ease park คอมมูนิตี้มอลล์ สไตล์ Industrial ย่านรามอินทรา

นับได้ว่ากระแสของ คอมมูนิตี้มอลล์ นั้นกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง โครงการจัดสรรพื้นที่ค้าขายสไตล์โมเดิร์นนี้กำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่ารูปแบบของคอมมูนิตี้มอลล์เองก็จะมีการพัฒนาให้น่าสนใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน

หลากหลายโครงการที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ก็ล้วนแต่มีจุดเด่นที่ดึงดูดให้คนสนใจอยู่ไม่น้อย และในปี 2560 นี้ก็คาดว่าจะมีคอมมูนิตี้มอลล์อีกจำนวนไม่น้อยที่เปิดตัวใหม่ซึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสสำหรับพ่อค้าแม่ค้าและคนที่ต้องการพื้นที่ค้าขายจะได้มีทำเลทองไว้ให้เลือกพิจารณากันมากขึ้นด้วย

www.ThaiSMEsCenter.com พยายามรวบรวมเอาแหล่งค้าขายจากหลากหลายพื้นที่มานำเสนอโดยเฉพาะในวันนี้เป็นข้อมูลน่าสนใจจาก ease park ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์เปิดตัวใหม่เมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นคอมมูนิตี้มอลล์น้องใหม่ที่มีหลายอย่างน่าสนใจทั้งเรื่องจุดเด่นการก่อสร้าง ทำเล การบริหารจัดการ และการวางแผนการตลาดในอนาคต

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ ease park ลองมาดูรายละเอียดกันสักหน่อยว่าทำไม ease park แห่งนี้ถึงได้กลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่น่าสนใจสำหรับพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย

เปิดตัวโครงการ ease park รามอินทรา กม.4.5

ease park เป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ของบริษัท เคเอเอ็น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยทางผู้บริหารได้เผยถึงนโยบายที่เริ่มก่อตั้งกันมาตั้งแต่ปี 2557 โดยมุ่งเน้นจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม แต่ทุกโครงการที่จะเปิดนั้น จะต้องศึกษาทำเลให้ดี ทำสินค้าที่เหมาะสมกับทำเลนั้นๆ

ซึ่ง ease park ถือเป็นโครงการแรกที่เปิดตัวขึ้นโดยเน้นการเป็นศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) โดยตั้งอยู่ย่านรามอินทรา กม.4.5 มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท ถือเป็นโครงการน่าสนใจที่ดึงเอาจุดเด่นหลายอย่างมาผสมผสานไว้ในสถานที่เดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

จุดเด่นของโครงการ เน้นที่การพักผ่อนแบบเรียบง่าย

ease park เกิดขึ้นผ่านแนวคิดของความเรียบง่าย และความสะดวกสบาย ซึ่งคำว่า ease ก็มาจากคำว่า easy ที่มีความหมายถึงความสะดวกสบาย ง่ายๆ park หมายถึง สถานที่พักผ่อน ซึ่งความหมายรวมๆ

ก็คือ เป็นสถานที่พักผ่อนที่เรียบง่ายและสะดวกสบาย ภายใต้คอนเซปต์ Industrial ซึ่งตัวโครงการมีการตกแต่งแบบโชว์วัสดุ ไม้ เหล็ก ปูน อิฐ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่น แต่ไม่ล้าสมัย

โดยตั้งอยู่ที่ถนนรามอินทรา กม. 4.5 พัฒนาเป็นโครงการ Community Mall สูง 3 ชั้น บนพื้นที่โครงการรวมประมาณ 3.5 ไร่ ติดถนนรามอินทรา หน้ากว้าง 60 เมตร พื้นที่ก่อสร้างประมาณ 7,000 ตารางเมตร

ประกอบไปด้วย ร้านค้าประมาณ 15 ร้าน ชั้น 1 เป็น Supermarket ซึ่งเป็น Villa market และร้านกาแฟแบรนด์ดังอย่าง Starbucks ที่เป็นแบบ Drive thru ส่วนชั้น 2 เป็นโซนของร้านอาหาร

ซึ่งมีอาหารหลากหลายชนิดให้ได้เลือกสรรอาทิ King Kong, Neo suki&shabu, ตำยั่วครกยักษ์, ก๋วยเตี๋ยวไข่ย้อนยุค และส่วนพื้นที่ ชั้น 3 เป็นส่วนของ Health, Beauty and Lifestyle ซึ่งประกอบไปด้วย Fitness, คลินิกเสริมความงาม เป็นต้น

เป็นสุดยอดทำเลค้าขายสร้างสรรค์รองรับอนาคต

ease park สามารถตอบโจทย์การเป็นสุดยอดทำเลแห่งอนาคตได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดถนนใหญ่ และในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีมัยลาภ ที่อยู่ใกล้โครงการเปิดใช้ก็จะทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และนับเป็นโอเอซิสแห่งใหม่ของถนนรามอินทราเส้นหลัก

นอกจากนี้ผู้บริหารโครงการยังได้ตั้งเป้าที่จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ของคนรามอินทรา ที่มีบริการครบครัน สะดวก ทันสมัย และใกล้บ้าน โดยมีแผนที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในทุกๆ กลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน กลุ่มครอบครัว กลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา เป็นต้น ผ่านการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ

อาทิ ตลาดนัดร้านดังใน IG, กิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ เช่น ในช่วงวันสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ไทย จะมีกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมด้วยการเปิดโครงการให้มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่นอกจากนี้ มีการคัดสรรสิ่งพิเศษที่เป็นความต้องการของลูกค้ามาไว้ที่โครงการให้ได้มากที่สุดตรงตามคอนเซ็ป “ease park” The landmark of happiness ชีวิตที่ง่ายในสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

อัตราค่าเช่าพื้นที่ ease park

สำหรับรายละเอียดโครงการ ease park นั้น เป็นอาคารสูง 3 ชั้นและการให้บริการแบบไดรฟ์-ทรู แยกอีก 1 อาคาร รวมพื้นที่ทั้งหมด 7,000 ตร.ม. ประกอบด้วย โซนร้านอาหาร สุขภาพความงาม ฟิตเนสและการบริการต่างๆ

รวมทั้งหมด 13 ร้านค้า ขนาดพื้นที่ให้เช่า 20-1,000 ตร.ม. ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 300-900 บาท/ตร.ม. โดยมีสินค้าแบรนด์ดังจำนวนมากให้ความสนใจเช่าพื้นที่ค้าขายกันไปแล้วไม่ว่าจะเป็นวิลล่ามาร์เก็ต ร้านกาแฟสตาร์บัค ร้านนีโอสุกี้ เป็นต้น

และคาดว่าจะมีสินค้าชั้นนำอีกจำนวนมากให้ความสนใจและภายในปี 2560 ทางโครงการคาดว่าจะมีรายได้ทีดี่ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาทซึ่งจะนำมาพัฒนาโครงการนี้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไปเพื่อเป็นตลาดแห่งอนาคตที่เพิ่มศักยภาพในการค้าขายของคนเช่าพื้นที่ให้ดียิ่งๆขึ้นไปด้วย

ในอนาคตคาดว่าการแข่งขันของคอมมูนิตี้มอลล์นั้นจะเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นผลดีของพ่อค้าแม่ค้าและคนที่ต้องการค้าขายในการมีทำเลทองในการพบปะผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งนี้การเลือกคอมมูนิตี้มอลล์หรือแหล่งการค้าใดๆก็ตาม

พ่อค้าแม่ค้าผู้ทำธุรกิจทุกคนควรคำนึงถึงปัจจัยโดยรอบหลายอย่างที่จะเกื้อหนุนการขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการมองถึงโอกาสการค้าขายในอนาคต ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเลือกหาพื้นที่เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

และสำหรับท่านใดที่อยากลงทุนค้าขายหรือเริ่มต้นการทำธุรกิจและกำลังมองหาทำเลการขายของที่น่าสนใจเรามีรวบรวมทำเลค้าขายไว้ให้ทุกท่านได้เลือกกันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/aDCSQI

ขอบคุณรูปภาพจาก www.facebook.com/easeparkbkk