Step by Step ข้อควรรู้ก่อนเปิดร้าน ซัก อบ รีด

ด้วยชีวิตที่เร่งรีบในยุคปัจจุบันทำให้ธุรกิจการให้บริการกำลังเป็นที่ต้องการของคนในสังคมเมืองใหญ่ โดยเฉพาะธุรกิจ “ ซัก อบ รีด ” ที่ถือเป็นธุรกิจบริการที่มีความจำเป็นสำหรับวิถีคนรุ่นใหม่ และเป็นธุรกิจบริการที่ใช้เงินลงทุนเพียงแค่หลักหมื่นก็สามารถสร้างรายได้ให้อย่างต่อเนื่อง

ในวันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้มีข้อมูลมานำเสนอให้ผู้ที่สนใจรวยด้วยธุรกิจ “ ซัก อบ รีด ” ถึงเคล็ดลับและวิธีการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพื่อใช้หากินได้อย่างต่อเนื่อง

sub_207

แฟรนไชส์บริการซัก อบ รีด https://bit.ly/2kGj7Ua

หลายคนอาจมีคำถามว่าถ้าจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ซัก อบ รีด จะมีรายได้จากลูกค้ากลุ่มไหน เราขอบอกเลยว่าธุรกิจนี้ถ้าคิดจะลงทุนอาจจะไม่ยากนัก ขอเพียงแค่มีเงินเท่านั้น แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ที่การบริการ ทำเลที่ตั้ง กลุ่มลูกค้าเป็นใครบ้าง และในทำเลนั้นมีคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันมากน้อยแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรบอกได้เลยว่าธุรกิจ ซัก อบ รีด เหมาะกับการเปิดร้านในบริเวณ หอพัก ห้องเช่า คอนโด และชุมชนใหญ่ๆ

ซัก อบ รีด

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในธุรกิจ ซัก อบ รีด

1.มีเงินทุนในการเปิดร้าน ซื้ออุปกรณ์

การเปิดร้านครั้งแรกอาจต้องเตรียมเงินทุนขั้นต่ำไว้ประมาณ 20,000 บาท สำหรับเป็นค่าเครื่องซักผ้า เตารีด โต๊ะรีดผ้าที่จำเป็นต้องมี ซึ่งในการเลือกซื้ออุปกรณ์เข้าร้านคุณต้องหาความรู้และให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ อย่างกรณีเครื่องซักผ้าถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจซัก อบ รีด

ต้องรู้ว่าควรจะเลือกใช้แบบไหน ขนาดไหนดีหรือไม่ดี เหมาะหรือไม่เหมาะ ทั้งหมดต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของธุรกิจซักอบรีด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าด้วย

hh21

2.หาทำเลที่ตั้งร้าน

ควรจะมองไปที่บรรดาหอพักต่างๆ เน้นสถานที่ที่มีลูกค้าอยู่กันหนาแน่น แต่ไม่นิยมซักผ้าและรีดเสื้อผ้าเอง ไม่ว่าจะเป็นหอพักนักศึกษา คนทำงาน หรือกลุ่มชุมชนใหญ่ๆ รวมไปถึงทำเลย่านคอนโดมิเนียม แฟลต อพาร์ทเม้นท์ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ปัจจุบันคนนิยมหันไปอาศัยในหมู่บ้านกันเยอะ มีหมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นมากมาย

สมมุติคุณอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรอยู่แล้ว อาจจะใช้แหล่งที่ใกล้และสะดวกที่สุด เช่น บ้านที่อยู่ระหว่างทางเข้าออกหมู่บ้านจัดสรรสักหลังหนึ่งเป็นทำเลตั้งร้านขึ้นมาก็ได้ เพราะนอกจากเป็นที่สัญจรไปมาของคนในหมู่บ้านแล้ว ยังสะดวกต่อการรับส่งเสื้อผ้าถึงมือลูกค้า นอกจากนี้เจ้าของธุรกิจซักอบรีดต้องเช็คระบบท่อน้ำด้วยนะครับให้มีระบบน้ำสะอาดเอื้ออำนวยต่อการบริการซักอบรีด และทางที่ดีก็ควรสร้างระบบน้ำสำรองไว้ยามฉุกเฉิน หากเกิดเหตุน้ำไม่ไหลกะทันหัน

hh25

3.แรงงาน

แม้ว่าจะมีเครื่องซักผ้าเป็นตัวช่วย แต่ก็ต้องมีแรงงานไว้สำหรับตากเสื้อผ้า รีดผ้า และจัดส่งเสื้อผ้าให้ลูกค้า รวมถึงคอยให้บริการลูกค้าในส่วนอื่นๆ เพราะถ้ามีลูกค้าเข้ามาในร้านแล้วไม่มีคนคอยให้บริการ จดรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเสื้อผ้า วันเวลา และลูกค้าแล้ว รับรองว่าทำงานอยู่คนเดียวไม่ไหวแน่ เพราะจะทำงานคนเดียวทั้งซัก อบ รีด ดังนั้นเราจึงขอแนะนำว่าต้องจ้างแรงงานเพิ่ม แต่ถ้าเริ่มทำโดยมีความตั้งใจว่าจะเป็นธุรกิจครอบครัว ก็ใช้แรงงานจากคนในครอบครัวเดียวกันก็ได้ จะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากกว่า

4.คุณภาพของการบริการ

ธุรกิจซักอบรีดเป็นธุรกิจบริการ ฉะนั้นคุณภาพของการบริการจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบ่งบอกว่า ธุรกิจจะไปรอดหรือไม่รอด ถ้าคุณสามารถทำให้ลูกค้าชอบในบริการได้ เสื้อผ้าที่นำมาให้ซัก ไม่พัง ไม่เสียหายโอกาสที่ลูกค้าจะบอกต่อให้กับเพื่อนฝูงญาติพี่น้องย่อมมีมาก และธุรกิจจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกมากมาย แต่ในทางกลับกันหากคุณบริการไม่ดี ลูกค้ารู้สึกว่าบริการที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปนั้น เชื่อแน่ว่าคงจะบ่นและบอกคนอื่นไม่ให้มาใช้บริการ

hh22

เคล็ดลับนำธุรกิจสู่ความสำเร็จ

1.ใส่ใจเสื้อผ้า เอาใจลูกค้า เมื่อจับทางทำธุรกิจซักอบรีดก็ต้องใส่ใจต่อการซักผ้าทุกชิ้น เน้นความสะอาดและให้ความสำคัญถึงชนิดของผ้า เนื้อผ้าต่างๆ เพราะผ้าบางประเภทต้องซักด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ผ้าชีฟอง ผ้าไหม ชุดสูท ที่ต้องซักด้วยมือ และต้องแยกผ้าขาวและผ้าสีให้เรียบร้อยก่อนซัก ลงลึกไปอีกต้องทราบด้วยว่าผ้าบางชนิดก็ห้ามใช้ผงซักฟอกที่มีคลอรีน หรือต้องซักแห้งเท่านั้น การรีดผ้าแต่ละเนื้อผ้าต้องรีดด้วยความร้อนเท่าใด คนทำธุรกิจซักอบรีดต้องใส่ใจหมั่นศึกษาป้ายแนะนำการดูแลรักษาที่ติดมากับเสื้อผ้าอยู่เสมอ

นอกจากนี้ผู้ให้บริการซักอบรีดจะต้องเน้นการให้บริการอย่างมีคุณภาพ ซักรีดเสื้อผ้าด้วยความเอาใจใส่เสมือนเป็นเสื้อผ้าของตนเอง ตรงต่อเวลาในการรับส่งเสื้อผ้า ส่งเสื้อผ้าครบตามจำนวนที่รับมา ไม่สลับปะปนกับของคนอื่น อาจทำใบรับเสื้อผ้าขึ้นมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า มีการรับเสื้อ กางเกง กระโปรง แต่ละประเภท อย่างละกี่ตัว รวมแล้วคิดเป็นเงินเท่าใด

เพื่อความชัดเจนทั้งเสื้อผ้าของใคร มีจำนวนเสื้อผ้าเท่าใด ค่าบริการเท่าไหร่ จัดส่งวันไหน และยังยืนยันได้หากเกิดกรณีเสื้อผ้าสูญหาย ซึ่งทางร้านก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ

เห็นได้ว่าเจ้าของร้านบางคนทำป้ายระบุไว้เลย ว่าถ้าเกิดการสูญหายจะชดใช้ในอัตราเท่าใด เป็นการรับประกันความเสียหายที่อาจเกิดจากการให้บริการทางหนึ่ง ลูกค้าก็จะมีความรู้สึกสบายใจ มั่นใจว่าเสื้อผ้าที่นำมาให้ร้านซักจะได้รับกลับคืนครบตามจำนวน นอกจากนี้ผู้ที่ทำธุรกิจซักอบรีดจะต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอยู่เสมอ จงท่องจำไว้ว่าลูกค้าคือศูนย์กลาง ถ้าคุณบริการดี ลูกค้าก็จะชักชวนบอกต่อๆ กันให้มาใช้บริการซักอบรีดของคุณ ธุรกิจซักอบรีดจะอยู่ได้ก็ด้วยความพึงพอใจของลูกค้านั่นเอง

hh23

2.อย่าคิดแพงเกิน ส่งผ้าให้ครบ การรับผ้ามาซักของธุรกิจซักอบรีดจะมีอยู่ 2 แบบครับ คือ รับซักแบบเหมาเป็นรายเดือน กับรับซักเป็นรายชิ้น อัตราค่าบริการโดยประมาณสำหรับลูกค้าเหมารายเดือน ส่วนใหญ่จะจำกัดจำนวนผ้าไม่เกิน 60-70 ชิ้น เดือนละ 700 – 1000 บาท อัตราค่าบริการสำหรับเสื้อผ้าทั่วไปชิ้นละ 10-20 บาท

สำหรับชุดทางการ ประเภทเครื่องแบบ ชุดราตรี เฉลี่ยชุดละ 80-100 บาท และผ้าห่ม ผ้านวม ผืนละ 50 บาท พยายามอย่าตั้งค่าบริการแพงเกินไปครับ เพราะจะถูกเปรียบเทียบกับร้านอื่นได้ แต่ก็อย่าคิดถูกซะจนลูกค้าคิดว่า “คิดถูกแต่ซักห่วย รู้อย่างนี้ซักเองดีกว่า” พอคิดไม่แพงไม่ได้ก็เลยคิดถูกซะเลย แต่คุณภาพในการซักไม่มี ลูกค้าก็หายเหมือนกัน

3.ดูแลลูกจ้างเหมือนสมาชิกครอบครัว อย่างไรก็ตามก็มีสิ่งที่เจ้าของธุรกิจซักอบรีดควรพึงระวังก็คือ การรักษาพนักงานหรือลูกจ้างในร้านที่มีความเอาใจใส่และมีฝีมือให้คงอยู่กับเราไว้ เพราะการทำธุรกิจให้บริการต้องยอมรับว่า จะเจริญเติบโตได้ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการบ่อยๆ ก็ขึ้นอยู่กับการให้บริการของพนักงานหรือลูกจ้าง ถ้าลูกจ้างให้บริการดี ใส่ใจกับคุณภาพของการซักอบรีดทุกขั้นตอน ดังนั้นเจ้าของธุรกิจซักอบรีดอย่าลืมบริหารธุรกิจของคุณอย่างใส่ใจลูกจ้างทุกคนเสมือนเป็นคนในครอบครัว ไม่มีสิ่งใดที่จะรั้งให้คนอยู่กับเราได้นานๆ นอกจากการซื้อด้วยใจอีกแล้ว

เห็นได้ว่าอาชีพเปิดร้านซักรีดเป็นอะไรที่หากินได้อย่างยาวนาน เพราะหากคุณสามารถสร้างกลุ่มลูกค้าได้แล้ว พลังของการบอกต่อจะทำให้เรารับลูกค้าไม่ทันเลยทีเดียว ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับบริการเป็นหลักอย่างแน่นอน หากคุณให้บริการที่จริงใจ ตรงเวลา ราคาไม่แพง ถึงอย่างไรก็สามารถอยู่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะบริการแบบนี้ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจมากมายนัก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย เสื้อผ้าก็ยังจำเป็นอยู่อย่างแน่นอน

hh26

สำหรับท่านใดที่กำลังสนใจธุรกิจนี้อยู่ แต่ยังไม่มั่นใจ ก็ลองทำแบบทดสอบธุรกิจนี้ได้ฟรีที่ http://www.thaifranchisecenter.com/test/shop/laundry.php

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก  https://bit.ly/35ykNRY


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช