Business Model Canvas (BMC) จำเป็นแค่ไหน? สำหรับ SMEs และ Start Up

เราเคยรู้ว่าหากจะเริ่มต้นทำธุรกิจสักอย่างจำเป็นต้องมี “แผนธุรกิจ (Business Plan)” เพื่อให้มองเห็นทิศทางและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้อง

แต่ตอนนี้ Business Plan กำลังถูกแทนที่ด้วย “โมเดลธุรกิจ (Business Model Canvas)” หรือเรียกย่อๆว่า BMC ที่ถูกคิดค้นโดย ดร.อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ (Alex Osterwalder) ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือ Business Model Generation เมื่อปี 2010

แผนธุรกิจ

ภาพจาก www.alexosterwalder.com/

โดย www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าโมเดลธุรกิจ (BMC) นี้น่าสนใจมาก สะท้อนได้จากงานวิจัยที่ระบุว่ามีบริษัทกว่า 5 ล้านรายทั่วโลกได้นำกลยุทธ์นี้ไปใช้โดยร้อยละ 36 นำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจใหม่ , ร้อยละ 21 นำไปพัฒนาสินค้าใหม่ และร้อยละ 19 นำไปปรับกลยุทธ์ในองค์กร

คำถามที่น่าสนใจคือ Business Model Canvas (BMC)นี้แท้ที่จริงจำเป็นแค่ไหนกับคนทำธุรกิจ SMEs และ Start Up และโมเดลธุรกิจที่ว่านี้มีข้อดีที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง เราลองไปติดตามดูพร้อมกันเลย

ความแตกต่างของ Business Model Canvas (BMC) กับ แผนธุรกิจ Business Plan

5

ภาพจาก www.freepik.com

Business Plan (แผนธุรกิจ) หมายถึงแผน ระยะยาว 3-5 ปี ที่กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจทั้งหมด ซึ่งในการจะหาข้อมูลเพื่อทำออกมาเป็นแผนธุรกิจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น ในขณะที่Business Model Canvas (BMC) หมายถึงรูปแบบการสร้างรายได้ของธุรกิจ หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายมันคือการที่เจ้าของธุรกิจต้องตอบคำถามได้ 2 ข้อ

คือ “เราหารายได้อย่างไร” และผู้ซื้อเขา “ได้อะไรไปจากเรา” ซึ่งทฤษฎี Business Model Canvas ช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้นในการตอบทั้ง 2 คำถามนี้เพื่อให้เจ้าของกิจการสามารถปรับรูปแบบรายได้ หรือ โมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับความต้องการได้ในระยะเวลาอันสั้น

ดังนั้น Business Model Canvas ทำให้เห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับโมเดลธุรกิจแบบดั้งเดิม และยังเป็นวิธีที่ทำให้คนในองค์กรสามารถระดมความคิดในการพัฒนาธุรกิจที่ง่ายยิ่งขึ้น โดย Business Model Canvas สามารถใช้ได้ตั้งแต่ Startup ที่พึ่งก่อตั้งไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ก็ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น บริษัท 3M, Microsoft, Lego, Coca Cola ฯลฯ ซึ่ง Business Model Canvas ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับแผนกลยุทธ์ของธุรกิจไปในแนวทางเดียวกัน

องค์ประกอบของ Business Model Canvas (BMC)

4

ภาพจาก www.freepik.com

1.Customer Segments กลุ่มลูกค้าของเรา

คือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราที่เราจะนำเสนอการบริการหรือสินค้าของเรา โดยการแบ่งกลุ่มลูกค้าต้องชัดเจน เช่น พื้นที่ที่อยู่อาศัยอยู่ประเทศ จังหวัดไหน อายุ เพศ พฤติกรรมความสนใจ ฯลฯ เพื่อการทำการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

2.Value Propositions คุณค่าที่ส่งมอบให้กับลูกค้า

หมายถึงความแตกต่างที่ลูกค้าอยากตัดสินใจซื้อ เช่น ถ้าเป็นสินค้าใหม่หรือบริการใหม่ต้องเป็นสินค้าที่มีไอเดียหรือความแตกต่างจากคู่แข่ง เป็นต้น

3.Channels ช่องทางที่จะเข้าถึงลูกค้า

เป็นการเลือกใช้ช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายได้อย่างถูกต้องเพื่อเพิ่มโอกาสในการรับรู้และสร้างยอดขายได้

3

ภาพจาก www.freepik.com

4.Customer relationships ความสัมพันธ์กับลูกค้า

เป็นการสร้างความประทับใจให้ลูกค้ารู้สึกว่าบริการของเราพิเศษกว่า ดีกว่า เช่นการให้คำปรึกษา การรับฟังปัญหาลูกค้า เป็นต้น

5.Revenue Streams รายได้หลักของธุรกิจ

เป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องรู้ว่าายได้ของธุรกิจมาจากช่องทางไหนบ้าง อาทิ การขายสินค้า การสมัครสมาชิกแบบรายเดือน/รายปี และ การให้ยืมหรือเช่าสินค้าและบริการ เป็นต้น

6.Key Resources ทรัพยากรหลักของธุรกิจ

หมายถึงองค์ประกอบที่เราต้องใช้ในการดำเนินธุรกิจทั้งหมดเช่น วัตถุดิบ เครื่องจักร แรงงาน สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ต้นทุนในด้านต่างๆ เป็นต้น

2

ภาพจาก www.freepik.com

7.Key Activities กิจกรรมหลักที่ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ

มุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าทั้ง การเข้าถึงกลุ่มลูกค้า การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและการสร้างรายได้

8.Key Partners พันธมิตรหรือหุ้นส่วนของเรา

การหาพันธมิตรเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจยุคนี้ โดยอาจเป็นความร่วมมือระหว่างกันในสินค้าบางประเภท หรือจะเป็นการร่วาทุนในการพัฒนาสินค้าร่วมกัน เป็นต้น

9.Cost Structure ต้นทุนในการทำธุรกิจทั้งหมด

คือต้องรู้ต้นทุนในการผลิตทั้งหมด เพื่อจะสามารถคำนวณกำไรในการตั้งราคาสินค้าและบริการของเราได้

ข้อดีของการใช้งาน Business Model Canvas

1

ภาพจาก www.freepik.com

  1. ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจสามารถมองเห็นแนวทาง จุดเด่น จุดด้อยต่าง ๆ ของธุรกิจตนเองได้อย่างชัดเจน ต่อยอดการวางแผนในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดังที่คาดหวัง
  2. ใช้เป็นตัววิเคราะห์ประสิทธิภาพทางการตลาดขององค์กรว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางใด สิ่งที่ปฏิบัติมานั้นเหมาะสม หรือถูกต้องต่อธุรกิจมากแค่ไหน
  3. สร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตในอนาคต เมื่อมองเห็นจุดบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็รีบแก้ไขในทันที
  4. พนักงานทุกภาคส่วนเข้าใจในแผนงานที่ชัดเจน มองเห็นนโยบายขององค์กรและเลือกปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดผลดังที่ฝ่ายบริหารต้องการ
  5. การวางแผนผ่าน Business Model Canvas สามารถเอาไปใช้งานได้กับทุกธุรกิจ

ทั้งนี้ Business Model Canvas (BMC) อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเป็นโครงสร้างของธุรกิจที่ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนแต่เหนือสิ่งอื่นใดการทำธุรกิจจะอาศัยเพียงแค่ทฤษฏีอย่างเดียวไม่ได้จำเป็นต้องเรียนรู้ในภาคปฏิบัติ

และมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ รวมถึงต้องใช้กลยุทธ์การทำตลาดที่เข้าถึงลูกค้าได้เป็นอย่างดี จึงจะทำให้ธุรกิจของเรามีโอกาสเติบโตและสร้างรายได้มากขึ้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3ocWxPS , https://bit.ly/3qjahuZ , https://bit.ly/3BYjv1R , https://bit.ly/3bPUHyC

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3bUxOtX

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด