Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ธุรกิจสปา
ธุรกิจ หรืออาชีพที่อยู่ในรูปแบบงานบริการจำเป็นต้องมีการใช้ทักษะและฝีมือมาร่วมในงานด้วยถือเป็นมนต์เสน่ห์ระดับชาติที่ไม่ใช่แค่ตลาดในประเทศเท่านั้นแต่สามารถขยายไปไกลได้ถึงต่างประเทศ
ธุรกิจสปาคือตัวอย่างของอาชีพนี้ที่รัฐบาลเองก็ให้การส่งเสริมอยู่ไม่น้อย เพราะนี่คือธุรกิจอาชีพที่สามารถทำเงินเข้าประเทศได้สูงถึง 32,444 ล้านบาท มีจำนวนธุรกิจสปาที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศมากกว่า 1,600 แห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวถึงร้อยละ 30 ของสถานประกอบการสปาทั้งหมด
เมื่อทิศทางของตลาดดูแนวโน้มแล้วสดใสมากๆ www.ThaiSMEsCenter.com จึงรวบรวมเอาแนวทางของการเปิดธุรกิจร้านสปามาไว้เป็นตัวอย่างให้สำหรับคนสนใจได้มีกรอบปฏิบัติที่ถูกต้องกับการเริ่มต้นธุรกิจอาชีพที่บริหารดีๆ มีสิทธิ์โกอินเตอร์ได้เลยทีเดียว
จุดเด่นของธุรกิจสปา
ธุรกิจนี้มีอนาคตในตลาดสดใสทั้งในและต่างประเทศ การลงทุนก็เริ่มได้ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านแล้วแต่รูปแบบและขนาดของร้าน และนี่คือธุรกิจที่ภาครัฐเองก็ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพราะถือเป็นงานฝีมือที่สามารถส่งออกในตลาดต่างประเทศได้ และเนื่องจากเป็นงานที่ขายเรื่องฝืมือจึงไม่จำเป็นต้องสต็อคสินค้า รูปแบบรายได้ค่อนข้างแน่นอนรายจ่ายก็ไม่จุกจิกมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจประเภทอื่นๆ
การขออนุญาตเพื่อเปิดร้านสปา
เมื่อกำหนดรูปแบบของร้านสปาว่าจะให้เป็นนิติบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดจากนั้นก็ขอจดทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและต้องมีการขอเลขบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรที่กรมสรรพพากรและกรณีที่มีลูกจ้างก็ต้องดำเนินการขอเลขบัญชีนายจ้างจากสำนักงานประกันสังคมก่อนและต้องขออนุญาตต่อกระทรวงสาธารณสุขเพื่อรับรองมาตรฐานการเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และใบอนุญาติเพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกฏหมาย
สิ่งที่ต้องเรียนรู้และใสใจถ้าคิดจะทำธุรกิจสปา
1.ต้องวางแผนการทำธุรกิจให้ชัดเจน
คือการกำหนดความต้องการที่ชัดเจนว่าต้องการอะไรบ้างจากการทำธุรกิจสปา คำว่าแผนธุรกิจคือสิ่งที่เราอยากทำให้เกิดเป็นผลสำเร็จดังนั้นต้องมีเป้าหมายว่าถึงระดับไหนที่จะเรียกว่าคือความสำเร็จของธุรกิจที่เราต้องการ
2. ไม่จำเป็นต้องใช้ความสำเร็จของคนอื่นมาเป็นมาตรฐานในการทำธุรกิจ
การทำธุรกิจสปาสามารถใส่ความเป็นตัวเองลงไปได้นี่คือธุรกิจที่เป็นเหมือนศิลปะแขนงหนึ่งสิ่งที่เราต้องการและคิดว่าน่าจะตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าไม่ว่าจะการตกแต่งร้าน บรรยากาศ สิ่งเหล่านี้เราไม่ควรยึดติดกับสิ่งที่เคยเห็นมาถ้าคิดจะทำให้ธุรกิจสปาของเราโดดเด่นกว่าคนอื่น
3.ความรู้สึกของลูกค้าเป็นสิ่ง “สำคัญมาก”
นี่คือธุรกิจบริการดังนั้นความรู้สึกของลูกค้าคือตัวชี้วัดความสำเร็จที่ดี ถ้าคอมเมนต์หลังจากการใช้บริการเป็นในทางที่ดีนั้นหมายความว่าลูกค้ารู้สึกดีมีความสุขก็จะกลายเป็นการบอกต่อและแนะนำลูกค้าคนอื่นเข้ามาได้อีกแต่ถ้าเป็นตรงกันข้ามคือความเสียหายที่อาจไม่เกิดในทันทีแต่มีผลกระทบในระยะยาวแน่นอน
4.เริ่มต้นจากร้านเล็กๆก็เป็นธุรกิจที่ใหญ่โตในอนาคตได้
การเริ่มต้นที่ดีน่าจะเป็นแบบไล่ระดับจากเล็กไปใหญ่ในธุรกิจนี้ควรสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าให้เกิดก่อนสะสมฐานลูกค้าต่อเนื่องแล้วค่อยขยายไปเป็นร้านใหญ่ การเริ่มจากร้านเล็กๆส่วนหนึ่งคือเซฟต้นทุนและสะสมประสบการณ์ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกับธุรกิจสปานี้
รูปแบบของธุรกิจสปา
ในการเลือกทำธุรกิจสปาอาจจะมีแบบครบวงจรในร้านเดียวหรืออาจจะเลือกตามแต่ที่เราถนัดก็ได้ ซึ่งรูปแบบของร้านสปาก็มีด้วยกัน 4 ประเภทคือ
- การนวด มีทั้งที่เป็นแบบนวดเท้า นวดตัว นวดแผนไทย และการนวดแบบตะวันตก มีการจุดเทียนหอมเป็นอโรมาเพื่อให้เกิดการผ่อนคลาย
- ทำ Treatment เป็นสปาที่มีการใช้ยาหรือสมุนไพรทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย ได้ทั้งการบำรุงผิวกายและหน้า อาจจะไม่ต้องมีทักษะด้านการนวดเหมือนแบบแรกมากนัก
- การขายอุปกรณ์ทำสปา จะเรียกว่าเป็นบริการเสริมสำหรับธุรกิจนี้ที่ควรมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับคนที่อยากกลับไปทำสปาเองที่บ้าน อุปกรณ์เหล่านี้ก็เช่น น้ำมันนวด น้ำมันหอมระเหย เป็นต้น
- ให้บริการผ่านตัวช่วยที่น่าสนใจ เป็นการสร้างสรรค์ที่ทำให้ธุรกิจดูมีความน่าสนใจโดยใช้ตัวช่วยอื่นเข้ามาดึงดูดเช่น การใช้ปลา หรือที่เรียกว่า Fish Spa หรือเพิ่มเครื่องมืออื่นเช่นบ่อน้ำแร่ แช่น้ำนม เป็นต้น
อุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นต้องมีพร้อมราคาโดยประมาณ
- เตียงนวดหรือเบาะนวดพร้อมหมอน ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพและวัสดุ เริ่มตั้งแต่ 1,500-6.500 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์นวดแผนไทยหรือร้านเฟอร์นิเจอร์
- เตียงนวดฝ่าเท้า ราคาประมาณ 2,700-4,000 บาท
- เสื้อกราวน์สำหรับพนักงานนวด ราคาประมาณ 150-300 บาท
- เสื้อและกางเกงสำหรับลูกค้า ราคาประมาณ 200-300 บาท
- กางเกงสำหรับลูกค้านวดฝ่าเท้า ราคาประมาณ 100 บาท
- ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน นิยมสีพื้นดูสบายตา หาซื้อได้ง่ายที่พาหุรัดหรือสำเพ็ง
- ผ้าขนหนู
- ครีมหรือน้ำมันสำหรับนวดฝ่าเท้า มีจำหน่ายตามโรงเรียนแพทย์แผนโบราณต่างๆ ราคาประมาณ 650 บาท (1800 ซีซี)
- น้ำมันนวดตัว ราคาขายปลีกประมาณ 580 บาท(4000 ซีซี)
- ไม้กดจุด ราคาอันละประมาณ 20 บาท
ระยะเวลาในการคืนทุนและผลตอบแทนที่ได้รับ
ธุรกิจสปา มีระยะเวลาในการคืนทุนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขนาดการลงทุนและจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการแต่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปีเป็นอย่างน้อยจากการสอบถามผู้ที่เปิดกิจการนี้เล่าว่ามีการลงทุนด้านอุปกรณ์ต่างๆภายในร้านประมาณ 300,000 บาท (ไม่รวมเรื่องของตึกอาคารที่อาจจะซื้อหรือเช่ามาอีกที)
เมื่อเปิดกิจการคิดค่าบริการอยู่ที่ชั่วโมงละ 150 บาท แต่ถ้าเป็นการนวดที่แบบเน้นแก้อาการปวดเมื่อยโดยเฉพาะก็คิดเพิ่มเป็นชั่วโมงละ 200 บาท บริการขัดหน้า นวดหน้า ครั้งละ 200 บาท เฉลี่ยถ้ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 10 คน/วัน ก็จะมีรายได้ 2,000 -3,000 บาท คิดเป็นต่อเดือนก็ประมาณ70,000-80,000 บาท
แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆแล้วจะเหลือกำไรสุทธิประมาณ 40 % เป็นอย่างน้อยมองในแง่ดีนี่คืออาชีพที่ลูกค้ามีต่อเนื่อง อยู่ที่การบริหารจัดการของผู้ลงทุนว่าจะทำได้ดีแค่ไหน ธุรกิจนี้ยิ่งอยู่นานความเชี่อมั่นยิ่งมาก รายได้ก็จะมากตามไปด้วย
ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะหรือมีความพร้อมมากพอที่จะทำธุรกิจสปาได้หรือไม่มาลองหาคำตอบกับแบบทดสอบความพร้อมธุรกิจสปาเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนลงมือทำกันต่อไป
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)