดยจับมือกับ 2 พันธมิตร คือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ บริษัท เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (Kerry Express) ซึ่งเป็น 2 บริษัท ผู้ให้บริการส่งพัสดุด่วนและไปรษณีย์ อันดับ 1 ของไทย

ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID 19 ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ควิกเซอร์วิส ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของสาขา 10-15 แห่งต่อเดือน และมีอัตราการเติบโตของทุกสาขาเฉลี่ย 60-70% ยอดการส่งพัสดุในทุกสาขาสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีแผนการตลาดที่น่าสนใจในการรุกเข้าหาลูกค้าทั่วประเทศคือ

1. เปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ที่ Kerry Express และ ไปรษณีย์ไทย ยังเข้าไม่ถึง

สัดส่วนการตลาดของ Kerry Express และไปรษณีย์ไทย รวมกันกว่า 80% แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางพื้นที่ที่ทั้งสองค่ายนี้เข้าไม่ถึง เป็นช่องทางตลาดสำคัญที่ ควิกเซอร์วิส จะเข้าไปเปิดตลาดเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในพื้นที่มากขึ้น

2. พัฒนาระบบคู่กับ Kerry Express และ ไปรษณีย์ไทย

เพื่อเป็นการอัพเดทโปรโมชั่นและบริการใหม่ๆ จากพันธมิตรให้ลูกค้าได้รับทราบเพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้บริการได้อย่างสูงสุด

3. เน้นการขยายสาขาแบบไม่ทับซ้อนพื้นที่

ควิกเซอร์วิสให้ความสำคัญกับการลงทุนที่มั่นคงของทุกสาขา โดยสิทธิ 1 ชุมชน 1 สาขา นั่นหมายความว่าผู้ลงทุนจะไม่มีโอกาสเปิดธุรกิจแบบทับซ้อนกันเป็นผลดีในการสร้างรายได้ของแฟรนไชส์ซี่ที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

ลงทุนกับ “ควิก เซอร์วิส” โอกาสของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ “สร้างรายได้” มากขึ้น

ปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก แม้แต่ธุรกิจต่างๆ ก็หันมาเพิ่มช่องทางออนไลน์ให้กับร้านตัวเอง โดย
ควิก เซอร์วิส เป็นบริการที่ตอบโจทย์ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถมีกำไรมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วไป และ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม E-Marketplace

ประโยชน์ที่ได้รับของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วไป

1. มีส่วนลดในการส่งพัสดุของตัวเองประมาณ 20-50% ลดต้นทุนได้มากขึ้น กำไรก็มากขึ้น
2. มีรถมารับพัสดุถึงหน้าบ้านไม่ต้องออกไปส่งสินค้าเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อแถวใหเวุ่นวาย
3. เมื่อเปิดเพื่อบริการตัวเองแล้ว ยังให้บริการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คนอื่นเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย

ประโยชน์ที่ได้รับของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม E-Marketplace

ควิก เซอร์วิสเป็นจุด Drop Off ให้กับ Lazada และ Shopee ซึ่งคนที่ขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ ก็ได้ผลตอบแทนจาก Lazada หรือShopee ด้วย และยังสามารถเอาสินค้ามาฝากขายหรือส่งที่ควิก เซอร์วิได้ฟรี ทำให้ลดต้นทุนของตัวเอง เป็นการเพิ่มกำไรให้มากขึ้นได้

สรุป 5 บริการของ ควิก เซอร์วิส “จุดเดียวจบ ครบทุกบริการ”

1. บริการจัดส่ง (Delivery Service)

ให้บริการจัดส่งสินค้า โดยใช้ 2 พันธมิตรหลัก คือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ บริษัท เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส(ประเทศไทย) จำกัด (Kerry Express)

2. บริการแพ็คสินค้า (Packing Service)

ร้านสาขามีการแนะนำลูกค้าผู้มาใช้บริการเลือกวัสดุห่อหุ้มที่เหมาะสม พร้อมบรการแพ็คสินค้า หรือห่อหุ้มสินค้าที่นำมาส่งให้ถูกต้องตามขั้นตอนและปลอดภัยแน่นหนาเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการแตก ชำรุด เสียหายในระหว่างการขนส่ง

3. จำหน่ายอุปกรณ์สำหรับห่อหุ้ม (Packaging Service)

ผู้ที่มาใช้บริการยังสาขาของ ควิก เซอร์วิส สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับห่อหุ้มหรือใช้แพ็คสินค้าได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กล่องพัสดุไปรษณีย์ ซองกันกระแทก ซองพลาสติก ทุก size ทุกขนาด มีให้เลือกครบครัน

4. เป็นจุด Drop Off

เป็นจุด Drop Off ให้กับ Lazada, Shopee, Zilingo และ 11Street ซึ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ค้าออนไลน์ ที่ขายของผ่าน แพลตฟอร์มชื่อดังเหล่านี้ และสามารถแนะนำบริการอื่นๆ ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเช่น บริการเติมเงิน จ่ายบิล ต่อ พ.ร.บ. ประกันภัย ภาษีรถยนต์ หรือบริการนำเสนอสินเชื่อบ้านและรถยนต์ ฯลฯ ซึ่งทุกบริการล้วนนำมาซึ่งรายได้เข้าสู่ร้านสาขา

5. บริการรับพัสดุถึงบ้าน (Pick up Service)

สำหรับพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ที่ส่งพัสดุเป็นประจำทุกวัน และจำนวนหลายๆชิ้นควิก เซอร์วิสมีบริการไปรับพัสดุถึงบ้าน หรือที่ทำงานโดยไม่ต้องเสียเวลามาส่งเองที่สาขา

ลงทุน 235,000 บาท เปิดร้านได้ทันที!

แพคเกจการลงทุนของ ควิก เซอร์วิส เน้นแบบร้านมาตรฐาน งบประมาณในการลงทุน 235,000 บาท โดยสิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ การให้คำปรึกษาเรื่องทำเลที่ตั้งร้าน ที่จะไม่ทับซ้อนกับผู้ลงทุนรายอื่นอย่างเด็ดขาด , การออกแบบและตกแต่งร้านให้ฟรี , การฝึกอบรมทักษะการดำเนินงานก่อนเปิดร้าน , การวางระบบซอฟร์แวในการบริหารจัดการและการทำงานต่างๆ การส่งทีมงานไปคอยช่วยเหลือในวันเปิดร้านจริง , การรับประกันและดูแลระบบการทำงานให้กับผู้ลงทุนเป็นอย่างดี

โดยร้านควิก เซอร์วิส ผู้ลงทุนต้องมีพนักงานประจำสาขาอย่างน้อย 1-2 คน ระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ 8-24 เดือนขึ้นอยู่กับทำเล กลยุทธ์การตลาดเป็นสำคัญ

ซึ่งแผนการตลาดที่ควิก เซอร์วิสแนะนำให้ผู้ลงทุนมีกำไรเร็วขึ้นคือการใช้ “ตลาดออนไลน์” ควบคู่กับการเปิดหน้าร้าน ซึ่งการตลาดออนไลน์จะได้ผลในวงกว้าง โดยเฉพาะลูกค้าในรัศมี 1-2 กิโลเมตรจากสาขา

หากรู้ว่ามีร้านสารพัดบริการที่ให้งานบริการครบถ้วน ทั้งส่งพัสดุ งานชำระบิลค่าใช้จ่ายๆ ต่างๆ อยู่ใกล้กับที่พักอาศัยของตัวเอง ก็ทำให้ลูกค้าในยุค New Normal ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด และความสะดวกสบาย จะหันมาใช้บริการมากขึ้น ซึ่งหากทางร้านเปิดบริการช่องทางรับชำระแบบออนไลน์ร่วมด้วย ก็จะยิ่งเป็นผลดีที่ทำให้ลูกค้าพอใจและอยากใช้บริการได้มากกว่าเดิม

เคล็ดลับแนะนำ คนอยากรวย ด้วย “ควิก เซอร์วิส”

ในสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 ที่ผ่านมาทำให้หลายคนตกงาน ว่างงาน บางคนขาดรายได้ หลายคนไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรดี สิ่งที่ควิก เซอร์วิส แนะนำเบื้องต้นคือให้เลือกลงทุน “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” โดยควิก เซอร์วิสพร้อมเป็นช่องทางในการจัดส่งที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งคนที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็จะได้รับประโยชน์ร่วมด้วยและหากประสบความสำเร็จมีรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์

การต่อยอดที่สูงขึ้นคือการลงทุนเปิดร้าน ควิก เซอร์วิส ที่นอกจากจะให้บริการตัวเองได้แล้ว ยังให้บริการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ คนอื่นได้ เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองอย่างดี ซึ่งคนที่สนใจลงทุน อยากลงทุนแต่ขาดความรู้ ไม่มีประสบการณ์ สามารถปรึกษาพูดคุย กับทางแฟรนไชส์ที่พร้อมแนะนำให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี เพื่อเพิ่มโอกาสให้ทุกคนได้สามารถสร้างอาชีพที่มั่นคงในธุรกิจออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าควิก เซอร์วิส จะมีการขยายสาขาได้ถึง 600 แห่งตามที่ตั้งเป้าไว้พร้อมกับมีบริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ร่วมกับการดูแลผู้ลงทุนทุกคนให้กลายเป็นครอบครัว “ควิก เซอร์วิส” ที่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนได้อย่างมีคุณภาพ

ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนในยุค New Normal ที่น่าสนใจและมองเห็นโอกาสเติบโตชัดเจน ซึ่งตลาดออนไลน์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องนับแต่นี้จะยิ่งเฟื่องฟูมากขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้ลงทุน และกลยุทธ์การตลาดของผู้ลงทุนเองว่าจะใช้เทคนิคแบบไหน อย่างไรในการทำตลาดให้เติบโต ซึ่งปัจจุบันยังมีสัดส่วนการตลาดที่เติบโตได้อีกมาก ยิ่งถ้าเริ่มลงทุนในช่วงแรกๆนี้โอกาสเติบโตก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณด้วย

ต้องการลงทุนแฟรนไชส์ควิกเซอร์วิส

โทร : 0-2948-0286, 063-9656965, 086-0916872
E-Mail : quickserviceshop@gmail.com
Website : www.quickservice.co.th
Facebook : www.facebook.com/quickserviceshops
Youtube : www.youtube.com/watch?v=zK53lOzmbbY

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/2USQHVT

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3gkeXIh