การตลาด ผ่านสติ๊กเกอร์ไลน์ ต้องจ่ายแค่ไหนถึงจะเรียกว่า คุ้ม!!

โลกของ การตลาด ปัจจุบันต้องมีวิวัฒนาการตามกระแสนิยม การปรับตัวใช้เข้ากับเทคโนโลยีรวมถึงการผสมผสานระหว่างสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายออนไลน์ดูท่าว่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากด้วยฐานของผู้บริโภคที่คลอบคลุมแทบทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย หลายธุรกิจจึงเลือกที่จะใช้ตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงชีวิตประจำวันของทุกคนได้มากขึ้น

โดยเฉพาะกับ ที่มีช่องทางการตลาด น่าสนใจอย่าง “Sticker Line” ที่เราทุกคนรู้จักหลายคนใช้โปรแกรมนี้ได้อย่างคล่องแคล่วโดยเฉพาะกับการส่งSticker ให้เพื่อนหรือคนรู้จักทั้งที่มาจากการดาวน์โหลดฟรีหรือเสียเงินซื้อมาซึ่งดูเหมือนจะเป็นการเข้าถึงลูกค้าแบบน้ำซึมบ่อทรายถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่นับว่าฉลาดหลักแหลมไม่เบาทีเดียว

แต่ในอีกแง่มุมการลงทุนก็คือการลงทุนหลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การตลาด แบบนี้จะคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายได้อย่างไรวันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ลองรวบรวมเนื้อหาถึงการทำการตลาดผ่าน Sticker Lineที่หลายคนคงอยากรู้ว่าต้องจ่ายแค่ไหนถึงจะเรียกว่า “คุ้มค่า”

เป้าหมายทางการตลาดคือการสร้างการจดจำสินค้าและบริการผ่าน Sticker LINE แบบน่ารักๆ

การตลาด

ภาพจาก http://goo.gl/BjybhB

จุดประสงค์ของการทำสติ๊กเกอร์ไลน์ของธุรกิจนั้นเพื่อให้ผู้บริโภคได้จดจำแบรนด์สินค้าหรือบริการของตน รวมถึงการขยายการรับรู้ไปยังผู้บริโภครายใหม่ที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าได้ในอนาคตเพราะการทำตลาดผ่านสติ๊กเกอร์ไลน์ของธุรกิจต่างๆนั้นใช้แนวทางหลักๆคือการเพิ่มเพื่อนผ่าน Official Account ซึ่งถือว่าเป็นช่องทาง การตลาด ที่สามารถรับทราบผลการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างดีสำหรับยุคนี้

ปัจจุบันไลน์ในประเทศไทยมี Officail Account ของสินค้าและบริการต่างๆ มาก 100 กว่าแบรนด์ และมีการจัดทำสติ๊กเกอร์ออกมาแล้วกว่า 70 ลายด้วยกันแต่ใช่ว่าการลงทุนด้านการตลาดแบบนี้จะทำได้ง่ายถ้าเห็นตัวเลขที่ต้องจ่ายลงไปหลายคนคงคิดว่าจะคุ้มค่าแค่ไหนถ้าธุรกิจนั้นไม่ใหญ่และมีกำไรมากพอ

เส้นทางการโปรโมทธุรกิจผ่าน Sticker LINE

ขั้นแรกเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าการทำสติ๊กเกอร์ไลน์ นั้นแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบแต่ละแบบก็มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป แต่ในฐานะของผู้ใช้สติ๊กเกอร์ไลน์จะมีรูปแบบการดาวน์โหลดอยู่ 2 ทางคือ แบบของฟรีและแบบที่เสียเงิน แต่ในฐานะผู้พัฒนาสติ๊กเกอร์ไลน์เป็นธุรกิจจะแบ่งเป็น 3 รูปแบบคือ

  1. เจ้าของธุรกิจปรึกษาการจัดทำทั้งหมดร่วมกันกับบริษัทผู้พัฒนา
  2. เจ้าของธุรกิจคิดคาแรคเตอร์แล้วส่งให้ผู้พัฒนาเป็นคนออกแบบสติ๊กเกอร์
  3. เจ้าของธุรกิจทำมาเบ็ดเสร็จแล้วส่งให้ทางผู้พัฒนาเป็นคนพิจารณา

ส่วนขั้นตอนการจัดทำนั้น เจ้าของธุรกิจต้องกำหนดช่วงเวลาที่จะเปิดตัว ซึ่งทางบริษัทผู้พัฒนาจะได้ดำเนินการให้ลงตัวในรายละเอียดทุกอย่างต้องเรียบร้อยก่อนเวลาเปิดตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์

line13
ภาพจาก http://goo.gl/BjybhB

เนื่องจากเซตของสติ๊กเกอร์ไลน์แต่ละประเภทนั้นมีจำนวนภาพไม่เท่ากันอย่างเช่น สติ๊กเกอร์ขององค์กรต่างๆ( Sponsored Sticker) จะมีแอ็คชั่นตัวการ์ตูนอยู่ 16 ภาพ

ส่วนสติ๊กเกอร์ทั่วไปที่เสียเงินดาวน์โหลดจะมีอยู่ทั้งหมด 40 ภาพ(เฉพาะในเนื้อเรื่องไม่รวมใน Tab กับ Store) แต่ถ้าทำเป็นสติ๊กเกอร์แบบเคลื่อนไหวจะมีด้วยกัน 24 ภาพ

ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดทำอยู่ระหว่าง 3.5-4 ล้านบาท ยังไม่นับรวมถึงเรื่องปลีกย่อยอื่นๆ เช่น การส่งข้อความผ่าน Officail Account ซึ่งทางผู้พัฒนามีแพ็กเกจคิดค่าบริการสำหรับระยะเวลา ตั้งแต่ 1 เดือน -1 ปี ในราคาตั้งแต่ 650,000 -4,100,000

line14
ภาพจาก http://goo.gl/pPb3vk

นอกจากนี้ยังมีแพคเกจแบบทางเลือกคือการเหมารวมหลากหลายช่องทางจากไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงสามารถเลือกค่าใช้จ่ายแบบเป็นแพ็กเกจที่ไลน์ได้จัดเตรียมไว้ให้แล้วก็ได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเป็นแบบรายปี เริ่มต้นที่ 4.7 ล้านบาท และไล่เรียงไปจนถึงราคาสูงสุดคือ 16.3 ล้านบาทกันเลยทีเดียว

เทียบกับการตลาดออนไลน์ประเภทอื่น “Sticker LINE” ถือว่าคุ้มทั้งราคาและระยะเวลา

line15

ภาพจาก http://goo.gl/eMWMZ5

หลายคนก็เริ่มสงสัยว่าด้วยมูลค่าการลงทุนขนาดนี้แล้วจะคุ้มค่ามากน้อยอย่างไรแต่เมื่อลองคิดดีๆ เปรียบเทียบกับการทำ การตลาด ผ่าน Facebook Brand Page จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000 – 80,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายหรือความเยอะในการทำของแต่ละแบรนด์ แต่หากคิดกันให้ดี จะเห็นว่าราคาของ LINE นั้นถูกและคุ้มค่ากว่ามากทีเดียว

สมมติว่าต้องเสียเงิน 5,000,000 บาทในการทำ LINE Official Account และ LINE Sponsored Sticker และได้จำนวน Followers มาที่ 2,000,000 จะเท่ากับว่าราคาต่อ 1 Follower = 2.50 บาท

ซึ่งเมื่อเทียบกันตรงๆ กับการทำ Facebook ซึ่งต้องเสียทั้งบริการการดูแล Fan Page ต้องสร้างแคมเปญเพื่อเพิ่มจำนวน Like และยังต้องซื้อออนไลน์มีเดียในการโปรโมทตลอดทั้งปี

และผลลัพท์ที่ได้จาก Fan Page ของไทยนั้น ยังไม่มี Fan Page ใดที่สามารถเพิ่มจำนวน Like ได้ถึง 1,000,000 ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งในความเป็นจริงอาจต้องใช้เวลา 1-3 ปี หรืออาจจะมากกว่า ด้วยเหตุนี้ การทำ การตลาด ผ่าน LINE ในขณะนี้ จึงดูว่าคุ้มค่ากว่าทั้งราคาและระยะเวลา

อย่างไรก็ดีใช่ว่าทุกธุรกิจจะใช้ Sticker LINE เป็นการโปรโมทแล้วจะได้ผลเหมือนกัน สิ่งสำคัญคือพื้นฐานทางธุรกิจที่ต้องมั่นคงมากพอ

วิธีนี้ดูจะเหมาะกับธุรกิจที่สามารถตั้งตัวได้ในระดับหนึ่งและต้องการขยายฐานลูกค้าให้เป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว ธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่เราไม่แนะนำที่จะทำตามวิธีนี้ สะสมประสบการณ์สักพักแล้วอนาคตวันหน้าอาจใช้วิธีนี้จะเป็นผลดีกับธุรกิจของตัวเองได้มากกว่า

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด