KFC แตกไลน์ทำแบรนด์เสื้อผ้า สไตล์ “finger lickin”

ทำธุรกิจ ต้องห้ามหยุดนิ่ง เมื่อใดที่เราหยุดนั่นหมายถึงโอกาสที่จะถูกแซงจากคู่แข่งจำนวนมาก และไม่ใช่แค่การพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น

หนึ่งในเทคนิคการต่อยอดธุรกิจที่น่าสนใจคือการ “แตกไลน์ธุรกิจ” จากรูปแบบเดิมไปสู่รูปแบบใหม่ซึ่งมีสินค้ามากมายที่กระโดดมาชิมลางในการลงทุนแนวนี้ซึ่งก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จและไม่สำเร็จ ก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการเป็นสำคัญ

finger lickin

ภาพจาก goo.gl/L5zhRC , goo.gl/TF3mAQ

www.ThaiSMEsCenter.com จะลองยกตัวอย่างง่ายๆของธุรกิจที่แตกไลน์ในระดับโลกอย่าง Virgin ที่เรียกว่าเป็นอาณาจักรธุรกิจที่มีตั้งแต่สื่อวิทยุ หนังสือ ทีวี กีฬา อีเว้น์ แม้แต่การท่องเที่ยวและโรงแรมก็มี แต่สิ่งที่ Virgin แตกไลน์และแตกต่างที่สุดคือ Virgin Money บริการเงินสดสะดวกทันใจที่ไม่น่าเชื่อว่า Virgin จะกระโดดมาในวงการนี้ด้วย

หรือแม้แต่ในเมืองไทยเองล่าสุดคือข่าวที่ RS ค่ายเพลงระดับตำนานของเมืองไทย ได้แตกไลน์ตัวเองอีกหนึ่งธุรกิจด้วยการตั้ง บริษัท Lifestar ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพและความงาม ไม่นับรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่งในเมืองไทยที่แตกไลน์ธุรกิจตัวเองมาเป็นร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย

yy4

ภาพจาก goo.gl/TF3mAQ

คำถามคือการแตกไลน์มีข้อดีอย่างไรทำไมธุรกิจต้องแตกไลน์ให้แตกต่างจากเดิมมีเหตุผลน่าสนใจอยู่ 3 ประการคือ

  1. ธุรกิจใหม่มีแหล่งรายได้อย่างสม่ำเสมอ และบางธุรกิจที่กลุ่มทุนเข้าไปซื้อต่อก็มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วทำตลาดไม่ยาก
  2. ธุรกิจใหม่ต่อยอดจากธุรกิจเดิมของบริษัท ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้และยังหนุนธุรกิจเดิมให้แข็งแกร่งตามไปด้วย
  3. ธุรกิจใหม่ของบริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นจากคู่แข่งขันในตลาดได้อย่างเด่นชัด

แต่ไม่ว่าจะเหตุผลไหนอย่างไร การแตกไลน์ทางธุรกิจก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า แบรนด์นั้นมีการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งและอยู่ในกระแสความต้องการของผู้บริโภคได้ตลอดเวลาเป็นการปรับเปลี่ยนตัวเองตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่หวังรักษารากฐานลูกค้าเดิมและสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้น

yy5

ภาพจาก goo.gl/TF3mAQ

โดยล่าสุดอีกหนึ่งแบรนด์ระดับโลกที่จะแตกไลน์ธุรกิจคือ KFC จากเจ้าพ่อในวงการฟาสต์ฟู้ดที่เรารู้จักกันดีวันนี้ KFC มี แบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองแล้ว แม้จะไม่ชัดเจนว่านี่คือ กลยุทธ์การตลาดแบบสร้างสีสันหรือจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้แต่ที่แน่ๆ KFC ได้ร่วมมือกับNigo แฟชั่นดีไซเนอร์ของญี่ปุ่น

เพื่อออกคอลเลคชั่นเสื้อผ้าให้ทุกคนได้ใส่ตามแฟชั่น โดย KFC ยังคงคอนเซ็ปสโลแกนในตำนานอย่าง “finger lickin” หรือ “อร่อยจนต้องเลียนิ้ว” มาผสมผสานกับความเป็นแฟชั่นเสื้อผ้าในแนวสตรีท (streetwear) หรือที่เราๆ รู้จักกันในแบบการแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ แต่มีความเท่ สามารถสวมใส่ได้ในหลายโอกาสแน่นอนว่าไม่ใช่แนวหรูหราหรือเรียบร้อยจนเกินไป

การเปลี่ยนจากความอร่อยบนอาหารให้มาเป็นแฟชั่นบนเสื้อผ้า อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ทำให้ KFC จึงพยายามหาแรงบันดาลใจต่างๆ มาสร้างสรรค์ไว้บนลายเสื้อผ้า แม้แต่ตัว Nigo เอง ก็ถึงกับต้องไปเยือนบริษัทแม่ของ KFC ที่เมือง Louisville ของมลรัฐเคนKentucky เพื่อพูดคุยถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบ

yy2

ภาพจาก goo.gl/Vq2eFG

ทั้งนี้ยังมี Hypemaker สตูดิโอสร้างสรรค์ระดับโลกจากทาง Hypebeast เข้ามาช่วย Nigo จับมือกันเพื่อสร้างคอลเล็คชั่น Human Made x KFC Capsule โดยสินค้าในคอลเลคชั่นนี้ ก็จะมีด้วยกันอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น แจ็คเก็ตในสไตล์ย้อนไปยุค 70 เสื้อยืด และอีกหลายๆ ไอเท็มให้เลือกสรรค์กัน

โดยเสื้อผ้าสำหรับคอลเลคชั่นนี้ ได้ถูกวางขายในวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ KFC ในเขต Manhattan ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีวางขายในจำนวนจำกัดบนเว็บไซต์ของ HBX.com ในวันที่ 23 พฤศจิกายน และที่ร้าน Human Made Store ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเช่นกัน

yy1

ทีนี้ก็ต้องมาตามกันต่อว่า KFC จะจริงจังกับธุรกิจนี้มากน้อยแค่ไหนเพราะพลังของ KFC หากเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้เชื่อว่าจะแชร์ส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจเสื้อผ้าได้อีกมาก

ด้วยสาวกของ KFC ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกบวกกับพลังการตลาดที่มีอย่างโชกโชนนับว่าหากก้าวเข้ามาในวงการแฟชั่นจริงๆ จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของแบรนด์เสื้อผ้าเก่าแก่ทั้งหลาย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูล goo.gl/MkrY54

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด