Randoseru กระเป๋าเป้ ที่ไม่ได้แค่ “ขาย” แต่สร้างความทรงจำ!

ถ้าเอ่ยชื่อ กระเป๋าเป้ “Randoseru” หลายคนอาจจะนึกไม่ออก แต่ถ้าบอกว่าเป็นกระเป๋าเป้หลังสี่เหลี่ยม ที่เด็กนักเรียนญี่ปุ่นชอบใช้ และเราคงเคยเห็นกันบ่อยๆ ในหนังการ์ตูนญี่ปุ่น โดยโนบิตะสะพายกระเป๋านักเรียนทรงเหลี่ยม พร้อมกับปิดแนวโค้งด้านบน มาถึงตอนนี้หลายๆ คน ก็พอจะนึกออกว่า Randoseru ก็คือ กระเป๋านักเรียนของชาวญี่ปุ่นนั่นเอง

ปัจจุบันด้วยความคลาสสิก บวกกับประโยชน์การใช้สอย รวมถึงกระบวนการผลิตที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ จึงทำให้ในตอนนี้ รันโดะเซรุ ไม่ใช่กระเป๋าเป้สำหรับเด็กนักเรียนสะพายไปโรงเรียนอย่างเดียว

แต่มันได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นแฟชั่นสุดเท่ สำหรับผู้ใหญ่ ดารา คนทำงาน นักธุรกิจไปเรียบร้อยแล้ว อยากรู้ไหมว่า ความเป็นมา มนเสน่ห์ และใครเป็นเจ้าของแบรนด์กระเป๋าเป้สี่เหลี่ยมใบนี้ วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะเล่าให้ฟัง

ความเป็นมาของ Randoseru

ยุคปัจจุบันโรงงานที่ผลิตกระเป๋ารันโดะเซรุ มีหลากหลายโรงงานด้วยกัน ทั้งในโรงผลิตจีนและในญี่ปุ่นเอง ตัวอย่างเช่น โรงงาน Seiban ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ หรือบริษัท Kyowa ที่ตั้งอยู่ที่เขต Asakusa เมืองโตเกียว แต่อย่างไรก็ตาม Tsuchiya Kaban ก็เป็นอีกหนึ่งในบริษัทผลิตกระเป๋าที่โด่งดังไม่ด้อยไปกว่ากัน

Tsuchiya Kaban ก่อตั้งขึ้นในปี 1965 ในย่าน Nishiarai กรุงโตเกียว โดยมีผู้บริหาร คือ “ซึชิยะ คูนิโอะ” ซึ่งเขาวางเป้าหมายเอาไว้ว่า อยากผลิตกระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น Randoseru ที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

เพราะเขาเชื่อว่าถ้าทำกระเป๋ารันโดเซรุที่ได้มาตรฐาน 10 ใบ นั่นหมายความว่า จะสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ 10 คนเลย ซึ่งในทุกๆ ปีบริษัท Tsuchiya Kaban จะผลิตกระเป๋ารันโดเซรุ 150 ใบออกสู่ท้องตลาดให้คุณพ่อคุณแม่ได้ซื้อ

ในช่วงเริ่มต้นโรงงานนั้น Tsuchiya มีอายุเพียงแค่ 27 ปีเท่านั้น เขาลาออกจากงานพร้อมทั้งได้ร่วมมือช่างทำหนังคนหนึ่งเพื่อที่จะเปิดร้านของตนเอง โรงงาน Tsuchiya จึงตั้งต้นจากคนงานเพียงคนเดียว ผลิตและค้าขายผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ขนาดเล็ก มีกระบวนการผลิตกว่า 300 ขั้นตอน เพื่อผลิตกระเป๋ารันโดะเซรุ ให้มีความสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

ช่วงแรกโรงงานเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่พอสินค้าได้รับการตอบรับและคำยกย่องมากขึ้น ลูกค้าซื้อไปแล้วมีการบอกต่อถึงคุณภาพมาตรฐาน ส่งผลให้กิจการของ Tsuchiya Kaban เจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งปัจจุบันนี้ บริษัท Tsuchiya มีคนงานมากกว่า 180 คน ซึ่งมีการจ้างแรงงานเด็กวัยรุ่นเพื่อที่จะพัฒนาทักษะการผลิตกระเป๋าหนัง ขณะเดียวกันอายุโดยเฉลี่ยของแรงงานอยู่โดยประมาณ 35 ปีเพียงเท่านั้น

ทุกวิธีการของธุรกิจจะอยู่ในโรงงานเดียวกัน ตั้งแต่กำหนดแผนการสร้าง ทำการตลาด แคมเปญโฆษณา งานขาย รวมทั้งซ่อมกระเป๋า บริษัทมีการมิกซ์ประสบการณ์ของช่างหนังรุ่นเก่า กับรูปแบบแฟชั่นของคนยุคใหม่ เพื่อก่อให้เกิดแบรนด์สินค้ากระเป๋ารันโดะเซรุ ให้มีความคลาสสิก และมีความทันสมัย

กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่นของบริษัท Tsuchiya จะเริ่มแนะนำแบบใหม่ในเดือนมิถุนายน พร้อมทั้งให้ผู้ปกครองสั่งจองผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการปิดรับออเดอร์ผลิตอย่างรวดเร็วทันใจไม่เกินเดือนกันยายน ถัดจากนั้นจะใช้เวลาทำ 5-6 เดือน เพื่อจะให้ทันตรงเวลาเริ่มต้นเปิดเทอมของเด็กๆ ในช่วงเดือนเมษายนปีถัดไป

กระเป๋ารันโดะเซรุ จาก Tsuchiya นั้นมีให้เลือกซื้อโทนสีกับรูปแบบกว่า 60 ดีไซน์ ทั้งธีมสีพาสเทล อย่าง สีชมพู สีม่วงของดอกลาเวนเดอร์ สีฟ้าอ่อน ที่ซึ่งเป็นที่นิยมของเด็กหญิง

ขณะเดียวกันโทนสีดำเป็นโทนสีสุดฮิตของเด็กๆ เพศชาย นอกจากนี้สีครีมยังคงจำหน่ายได้จำนวนมากเช่นกัน โดยมีราคาจำหน่ายประมาณ 56,000 – 140,000 เยน ซึ่งเป็นราคารวมภาษีแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้รับออเดอร์จากต่างประเทศ

เพิ่มไลน์สินค้ากระเป๋ารันโดะเซรุผู้ใหญ่

บริษัท Tsuchiya มีความเชื่อว่ากระเป๋ารันโดเซรุ ไม่ใช่เครื่องใช้สอยของเด็กนักเรียนเพียงเท่านั้น แต่พวกมันสามารถที่จะดีไซน์เป็นเป้ของหนุ่มสาววัยทำงานได้เช่นกัน

โดยในโอกาสครบรอบ 50 ปี Tsuchiya ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ของ Tsuchiya ที่ออกมาเพื่อเจาะกลุ่มผู้ใหญ่ ใช้ชื่อว่า Otona Randsel เป็นการผสมผสานคำว่า Otona ที่หมายถึง “ผู้ใหญ่” และ Randsel เป็นคำมาจากภาษาเนเธอร์แลนด์ ที่หมายถึงกระเป๋าเป้ และมีการออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า Randoseru เดิม

กระเป๋าผู้ใหญ่ Otona Randsel ยังคงเน้นการดีไซน์ตามแบบฉบับ ยึดหลักกระเป๋ารันโดะเซรุ 2 ประการ ก็คือ ดีไซน์กระเป๋าให้เหมือนบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการใส่เอกสาร และเพิ่มความสะดวกสบายในการแบกสะพาย

กระเป๋า Randoseru สำหรับผู้ใหญ่ ถูกออกแบบมาให้สามารถใส่เอกสารขนาด A4 หรือแล็บท็อปได้ด้วย ที่ผ่านมาดีไซน์ออกมา 2 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ และสีน้ำตาล โดยวัสดุทำจากหนังวัวกันน้ำได้ มีขนาด 8.27 x 11.7 นิ้ว สำหรับราคานั้นอยู่ที่ประมาณ 100,000 เยน หรือประมาณ 3 หมื่นบาท แต่การขายละรอบจำหน่ายหมดเกลี้ยง เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น

กระเป๋ารันโดะเซรุ เป็นกระเป๋านักเรียน ที่บ่งบอกสภาพสังคมและประเพณีนิยมของประเทศญี่ปุ่น เป็นกระเป๋าที่มีความสมดุลด้านความงดงามและฟังชันก์การใช้งาน จนได้รับความนิยมไปทั่วโลก

Tsuchiya ได้คาดหวังว่า ปรากฏการณ์ความนิยมของ Randoseru จะกลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้ดีไซน์เนอร์กระเป๋า ได้คิดค้นดีไซน์ พร้อมทั้งปรับปรุงรูปแบบรันโดะเซรุให้สอดคล้องกับความดีมานด์ รวมถึงความชื่นชอบของคนท้องถิ่นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ เขาก็อยากให้กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น Randoseru เป็นของมีค่าในช่วงหนึ่งของชีวิต พร้อมทั้งเป็นสิ่งของที่เชื่อมความสัมพันธ์ของคนในบ้านไว้ด้วยกัน

กระเป๋าเป้สี่เหลี่ยม Randoseru มีดีอย่างไร

1.ให้ความสบายและดีต่อสุขภาพเด็กนักเรียน

กระเป๋ารันโดะเซรุ ถูกดีไซน์สำหรับให้เด็กๆ สามารถที่จะสะพายไปโรงเรียนได้ทุกวัน มีน้ำหนักเบาและมีความสะดวกสบายเวลาใช้งาน กระเป๋ารันโดะเซรุจะมีการบุเบาะรองข้างหลังกระเป๋าสะพายกับด้านใต้สายสะพายเป้ สำหรับปรับลดการเสียดสี รวมทั้งแรงกดลงบนบริเวณบ่าของเด็กนักเรียน

นอกจากนี้ ก็จะคล้องเข้าร่องแขนได้ฟิตพอดีกับร่างกายของเด็ก สำหรับก่อให้เกิดความปลอดภัย ส่วนตัวล็อกที่ทำจากโลหะจะอยู่ด้านใต้ของกระเป๋าสะพาย เพื่อที่จะสามารถป้องกันโลหะพวกนั้นกระทบตัวของเด็กนักเรียน เวลาสะพาย

2.คุ้มค่าและทนทาน

กระเป๋ารันโดะเซรุมีรูปแบบเป็นกล่องใส่ของ ตัวกระเป๋าสะพายได้ทรง เมื่อมีแรงกดทับกระเป๋าก็จะกลับสู่รูปร่างสี่เหลี่ยมของมันได้อย่างเดิม ไม่ยับยู่ยี่ผิดส่วนทรงแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านี้วัตถุดิบที่เลือกใช้ผลิตกระเป๋ารันโดะเซรุ สามารถกันน้ำฝนได้ระดับหนึ่ง กระเป๋ารันโดเซรุจะถูกเด็กญี่ปุ่นใช้งานสะพายขึ้นไหลไปโรงเรียนเป็นประจำตลอด 6 ปีของชั้นประถม

ดังนั้น ผู้ผลิตจึงให้ความสำคัญกับความคงทนถาวร ถึงแม้ว่ากระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น จะมีราคาสูงประมาณเกือบแสนเยน หรือว่าราวๆ 10,000-20,000 บาท แต่ก็ยังทำให้ครอบครัวคนญี่ปุ่นนิยมใช้งานกระเป๋าใบนี้สูงมาก

3.เป็นแฟชั่นสวยงาม

ปัจจุบันมีดารานักร้องประเทศญี่ปุ่นบางคน นำเอากระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น Randoseru มาใช้งานแฟชั่น ผสมการแต่งเนื้อแต่งตัว ดูแล้วน่าเอ็นดูอย่างมาก แม้แต่นักแสดง Hollywood “โซอีย์ เดสชาเนล” ก็เป็นคนแรกที่เริ่มเทรนด์แฟชั่นใช้งาน กระเป๋ารันโดะเซรุสีแดงคลาสสิกในเรื่อง 500 Days of Summer

ยิ่งไปกว่านี้แบรนด์สินค้า Tsuchiya ยังได้ปรับปรุงดีไซน์กระเป๋ารันโดะเซรุสำหรับผู้ใหญ่ สามารถหิ้วสะพายไปปฏิบัติงานได้อย่างไม่เก้อเขิน โดยเรียกว่า Otona Randoseru นับว่าเป็นเทรนด์กระเป๋ารันโดะเซรุสำหรับนักธุรกิจอย่างแท้จริง

Randoseru สร้างความทรงจำตลอด 6 ปี

มีคนถาม Tsuchiya ว่า Randoseru จะสร้างความทรงจำที่ดีตลอดช่วง 6 ปีให้แก่เด็กๆ และครอบครัวได้อย่างไร ซึ่งเขาบอกว่า ตั้งแต่ป.1 ถึงป.6 สำหรับเด็กๆ และพ่อแม่แล้ว มีแค่ช่วงเวลาช่วงนี้เพียงช่วงเดียวเท่านั้น ที่เด็กๆ จะได้ใช้เป้ชนิดนี้ จึงไม่แปลกที่ “6 ปี” จะมีความหมายมาก ทั้งกับครอบครัว และ Tsuchiya โดยมนเสน่ห์ของกระเป้ใบนี้อยู่ที่

1.กระเป๋าสวยแบบคลาสสิก เพราะเวลาผ่านไป 6 ปี กระเป๋าต้องยังดูสวยอยู่ ไม่ให้เด็กเบื่อ Tsuchiya จึงไม่ได้วาดลวดลายหวือหวา หรือพิมพ์ลายตัวการ์ตูนบนกระเป๋าเหมือนแบรนด์อื่นๆ ดีไซน์เป็นแผ่นหนังเรียบๆ แต่มองเท่าไรก็ไม่เบื่อ

ส่วนสีที่ใช้ นอกจากสีดำกับสีแดง ซึ่งเป็นสีคลาสสิกแล้ว สีอื่นๆ ก็เป็นสีที่ใกล้เคียงธรรมชาติ เช่น สีเขียวอ่อน สีชมพูโอรส เด็กๆ จะได้ไม่เบื่อง่าย ยิ่งใช้ ยิ่งผูกพัน

2.กระเป๋าอยู่กับเด็กได้ตลอด 6 ปี Tsuchiya จึงออกแบบผ้าบุด้านหลังให้นิ่ม แต่ระบายอากาศได้ดี ช่างทำกระเป๋าออกแบบสายสะพายไหล่ ให้ปรับได้ 8 ระดับ เผื่อเด็กตัวโตขึ้น และมีเซ็ทผ้าคลุมฝนกันเป้เปียก คู่มือดูแลกระเป๋า ผ้าและน้ำยาเช็ดกระเป๋า ตลอดจนไดอารี่บันทึกความทรงจำ เพื่อให้เป้ใบนี้อยู่กับเด็กได้ตลอดช่วงประถมอย่างแท้จริง

Tsuchiya มีร้านอยู่ 15 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตั้งแต่เซนไดถึงฟุกุโอกะ ดังนั้นการตั้งร้านนั้น ย่อมมีค่าใช้จ่ายสูง ไหนจะค่าเช่าที่ ไหนจะค่าจ้างพนักงาน ค่าขนส่ง แต่เหตุผลในการขยายสาขานั้น ไม่ใช่เพื่อยอดขายเพียงอย่างเดียว

แต่จริงๆ แล้ว สินค้าของ Tsuchiya ไม่ใช่แค่กระเป๋าเป้นักเรียนเท่านั้น แต่คือ “ความทรงจำ 6 ปี” ของพ่อแม่และลูก บริษัทต้องการทำให้ความทรงจำนี้ เป็นความทรงที่พิเศษที่สุด เขาและพนักงานจึงต้องเอาใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การตัดหนัง การออกแบบ การเย็บ

ยิ่งไปกว่านั้น พนักงานคิดเสมอว่า กระเป๋าเป้คือส่วนหนึ่งในความทรงจำ ไอเดียวิธีการออกแบบให้ทนทาน สวยงาม การแถมน้ำยาเช็ดกระเป๋า ตลอดจนการออกร้านจึงตามมา และเพราะกระเป๋าใบนี้ จุความทรงจำ ช่างฝีมือทุกคน จึงมีกำลังใจในการทำงานและตั้งใจทำกระเป๋าแต่ละใบให้ดีที่สุด เพื่อส่งมอบความทรงจำดีๆ อันสวยงามให้กับเด็กๆ

หากเรามัวแต่คิดว่า จะ “ขายอะไร” “ขายอย่างไร” สินค้าเราอาจจะไม่ต่างกับในตลาด พนักงานก็ทำงานไปวันๆ แต่หากเราเริ่มจากคำถามว่า เราสามารถ “ช่วย” ลูกค้าอย่างไร หรือสินค้าของเรากำลัง “สร้าง” อะไรให้กับลูกค้า

พนักงานของเราจะมีพลัง และทุ่มเทสร้างสินค้า เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในงานที่ตนเองทำ สินค้าของเรา ก็จะมีเสน่ห์แบบที่คู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบได้เลย

ปัจจุบันกระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น เป็นที่นิยมทั่วทั้งโลก ใครๆ ก็สามารถสั่งซื้อได้ตามประเทศต่างๆ รวมไปถึงการสั่งซื้อทางเว็บไซต์ อเมซอนหรืออีเบย์ อย่างในประเทศไทยก็สามารถสั่งซื้อได้ตามเว็บไซต์ Bag99 และ Randoserushop ก็ได้ครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ http://www.thaifranchisecenter.com/home.php
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี ทำธุรกิจ http://www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

---

SMEs Tips

Randoseru แม้จะราคาแพง แต่ผู้ผลิตให้ความสำคัญด้าน ความคุ้มค่า คงทน สะดวกสบาย ดีต่อสุขภาพ สวยงาม คงทน ที่สำคัญสามารถสร้างคุณค่าด้านความทรงจำให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

แหล่งข้อมูล

• http://www.zynekcctv.com/board/index.php?topic=223691.0
• https://www.facebook.com/Gademaru/posts/645382588965258
• https://www.tsuchiya-randoseru.jp/shop/list.php
• https://goo.gl/aU6vT4
• http://bag999.blogspot.com/2016/09/randoseru.html
• http://www.randoserushop.com/

ขอบคุณรูปภาพจาก  http://www.randoserushop.com/ , https://goo.gl/eBJBjC , https://goo.gl/aU6vT4