8 เหตุผลทำไม “โรตีบอย” เสื่อมมนต์ขลัง

ย้อนกลับไปในอดีต ภาพการยืนต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่เช้าจนค่ำ ในย่านสยามสแควร์และสีลม เพื่อรอซื้อขนมปัง ได้เป็นที่ฮือฮา เริ่มเป็นที่พูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง เป็น Talk of the Town ตลอดหลายเดือน ท้ายปลายปี 2548 ต่อต้นปี 2549

ขนมปังฟีเวอร์ที่ว่า ก็คือ โรตีบอย เป็นขนมปังอบกลิ่นกาแฟ ก้อนกลมๆ เป็นเทรนด์ใหม่ของขนมปังที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงนั้น “โรตีบอย” เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี 2541 ที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย แรกเริ่มใช้ชื่อว่า Bukit Mertajam
เรียกว่าขายดิบขายดี จนเป็นที่รู้จักในเรื่องของรสชาติ

8 เหตุผลทำไม

ภาพจาก https://goo.gl/cCV9wT

จากนั้นปี 2545 เปลี่ยนชื่อมาเป็น Rotiboy เปิดสาขาแรกที่ Wisma Central, Jolan Ampang โดยขณะนี้มีนักธุรกิจ ทั้งไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ซื้อแฟรนไชส์เข้ามาทำกันอย่างคึกคัก

ความสำเร็จของโรตีบอย ไม่มีอะไรซับซ้อน เปรียบเสมือนเป็นสินค้าธรรมดาที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป เป็นขนมปังที่ใครๆ ก็เคยกินด้วยกันทั้งนั้น และผู้บริโภคทั่วโลกก็รู้จัก ราคาไม่แพง คนทุก ทุกชนชั้น ทุกเพศทุกวัย สามารถกินได้ทั้งนั้น เพียงแต่เข้ามาเมืองไทยแล้ว สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้คนที่ไม่รู้จัก อยากรู้ว่ามันคืออะไร จึงนำไปสู่การอยากลองบ้าง

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนออีกด้านหนึ่งความล้มเหลวของโรตีบอย ว่ามีสาเหตุอะไรบ้าง ที่ทำให้ขนมปังอบกลิ่นหอมกาแฟ สัญชาติมาเลเซีย ถึงกับต้องม้วนเสื่อกลับบ้านอย่างรวดเร็ว มาดูเลยครับ

697

ภาพจาก https://goo.gl/nc27xN

1.อย่างแรกคือการไม่ใช่ “ของจริง” เมื่อผู้บริหารโรตีบอยสาขาไทย ยอมรับว่าช่วงแรกมีการจ้างหน้าม้ามายืนต่อแถว โดยบอกว่าเป็นเทคนิคหนึ่ง ซึ่งเทคนิคจำพวกนี้ มันใช้ได้แค่ช่วงแรกเท่านั้น แต่ระยะยาวต้องมีอะไรพิสูจน์อีกเยอะ

2.ราคาเป็นอีกปัญหาอย่างหนึ่ง โดยช่วงแรกผู้บริโภคอาจะคิดว่า 25 บาท ก็พอซื้อกินได้ แต่เมื่อเจอคู่แข่ง Mr.Bun ที่ขายก้อนเล็กกว่า แค่ 10 บาท รสชาติไม่ต่างกันมากนัก กลิ่นหอมเหมือนกัน ก็หันมาซื้อกินทันที

698

ภาพจาก https://goo.gl/PuAc1x

3.รสชาติที่ร้านภูมิใจ กลายเป็นหอกทิ่มกลับ เพราะบรรดาคู่แข่งต่างๆ สามารถเลียนแบบออกมาได้ใกล้เคียง ที่สำคัญคือผู้บริโภคคนไทย ไม่ค่อยแยกแยะความต่างได้ แถมคู่แข่งมีหลากหลายสารพัดยี่ห้อ อาทิ Mr.Bun โรตีมัม คอฟฟี่โดม หรือแม้แต่ห้างโลตัส คาร์ฟูร์ ทำขายกันเกลื่อน แถมก้นใหญ่ ราคาถูกอีกด้วย

4.หลังจากโรตีบอยทำเอาคนฮิตทั่วกรุงเทพฯ ก็โดนโจมตีว่า เป็นขนมไม่ดีต่อสุขภาพ มีทั้งน้ำตาล ไขมัน และอื่นๆ สารพัด จึงอาจทำให้ผู้บริโภคกลัว ยิ่งคนไทยเป็นพวกตื่นกระแสได้ง่าย ใครทำอะไร คิดอะไร ก็ว่าไปตามกันหมด

5.โรตีบอยในประเทศไทยตอนนั้น มีอยู่ 2 สาขา คือ สยามสแควร์ซอย 4 และสาขาสีลม 3 แต่เป็นคนละเจ้าของ ซึ่งต่างฝ่ายต่างซื้อแฟรนไชส์มาเช่นเดียวกัน ผู้บริโภคหลายๆ คนก็ไม่รู้ ทำให้บริหารจัดการร้าน ขยายสาขา ไม่มีทิศทางเดียวกัน

700

ภาพจาก https://goo.gl/uyojdq

6.แม้จะเป็นกระแสในช่วงแรก คนต่อแถวจำนวนมาก แต่ถ้าใครได้ลองกินไปแล้ว หลายๆ คนไม่อยากจะซื้อกินอีก อาจคิดว่าขี้เกียจไปยืนต่อแถว พอหลายๆ คนคิดแบบนี้ ก็ทำให้โรตีบอยเสื่อมมนต์ขลังไปโดยปริยาย

7.จริงๆ แล้วรสชาติไม่ค่อยอร่อย สมกับจำนวนคนไปยืนต่อแถว ตอนแรกอาจเป็นอารมณ์พาไปตามกระแส อยากลอง อยากอวดเฉยๆ พอพ้นช่วงอวดกันไปแล้ว ก็ไม่มีใครอยากกิน เพราะมันไม่อร่อยสมราคา

8.สุดท้ายจริงๆ คนไทยก็คือคนไทย ชอบมุง ชอบเกาะกระแส และขนมปังแม้จะอร่อยแค่ไหน ก็ไม่อาจแทนที่อาหารการกินอื่นๆ ได้เลย

699

ภาพจาก https://goo.gl/cQQLwh

โรตีบอยเปรียบเสมือนสินค้ากระแส ช่วงแรกสามารถทำให้เกิดพลังบอกต่อกันแบบปากต่อปาก มิหนำซ้ำยังมีข่าวออกมาว่า เจ้าของร้านมีการจ้างคนมายืนมุง มายืนต่อแถวให้คนเห็น เพราะเจ้าของธุรกิจรู้พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยดีว่า คนไทยชอบมุง ชอบบ้าตามกระแส พอเห็นคนอื่นทำก็ทำตาม เดี๋ยวกลัวตกเทรนด์

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับ การทำธุรกิจที่คนอื่นสามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย ทำให้มีคู่แข่งจำนวนมาก สุดท้ายถ้าคู่แข่งสามารถทำได้ดีกว่า รสชาติอร่อยกว่า ราคาถูกกว่า…ขมปังอบโรตีบอยที่ว่าแน่! ก็เสื่อมมนต์ขลังได้ในที่สุดครับ


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

SMEs Tips

  1. สร้างกระแสด้วยการจ้างคนยืนต่อแถว
  2. ราคาสูงกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกัน
  3. รสชาติไม่โดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด
  4. โดนโจมตีว่าเป็นขนมทำลายสุขภาพ
  5. มี 2 เจ้า ทำให้แข่งขันกันเอง
  6. ลูกค้าที่ได้กินแล้ว ไม่อยากซื้อซ้ำ
  7. รสชาติไม่อร่อยสมคำร่ำลือ
  8. คนไทยไม่นิยมทานขนมแทนอาหารอื่นๆ

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3xgg1XQ

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช