Dunkin’ เตรียมทุ่ม 60 ล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนารสชาติกาแฟเทียบชั้น Starbucks

Dunkin’ เตรียมจะใช้เงินลงทุนว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงรสชาติกาแฟ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ Rebranding ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด โดยเฉพาะ Starbucks ได้อย่างทัดเทียม 

การทุ่มเงินลงทุนดังกล่าว ยังใช้ในการปรับปรุงส่วนอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์การผลิตเบียร์ใหม่ โดยที่ผ่านมา Dunkin’ จากความพยามตัดคำว่า “โดนัท” ทำให้บริษัทถูกพูดถึงในเรื่องของร้านขายสกาแฟ ด้วยการนำเสนอเมนูใหม่ๆ

เช่น กาแฟเอสเพรสโซใหม่, แซนด์วิชไร้เนื้อสัตว์ เป็นต้น โดยพบว่ายอดขายของ Dunkin’ ปี 2562 เพิ่มขึ้น 2.8% ในไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มียอดขาย 2.1% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี ขณะที่ยอดขายกาแฟเอสเพรสโซ่ก็เพิ่มขึ้น 40% เช่นกัน

6

ภาพจาก bit.ly/2viWuu6

Dunkin’ เตรียมจะใช้เงินลงทุนว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับปรุงรสชาติกาแฟ พร้อมทั้งการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์จากเดิมที่เป็นร้านขายโดนัท มาสู่ร้านกาแฟระดับกาแฟระดับไฮเอนด์ ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่อายุน้อยกว่า

นอกจากนี้ งบประมาณดังกล่าว ยังจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงอุปกรณ์การต้มเบียร์ที่ไฮเทคในร้าน Dunkin’ ทุกแห่ง โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพและรักษาความสม่ำเสมอของรสชาติกาแฟ ซึ่งอุปกรณ์ใหม่จะได้รับการออกแบบมา เพื่อลดขยะ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

5

ภาพจาก bit.ly/2UFjBcH

ทั้งนี้ นับตั้งแต่บริษัทฯ ได้เปิดตัวอุปกรณ์การทำเอสเปรสโซสูตรใหม่ และมีการการฝึกอบรมพนักงานต้อนรับ รวมถึงผลิตเมนูอาหารเช้าอย่างแซนด์วิชที่ทำจากพืชไร้เนื้อสัตว์ ยังเตรียมนำเสนอเมนูกาแฟลาเต้นมข้าวโอ๊ตในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ด้วย

หากย้อนกลับไป Dunkin’ ก่อตั้งเมื่อปี 1950 ในชื่อ Dunkin’ Donuts โดย William Rosenberg ชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรปตะวันออก ที่เรียนไม่จบมัธยมต้น เพราะต้องช่วยพ่อแม่หารายได้จุนเจือทั้งครอบครัวและเลี้ยงตัวเองในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง

โดยเป็นร้านขายกาแฟและ Donut ที่ต่อยอดมาจากบริษัทจัดส่งอาหารกลางวันให้พนักงานโรงงานและรถขายอาหารกลางวันเคลื่อนที่ปลายยุค 40 ซึ่งชื่อมาจากที่ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบจุ่ม (Dunk) Donut ลงในกาแฟก่อนกิน

4

William Rosenberg
ภาพจาก bit.ly/2Sx4ZJO

Dunkin’ Donuts สาขาแรกตั้งอยู่ที่เมือง Quincy รัฐ Massachusetts โดยภายใต้รูปแบบ Franchise ทำให้การขยายสาขาเป็นไปอย่างรวดเร็ว จนในปี 1963 จำนวนสาขาเพิ่มเป็น 100 แห่ง และในปี 2016 พร้อมจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 12,000 แห่งทั่วโลก

และ William Rosenberg ผลักดันให้ Robert Rosenberg ขึ้นมาเป็นประธานบริหาร (CEO) ด้วยวัยเพียง 25 ปี ภายใต้จุดขายว่ามีขนมหลายสิบชนิดให้กินระหว่างจิบกาแฟ ซึ่งถือว่ามากกว่าคู่แข่ง

3

Robert Rosenberg
ภาพจาก bit.ly/37bRZhX

แล้วจุดเปลี่ยนที่สำคัญก็มาถึงในปี 2018 หลังประกาศว่า ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไปชื่อแบรนด์จะเหลือเพียง Dunkin’ เพื่อประโยชน์ในการขยายธุรกิจ เพราะเครื่องดื่มครองสัดส่วนถึง 60% ของยอดขายและในจำนวนนี้กาแฟขายดีสุด

2

ปัจจุบัน Dunkin’ อยู่ภายใต้การบริหารของ David Hoffman เดินหน้าเข้าสู่ปี 70 ด้วยจำนวนสาขาทั่วโลกราว 12,800 แห่งใน 44 ประเทศทั่วโลก และมียอดขายกาแฟทั้งร้อน-เย็นเฉลี่ย 2,000 ล้านแก้วต่อวัน

1

ภาพจาก bit.ly/39Aqd0v


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงข้อมูลจาก https://bit.ly/2UVrYku

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต