“Unisex” เมื่อแฟชั่นส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ

ในตอนนี้ ทัศนคติของคนยุคใหม่เกี่ยวกับมิติทางเพศนั้นแตกต่างจากยุคสมัยที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด จากเดิม ผู้คนจะคิดว่ามนุษย์มีแค่ 2 เพศ คือชาย กับ หญิง แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน และยังคิดอีกว่าคนที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดคือคนที่ผิดแปลก

เป็นเรื่องร้ายเลวจนถึงขั้นบางคนรับไม่ได้เลยก็มี แต่ในปัจจุบันค่านิยมนี้ถูกทบทวนใหม่อีกครั้ง คนยุคใหม่เริ่มมีทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศว่าอันที่จริงคนเราไม่ได้มีแค่เพศชายกับเพศหญิง แต่มนุษย์เรามีความหลากหลาย เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไร อีกทั้งมิติทางเพศก็ไม่ได้มีขอบเขตที่ชัดเจน

ในตอนนี้

ภาพจาก bit.ly/32Vw5hF

และด้วยกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในทางบวกนี้ มันก็ได้เข้ามามีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจต่างๆ ที่จากเดิมสินค้าหลายๆ ประเภทจะแบ่งเป็นของผู้ชาย และของผู้หญิงอย่างชัดเจน เช่น เสื้อผ้า น้ำหอม เครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง ฯลฯ

17

ภาพจาก MAC X Brant Brothers: Unisex Makeup

แต่ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ได้มีแบบ “Unisex” ขึ้นมา ซึ่งใช้ได้แบบไม่จำกัดเพศ ไม่ว่าใครก็ใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวว่าสินค้านั้นๆ มันเป็นของเพศไหนกันแน่

ซึ่งอันที่จริงก็เรียกได้ว่าจุดประสงค์ของสินค้าแบบ Unisex ก็อาจไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อกลุ่ม LGBTQ ซะทีเดียว แต่มันถูกออกแบบมาให้ไม่มีลักษณะที่ชัดเจนว่าเป็นของสำหรับเพศไหน ทำให้สินค้าเหล่านั้นสามารถใช้ได้ทุกคน ทุกเพศ และด้วยความที่มันเป็นกลาง ไม่มีลักษณะที่ตายตัวชัดเจน สินค้าแบบ Unisex จึงมีข้อดีหลายอย่าง เช่น

  • ไม่มีข้อจำกัดทางเพศ ไม่ว่าเพศไหนก็ใส่ได้หมด
  • Mix and Match ได้ง่าย เพราะมีรูปแบบที่ค่อนข้างไม่ตายตัว
  • เหมาะกับ Lifestyle ของคนในปัจจุบันที่ค่อนข้างเร่งรีบ เพราะสามารถจับมาแต่งตัวได้ง่าย และมีความทะมัดทะแมง
  • แบ่งปันกันใส่ระหว่างคนรักหรือพี่น้องต่างเพศก็ได้

16

ภาพจาก bit.ly/2BWKka1

โดยที่มาของผลิตภัณฑ์แบบ Unisex ก็มาจากปัญหาการแบ่งแยกสินค้าตามลักษณะของเพศกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมันเต็มไปด้วยข้อจำกัดเพราะใช่ว่าทุกคนจะมีรสนิยมที่เหมือนกัน เช่นบางทีผู้หญิงอาจถูกใจเสื้อผ้าของผู้ชาย อยากจะซื้อใส่ก็ไม่ได้

เพราะมันเป็นของผู้ชาย รวมไปถึงค่านิยมเกี่ยวกับเรื่องเพศที่ปัจจุบันนี้ผู้คนเริ่มยอมรับในความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แล้วสุดท้ายก็คิดว่าเพศคือความลื่นไหล และการแปะป้ายขอบเขตของเพศก็กลับกลายมาเป็นปัญหา ดังนั้นแล้ว เหล่าธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่นที่ตระหนักได้ถึงจุดนี้จึงมีการปรับตัวตามกระแสสังคมและผลิตสินค้าแบบ Unisex ออกมาสู่ตลาด

15

ภาพจาก hamburger-magazine.com

ซึ่งนั่นก็พอจะเป็นแนวคิดสำหรับการพัฒนาต่อยอดธุรกิจที่ต่อเนื่องไปถึงอนาคตได้อีกด้วยจากการศึกษาพฤติกรรมและทัศนคติของคนในยุคปัจจุบันที่ยอมรับมิติทางเพศที่หลากหลายและไร้ขอบเขต

รวมไปถึงมีชีวิตประจำวันที่เร่งรีบและรักความสะดวกสบาย และเพื่อตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่นยุคสมัยนี้ที่เริ่มไม่แบ่งแยกว่าเป็นของสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง เน้นความเรียบง่าย ออกไปทางสไตล์มินิมอล แฟชั่นสไตล์ Unisex ก็เป็นอะไรที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดี

ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของสินค้าชนิดนี้จะเน้นไปที่กลุ่มคน Gen X และ Y ที่มีจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะคน Gen Y นั้นคิดเป็นสัดส่วนถึงกว่า 30% ทั้งของประชากรไทย และประชากรโลก โดยคนกลุ่มนี้มีอัตราการใช้จ่ายต่อรายได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับประชากรใน Generation อื่น และนั่นจึงทำให้คนในวัยนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกิจที่ผลิตสินค้าแบบ Unisex

14

ภาพจาก bit.ly/2pYFHK8

นอกจากการมาของเทรนด์ Unisex จะแสดงให้เห็นถึงจุดยืน ทัศนคติเกี่ยวกับเพศ รวมไปถึงชีวิตประจำวันและการแต่งกายของคนยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไปแล้ว มันยังแสดงให้เห็นถึงการทำธุรกิจที่ดีอีกด้วย

โดยจากการปรับตัวของแบรนด์ต่างๆ นั้นแสดงให้เห็นว่าการทำธุรกิจที่ดีควรใส่ใจถึงกระแสสังคมที่เปลี่ยนไป ตามกระแสให้ทัน และปรับตัวตามยุคสมัย จะทำให้ธุรกิจนั้นอยู่ได้อย่างยืนยาว


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2E885O9

แหล่งที่มา