9 ข้อต้องรู้สู่ตลาดเมียนมา

เชื่อว่าในปี 2560 มีสินค้าและผลิตภัณฑ์จำนวนไม่น้อยที่ต้องการจะ ขยายธุรกิจ ตัวเองไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในยุคที่เราอยู่ในสังคมยุค AEC การใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ก็ดูจะน่าสนใจมากขึ้น

เหตุผลมากมายที่ทำให้ผู้ประกอบมองช่องทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านนั้นน่าสนใจเพราะปัจจุบันประเทศเหล่านี้เริ่มพัฒนาเศรษฐกิจตัวเองมากขึ้นจึงทำให้มีความต้องการสินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในประเทศได้มากขึ้น

หนึ่งในประเทศที่ www.ThaiSMEsCenter.com มองเห็นถึงศักยภาพและผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยก็ตั้งเป้าจะขยายธุรกิจไปถึงนั้นคือ “เมียนมา” ที่วันนี้กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งที่สำคัญมีความต้องการสินค้าหลากหลายชนิดเป็นจำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ดีการเข้าสู่ตลาดเมียนมาผู้ประกอบการควรเตรียมตัวให้พร้อมรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับตลาดแห่งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรให้กับธุรกิจตัวเองได้มากขึ้นด้วย

1.ธุรกิจท่องเที่ยวและที่พักยังสดใส

ขยายธุรกิจ

ภาพจาก goo.gl/oo00B3

เห็นได้จากยอดนักท่องเที่ยวที่พุ่งสูงถึง 5 ล้านคน และตั้งเป้าเป็น 7.5 ล้านคนในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้บริษัทท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้นเกือบ 2,000 แห่ง จากเดิมที่มีเพียง 1,623 แห่งเมื่อปี 2557 แถมตอนนี้ ญี่ปุ่นและอังกฤษยังร่วมมือพัฒนา 3 เมืองสำคัญ อย่าง มัณฑะเลย์ ปะเตง มะละแหม่ง ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง

โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ตลอดจนการเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในเขตมณฑลตะนาวศรี แต่ทุกวันนี้ เมืองใหญ่อย่างย่างกุ้งมีโรงแรมแค่ 300 กว่าแห่งนั้น ถ้ารวมที่พักแบบอื่นอย่างโฮสเทลด้วยทั้ง เมียนมาก็มีแค่ 1,000 กว่าแห่งเท่านั้น SME ไทยที่เชี่ยวชาญธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร หรือสปา มีโอกาสเติบโตอยู่แค่เอื้อม

2.รายได้ของคนเมียนมาเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน

61

ภาพจาก goo.gl/uJhKsN

ในปี 2563 คาดว่าเมียนมาจะมีชนชั้นกลางที่รวยมากขึ้นถึง 10 ล้านคน และรัฐบาลยังเพิ่มเงินเดือนข้าราชการอีก 50%เพื่อให้ข้าราชการที่มีอยู่ 1.5 ล้านคนมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทุกวันนี้เห็นชัดเจนว่าคนเมียนมามีกำลังซื้อสูงขึ้น เห็นได้จากสินค้าที่ตอบสนองความสบาย เช่น แอร์ ตู้เย็น มียอดขายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสินค้า Life Style ยิ่งน่าจับตา

เพราะสมัยก่อนการจะหากาแฟคาปูชิโน่สักแก้วในย่างกุ้งยังยาก แต่ตอนนี้มีร้านกาแฟสวยๆ ผุดขึ้นเกิน 20 แห่ง ขายกาแฟที่แพงกว่ากาแฟรถเข็น 10 เท่า หรือ KFC ที่มาเปิดวันแรกก็มีลูกค้าเป็นร้อยๆ คนมายืนต่อคิวรอหลายชั่วโมง เพื่อลองซื้อไก่ทอดที่แพงกว่าไก่ทอดทั่วไปถึง 3 เท่า ที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะวันนี้ ผู้บริโภคเมียนมามีลักษณะเปิดใจ กล้าลองสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น

3.ธุรกิจรถยนต์น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง

63

ภาพจาก goo.gl/2f3d57

ย่างกุ้งเป็นเมืองที่มีแต่รถยนต์ เพราะมีกฎห้ามใช้มอเตอร์ไซค์ บวกกับรัฐฯ เพิ่งอนุญาตให้นำเข้ารถยนต์ได้ หลังเคยมีข้อจำกัดในการขอใบอนุญาตนำเข้าในช่วงปิดประเทศ

ทำให้จำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนในเมียนมาเพิ่มขึ้นจาก 200,000 คัน เป็น 400,000 คันภายในเวลา 2 ปี เมื่อรถยนต์เพิ่มขึ้น หลายธุรกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกันกำลังตามมา เช่น ประกันภัยรถยนต์ อะไหล่รถยนต์ คาร์แคร์ ดังนั้น SME ที่มีธุรกิจนี้อยู่ พลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด

4.เรื่องสวยงามมองข้ามไม่ได้

64

ภาพจาก goo.gl/NQ5qrP

อุตสาหกรรมความงามในเมียนมามีมูลค่าตลาดมากถึง 11,000 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มเส้นผมโตมากสุด 97% รองลงมาคือกลุ่มผิวหน้า 70% คลินิกเสริมความงามก็ไปได้สวยเช่นกัน วันนี้ คลินิกความงามยักษ์ใหญ่สัญชาติไทยเปิดสาขาในเมียนมากันหมดแล้ว SME ไทยรายอื่นอย่าเพิ่งถอดใจเพราะยังมีที่ว่างอีกมากมายสำหรับทำธุรกิจสวยๆ งามๆ เช่นนี้

5.ตลาดไอทีและออนไลน์แรงไม่หยุด

66

ภาพจาก goo.gl/TnihFm

ปัจจุบันเมืองสำคัญของเมียนมาใช้ 3G เกือบทั้งหมด แถมค่าซิมการ์ดก็เหลือแค่ 1500 จ๊าด หรือราวๆ 50 บาท จากที่แต่ก่อนราคาแพงถึง 60,000 บาท ทำให้ยอดขายซิมการ์ดแต่ละเดือนเลยเฉลี่ยสูงถึง 350,000 อัน ชาวเมียนมากว่า 14 ล้านคนมีมือถือใช้ และ 20% เริ่มหันมาใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ

แถมชาวเมียนมาก็ใช้โซเชียลมีเดียไม่ต่างจากประเทศไทย แอพพลิเคชั่นฮิตสุดคือ ไวเบอร์ และ Facebook ดังนั้น SME อุปกรณ์ไอทีมีโอกาสดีๆรออยู่มากมายและที่สำคัญธุรกิจขายของออนไลน์ในเมียนมาเกิดขึ้นแน่นอนในไม่ช้านี้

6.Made in Thailand มีชัยไปกว่าครึ่ง

68

ภาพจาก goo.gl/FBeZ9A

สินค้าจากไทย อย่างไรก็ขายได้ เพราะชาวเมียนมาชื่นชอบสินค้าไทยมาก จนสินค้าจากบางประเทศใช้ภาษาไทยบนหีบห่อเพราะอยากให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นสินค้าจากประเทศไทย

แต่ถ้าหาก SME อยากบุกตลาดจริงจังอาจต้องเข้าถึงผู้บริโภคให้ถูกทาง เช่น แจกสินค้าให้ลูกค้าทดลองใช้ฟรี นอกจากทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าแล้ว ยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าและแบรนด์ไปในตัว

7.ควรเริ่มต้นจากตลาดค้าชายแดนก่อน

69

ภาพจาก goo.gl/sB3O6q

SME ไทยอาจเริ่มจากเข้าไปค้าขายตามชายแดนก่อน โดยสินค้าที่ขายควรลงรายละเอียดสินค้าเป็นภาษาพม่า เช่น ฉลาก วิธีใช้ เหมือนอย่างมุกดา มาร์เก็ต โชห่วยไทยขวัญใจชาวเมียนมาประจำด่านแม่สอด ที่มีภาษาพม่าในร้าน และมีพนักงานชาวเมียนมาให้บริการ เพราะทุกวันจะมีพ่อค้าคนกลางจากเมียนมามาซื้อของไปขายต่อเยอะมาก

อีกวิธีที่น่าลอง คือ การอาศัยตัวแทนจำหน่ายคนไทยที่เปิดร้านขายสินค้าไทยในเมียนมา ในการเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไทยสู่เมียนมา นอกจากมีหน้าร้านขายสินค้าแล้วยังช่วยโปรโมตเป็นภาษาพม่า และทำหน้าที่ช่วยเจรจาระหว่าง SME ไทยกับชาวเมียนมาที่สนใจเป็นตัวแทนนำสินค้าไปขายต่อ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ SME ไทยขยายตลาดไปยังเมียนมาได้ง่ายขึ้น

8.ตลาดที่ดีที่สุดตอนนี้คือสื่อโทรทัศน์

70

ภาพจาก goo.gl/AyL5ST

ทีวีคือสื่อหลักที่เข้าถึงชาวเมียนมาได้มากสุดถึง 94% ชาวเมียนมา 48% ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการเพราะโฆษณาทีวี ซึ่งค่าโฆษณาทีวีช่วงไพรม์ไทม์ มีราคาประมาณ 48,000 บาท ต่อ 30 วินาทีเท่านั้น

9.กฏหมายเกื้อหนุนให้โอกาสนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

71

ภาพจาก goo.gl/XCjgmO

รัฐบาลเมียนมาอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนได้ 3 แบบ คือถือหุ้น 100% (Full Ownership) ร่วมทุนกับชาวเมียนมาหรือหน่วยงานภาครัฐเมียนมา (Joint Venture) และลงทุนในลักษณะหุ้นส่วน (Partnership) แต่ SME ต้องพิจารณาให้ดีเพราะแต่ละธุรกิจจะมีเงื่อนไขต่างกัน เช่น สนามกอล์ฟลงทุนแบบ Joint Venture ได้เท่านั้น

ธุรกิจนิตยสารเฉพาะทางภาษาต่างประเทศ รัฐฯ กำหนดให้ชาวเมียนมาต้องถือหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 51หรือถ้าเป็นธุรกิจโรงแรม 4-5 ดาว จะสามารถลงทุนได้ 100% เพราะเมียนมายังมีโรงแรมน้อยมาก ถ้าอยากเข้าไปลงทุน ขอแนะนำว่า SME ควรหาพันธมิตรทางธุรกิจชาวเมียนมาให้ได้ก่อน

ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจจะเข้าไปลงทุนในเมียนมาจึงควรเดินทางไปสำรวจตลาดจริงให้เห็นสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และวิถีชีวิต ของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำมาวางแผนธุรกิจบุกตลาดที่มีโอกาสมากมายให้ SME ไทยรีบคว้ามาครอบครอง

และสำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่มองหาแหล่งตลาดการลงทุนในเมียนมาเรารวบรวมมหกรรมการจัดแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในเมียนมาไว้ 2 งานสำคัญดูรายละเอียดที่ goo.gl/K5XKwg และ goo.gl/UyZiiJ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด