Step by Step เปิดร้าน “สารพัดยำ” กำไรดีแค่ไหน ต้องเริ่มอย่างไร!

อาชีพค้าขายคือทางเลือกที่ง่ายที่สุด แต่คำถามคือ “จะขายอะไรดี?” ไก่ย่าง ไก่ทอด ลูกชิ้น อาหารตามสั่ง เมนูเหล่านี้คู่แข่งเยอะมาก เดินไปทางไหนก็เจอ ลองเปลี่ยนไปขายสินค้าแบบพรีเมี่ยมก็ใช้ต้นทุนเยอะ บางคนเพิ่งลาออกจากงาน หรือมีเงินเก็บแค่เล็กน้อย จะลงทุนมากก็คงไม่ไหว

อีกหนึ่งอาชีพค้าขายที่ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าน่าสนใจคือการ เปิดร้านสารพัดยำ อาหารแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องมีวิธีการทำที่ยุ่งยาก

มีหลายคนที่ลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจนี้ยกตัวอย่างสาวโรงงานลาออกมาเปิดร้าน “ยำแซ่บแสบปาก” จากเงินเดือนประมาณ 20,000 บาท มาขายยำกำไรวันละประมาณ 2,000 บาท

หรืออดีตพนักงานแบงค์ที่ลาออกมาเปิดร้าน “ไอ้หำยำใหญ่” ก็มีรายได้ต่อวันกว่า 8,000 บาท (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย) ทั้งนี้ลองมาดูเทคนิคการเปิดร้านสารพัดยำ หากเป็นมือใหม่ควรเริ่มต้นอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจนี้เกิดและเติบโตได้

1.ทดลองทำยำชนิดต่างๆ ให้อร่อย

เปิดร้านสารพัดยำ

ภาพจาก goo.gl/images/DtYs6P

ถ้าเราเป็นคนทำอาหารเก่งเรื่องการทำยำชนิดต่างๆ ก็ไม่น่าห่วง แต่บางคนไม่เคยเข้าครัวทำอาหารมาก่อนเลย แต่อยากเปิดร้านยำ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ “ฝึกทำยำชนิดต่างๆ ให้อร่อย” ความอร่อยของยำ ไม่ใช่แค่เปรี้ยวนำ เผ็ดตาม สังเกตว่ายำที่อร่อยต้องมีความกลมกลืนของวัตถุดิบทั้งหมด ให้ลูกค้ารู้สึกว่ากินแล้วติดใจอร่อยแบบฉุดไม่อยู่

เบื้องต้นก็ศึกษาวิธีการทำยำจากอินเทอร์เนตที่มีข้อมูลมากมาย และลองทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ชิมก่อน เมื่อมั่นใจในรสชาติแล้วว่าต้องใส่พริกแค่ไหน ใส่มะนาวแค่ไหน เปรี้ยวระดับไหน เผ็ดระดับไหน มีสูตรการยำที่น่าพอใจค่อยมาวางแผนหาอุปกรณ์และทำเล

2.ต้นทุนไม่ต้องมากแต่ต้องหาทำเลดีๆ

เปิดร้านสารพัดยำ

ภาพจาก https://goo.gl/CKZG2C

การลงทุนเปิดร้านสารพัดยำ หากไม่มีเมนูให้เลือกมากต้นทุนในการเริ่มต้นน่าจะไม่เกิน 5,000 บาท สำหรับการทำเมนูยำสัก 2-3 อย่างเช่น ยำตับหวาน ยำรวมมิตรทะเล ลาบหมู น้ำตก ยำขาไก่ ยำแหนม ยำหมูยอ เป็นต้น

อุปกรณ์การยำส่วนใหญ่ก็ใช้เครื่องครัวที่มี หาแค่วัตถุดิบ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เนื้อหมู แหนม หมูยอ ปูอัด ผักสำหรับใส่ยำต่างๆ สำคัญคือทำเลโดยเฉพาะตลาดนัดตอนเย็นจะเป็นพื้นที่ขายที่น่าสนใจเพราะคนต้องการซื้อกลับบ้าน ดีกว่าการขายตลาดเช้าที่คนจะออกไปทำงาน หรือใครที่มีทำเลอยู่ในที่ชุมชน อยู่ใกล้อพาร์ทเม้น ก็จะยิ่งได้เปรียบมาก

3.ต้องมีความแตกต่างจากคู่แข่ง

เปิดร้านสารพัดยำ

ภาพจาก goo.gl/images/xCMtwm

ถ้าเปิดร้านแบบธรรมดาเราก็จะเป็นร้านยำแบบธรรมดาที่ลูกค้าไม่จดจำ ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของร้าน “ไอ้หำยำใหญ่” ที่คนขายหาความต่างให้ตัวเองด้วยการแต่งชุดหมอลำ ซึ่งต้องลงทุนไปซื้อมา 3 ชุด

เพื่อนำมาใส่เปิดร้านสารพัดยำ ซึ่งก็ได้ผลดีทำให้เป็นที่สังเกตและจดจำ ร้านไอ้หำยำใหญ่จึงมีลูกค้าจำนวนมากและสร้างรายได้เกือบหมื่นต่อวัน หักลบเป็นกำไรก็เหลือกินเหลือเก็บดีกว่าทำงานประจำมาก

4.หาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพราคาไม่แพง

เปิดร้านสารพัดยำ

ภาพจาก goo.gl/images/Ue66up

สิ่งที่จะทำให้ได้กำไรหรือขาดทุนอยู่ที่การบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องด้วยร้านสารพัดยำต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่าง จำเป็นที่ต้องหาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา

อาจไม่ต้องใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม เช่น ปลาหมึก กุ้ง ปลา หอยแครง ควรเลือกในเกรดระดับ B ที่ไม่แพงเกินไป การกำหนดราคาขายก็ขึ้นอยู่กับชนิดของยำ ราคาขายส่วนใหญ่เริ่มต้งแต่ 35 บาท หรือถ้าเป็นยำสั่งพิเศษเช่นยำซีฟู้ด ก็อาจขยับราคาสูงได้อีก

5.ค่อยๆขยายร้านจากเล็กไปใหญ่

h5

ภาพจาก goo.gl/images/ZzCG5j

สำหรับการเริ่มต้นควรมีเมนูประมาณ 3-4 อย่างและค่อยๆพัฒนาเมนูให้มากขึ้น การจัดรูปแบบร้านก็เน้นแบบใส่ถุงกลับบ้านไม่ต้องแบบมีโต๊ะนั่งทาน เน้นขายตามตลาดนัดทั่วไป และเมื่อมีทุนเพิ่มมากขึ้นค่อยขยายร้านให้ใหญ่มีบริการมากขึ้น เมนูมากขึ้น ถือเป็นการฝึกสะสมประสบการณ์ในเบื้องต้นไปพลางๆก่อนด้วย

6.ต่อยอดด้วยการทำน้ำยำขาย

h4

ภาพจาก goo.gl/images/yNasNN

การต่อยอดธุรกิจหลังจากที่ร้านอาจจะเป็นที่รู้จักของลูกค้า เราสามารถทำ “น้ำยำ” ออกจำหน่าย ซึ่งควรมีแบรนด์ของตัวเอง และควรมีการจด อย. ให้ถูกต้อง การทำ น้ำยำขาย เป็นการหารายได้ที่ดีกว่าการทำยำ

และใช้ต้นทุนน้อยกว่า ขายง่ายกว่า แต่ต้องเป็นน้ำยำที่รสชาติอร่อยถูกใจ คนซื้อเอาไปทำยำได้ด้วยตัวเอง หรือถ้ามีโอกาสจะลองจัดคอร์สสอนการทำยำสูตรต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ที่ต่อยอดมาจากการเปิดร้าน

7.เพิ่มบริการเดลิเวอรี่หรือจัดส่งออนไลน์

h3

ภาพจาก goo.gl/images/YvrdvP

นอกจากการต่อยอดธุรกิจด้วยสินค้าใหม่ การเพิ่มรูปแบบการบริการให้เหมาะสมกับยุคสมัย เช่นบริการเดลิเวอรี่ หรือรับออร์เดอร์แบบออนไลน์ โดยเราอาจเปิดเพจเฟสบุ๊คเกี่ยวกับร้านยำ มีเมนูน่าสนใจมาอัพเดท มีการให้ความรู้ในการทำยำชนิดต่างๆ มีภาพบรรยากาศร้าน ลูกค้า ถือเป็นการสร้างรากฐานให้ธุรกิจเราค่อยๆเติบโตมากขึ้น

ต้นทุนและกำไรจาก “ร้านสารพัดยำ”

h2

ภาพจาก goo.gl/images/t2P2tA

กำไรจากการขายยำขึ้นอยู่กับชนิดของยำ ซึ่งหมายถึงต้นทุนด้วย ร้านทั่วไปที่เราเห็นจะมีเมนู เช่น ยำหมูยอ ยำแหนม ยำขาไก่ ยำหนังหมู ลาบหมู หรืออาจจะพัฒนาให้ดูน่าสนใจก็มี ยำมะม่วง ยำปูม้า ยำมะม่วงข้าวโพด ยำไข่เค็ม ต้นทุนโดยประมาณรวมค่าวัสดุ อุปกรณ์และวัตถุดิบเบื้องต้นประมาณ 5,000 บาท (ไม่รวมค่าเช่าสถานที่)

h1

ภาพจาก goo.gl/images/6c76ZP

อุปกรณ์ส่วนใหญ่หาได้จากในครัว สำคัญคือ “รสชาติ” กำไรเฉลี่ยสำหรับร้านที่มีลูกค้าประจำประมาณ 1,000-2,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับทำเลในการขายด้วย ซึ่งหากในแต่ละสัปดาห์หากเราเปิดร้าน 5 วัน มีกำไรประมาณ 4,000-5,000 ต่อสัปดาห์

กำไรต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท แต่การเปิดร้านยำ ก็ต้องแลกกับการไปจ่ายตลาดเพื่อให้ได้ของสดใหม่ การกลับมาเตรียมทำเครื่องยำ และต้องจัดร้านออกไปขายของ แม้จะดูว่าเป็นงานอิสระที่ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร แต่การจะได้มาซึ่งกำไรก็ต้องลงแรงไม่น้อยเช่นกัน

ไม่มีธุรกิจไหนที่จะสร้างรายได้โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อย แต่การเหนื่อยในการทำงานก็ควรมีขอบเขตและเป้าหมาย ไม่ใช่ทำไปวันๆ การวางแผนบริหารที่ดีจะทำให้เราค่อยๆ เหนื่อยน้อยลงได้ และการวางแผนที่ดียังทำให้เรามีโอกาสสร้างธุรกิจที่ดียิ่งๆขึ้นไปได้อีกด้วย


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/32Prq2c

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด