8 เทคนิคใช้ Facebook เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับธุรกิจ

นอกจากคนทั่วไปจะนิยมใช้ facebook ใน การติดต่อสื่อสาร โปรโมท ประชาสัมพันธ์ตัวเองและสินค้าแล้ว ธุรกิจต่างๆ ก็นิยมใช้ Facebook เพื่อสร้างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ในการสร้างยอดขายเช่นเดียวกัน แต่จะมีใครรู้บ้าว่า หากจะต้องใช้ Facebook เป็นช่องทางดำเนินธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ ต้องทำอย่างไร

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอนำเสนอ 8 เทคนิคใช้ facebook ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Businessnewsdaily.com มาดูพร้อมๆ กันเลยว่า เราจะใช้ช่องทางสื่อสารทาง Facebook เพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของเราได้อย่างไร

การติดต่อสื่อสาร

ภาพจาก goo.gl/F4RHf6

1.สร้าง Facebook Page

Facebook Page เปรียบเสมือนหน้าร้านของธุรกิจ การสร้าง Facebook Page ให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และมีช่องทางที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถติดต่อกับผู้ขายได้สะดวก ก็จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าบนโลกออนไลน์เข้าถึงสินค้าและธุรกิจของเราได้ง่ายและรวดเร็ว

รวมถึงการใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ในหัวข้อ About อย่างครบถ้วน เช่น ที่ตั้งร้านค้า เวลาทำการ ข้อมูลติดต่อกลับ ประวัติที่มาของธุรกิจ ตลอดจนสินค้าต่างๆ ก็จะช่วยทำให้ Facebook Page ธุรกิจนั้นดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

2.โปรโมทร่วมกับเว็บไซต์

ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ก็สามารถต่อยอดกลายมาเป็นแฟน Facebook Page ของธุรกิจได้เช่นกัน หากผู้ประกอบการโปรโมท Facebook Page ของธุรกิจร่วมกับเว็บไซต์ ด้วยการติดตั้ง Facebook Like Box และ Social Bottom ภายในเว็บไซต์

เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ติดตามข่าวสารต่างๆ ที่ธุรกิจอัพเดทขึ้น Facebook ผ่านเว็บไซต์ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กด Like และ Share ข้อมูลของธุรกิจได้อย่างสะดวก ซึ่งยังส่งผลให้เพื่อนของผู้เยี่ยมชมเห็นข้อมูลธุรกิจเหล่านั้นอีกด้วย

yy21

ภาพจาก goo.gl/A2UASj

3.นำเสนอ Content ที่ดี

เนื้อหาภายใน Facebook Page ที่ดี ช่วยเรียกความสนใจ และปฏิสัมพันธ์จากกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะภาพสวยๆ, คลิป Video สั้นๆ, เทคนิค เคล็ดลับดีๆ หรือโปรโมชั่นของธุรกิจ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ธุรกิจจัดขึ้น

นอกจากจะมีเนื้อหาที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการต้องโพสต์ เนื้อหาเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ และควรเป็นในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป จนมองไม่เห็นสินค้าของธุรกิจ หรือไม่น้อยเกินไป จนผู้บริโภครู้สึกว่า Facebook Page นี้มุ่งเน้นขายของเพียงอย่างเดียว รวมทั้งยังต้องพยายามสรรหาเนื้อหาที่ตรงใจ ตรงกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจมาโพสต์

4.โพสต์ให้คลิกไปที่เว็บไซต์

นอกจากข้อมูลธุรกิจ และเนื้อหาที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการยังควรโพสต์ข้อมูล เพื่อนำไปสู่การขายตามช่องทางต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ ใน Facebook Page ด้วย ไม่ว่าจะเป็นให้ลูกค้า คลิกซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ธุรกิจ, สั่งซื้อสินค้าได้ภายในโพสต์ได้เลย หรือว่าให้ติดต่อเข้ามาผ่านกล่องข้อความ

yy23

ภาพจาก goo.gl/D5xoAl

5.ใช้ Facebook Ads

เมื่อมี Facebook Page ที่ดีแล้ว สิ่งต่อมาที่ผู้ประกอบการควรทำ เพื่อทำให้แบรนด์และสินค้าของตัวเองเป็นที่รู้จักบน Facebook คือ ทำโฆษณาบน Facebook หรือ Facebook Ads เนื่องจาก โฆษณาบน Facebook จะทำให้กลุ่มลูกค้าเห็นสินค้าของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงยังเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก

6.ใช้ฐานลูกค้าเป็นพลัง

ข้อมูลลูกค้าที่เคยสั่งซื้อสินค้า ถือเป็นหัวเชื้อสำคัญในการต่อยอดยอดขายให้กับธุรกิจ เนื่องจากผู้ประกอบการสามารถนำกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นมาเป็นกลุ่มตั้งต้น ในการทำการตลาดผ่าน Facebook ด้วยเทคนิค Lookalike

ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าจากการ Optimize ของ Facebook โดยตรง ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าที่ได้ จะมีความแม่นยำกว่าการที่ผู้ประกอบการซุ่มหาลูกค้าเอง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ได้นั้นจะมีความคล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าที่ใช่ ที่เป็นกลุ่มตั้งต้นมากที่สุด

yy22

ภาพจาก goo.gl/bIwuuw

7.Retargeting ไปยังกลุ่มลูกค้าโดยตรง

Retargeting คือ เทคนิคการทำการตลาดด้วย Facebook ที่ได้ผลคุ้มค่าที่สุด เพราะเป็นการทำการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่รู้จัก หรือ มีความสนใจในธุรกิจอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ว่านั้นก็ได้จากฐานลูกค้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล ข้อมูลติดต่อกลับต่างๆ ที่ลูกค้าให้ไว้ รวมทั้งข้อมูลของลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของธุรกิจ

ส่งผลให้การทำโฆษณาไปยังลูกค้ากลุ่มนี้ มีโอกาสที่จะได้ยอดขายสูงกว่าการทำโฆษณายังไปกลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักธุรกิจมาก่อน แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการทำ Retargeting คือ การมีข้อมูลลูกค้าในธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงไม่ควรละเลยการเก็บข้อมูลลูกค้าที่ได้จากช่องทางต่างๆ และจัดวางอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะได้นำมาใช้งานได้เลย

8.ทำโฆษณา

ในการทำโฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้า หรือธุรกิจทุกครั้ง ผู้ประกอบการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า โฆษณาที่ทำขึ้นไปนั้นถูกต้องตามกฎระเบียบของ Facebook แล้ว

เช่น มีตัวอักษรแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ จากพื้นที่โฆษณาทั้งหมด, ไม่มีรูปภาพ Before & After อยู่ในโฆษณา, ไม่มีคำพูดที่แสดงถึงการรับประกันการันตีต่างๆ รวมถึงไม่มีรูปที่ล่อแหลม และ ไม่ระบุในโฆษณาว่าให้ผู้บริโภคที่เห็นโฆษณานี้ Share หรือ ส่งต่อโฆษณานี้ต่อไป

ทั้งหมดถือเป็น 8 เทคนิคในการใช้ Facebook ให้มีประสิทธิภาพสูสุดในการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการ หรือนักการตลาดทั้งหลาย สามารถนำเอาบทความนี้ ไปเป็นแบบอย่างในการขาย และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจคุณได้ครับ


SMEs Tips

  1. สร้าง Facebook Page
  2. โปรโมทร่วมกับเว็บไซต์
  3. นำเสนอ Content ที่ดี
  4. โพสต์ให้คลิกไปที่เว็บไซต์
  5. ใช้ Facebook Ads
  6. ใช้ฐานลูกค้าเป็นพลัง
  7. Retargeting ไปยังกลุ่มลูกค้าโดยตรง
  8. ทำโฆษณา

อ้างอิงข้อมูลจาก https://goo.gl/2GSWwg

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช