8 รายจ่ายควรรัดเข็มขัด หากอยากรวย

ต้องยอมรับว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนมีเงินเดือนไม่พอใช้ในแต่ละเดือน ก็มาจาก ค่าใช้จ่าย ในชีวิตประจำวันบางอย่าง หรือหลายอย่าง ที่จ่ายไปด้วยความเคยชิน จ่ายไปเพราะอยากได้ โดยไม่ทันนึกว่านั่นอาจเป็นความฟุ่มเฟือย หรือเกินความจำเป็น ซึ่งถ้าคุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ ก็จะทำให้คุณมีเงินเพิ่มขึ้นมาอยู่ไม่น้อยในกระเป๋า

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณไปดูว่า รายจ่ายที่คุณควรจะรัดเข็มขัดให้แน่น สามารถประหยัด และเก็บออมได้ เพื่อการบริหารเงินเดือนที่เข้ามาแต่ละเดือนให้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

1.ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน

ภาพจาก goo.gl/eIPdpJ

เชื่อว่าหลายคนหมดเงินไปกับค่าเดินทาง ค่าน้ำมันมากเกินความจำเป็น เพราะต้องการความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเลือกนั่งรถแท็กซี่ หรือใช้รถส่วนตัว ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน หากคุณสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางด้วยการใช้บริการสาธารณะ อย่างเช่น รถประจำทาง รถไฟฟ้า หรือเรือได้ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ

ลองคำนวณว่าวิธีการเดินทางไหน ประหยัดและเหมาะสมที่สุด และถ้าหากคำนวณแล้ว การใช้บริการรถสาธารณะอย่างรถเมล์อาจจะทำให้เสียเวลามากกว่า หรือไม่มีรถไฟฟ้าผ่านเส้นที่คุณเดินทาง ก็อาจจะปรับเป็นเดินทางด้วยรถเมล์สลับกับรถแท็กซี่ วันเว้นวันบ้าง เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย วิธีนี้ก็จะช่วยให้คุณเห็นเงินที่เหลือจากค่าเดินทางมากขึ้นแน่นอน

2.ค่าโทรศัพท์

ภาพจาก goo.gl/aGhicf

ในปัจจุบันนี้ สมาร์ทโฟนกลายเป็นโทรศัพท์ที่มีคนใช้มากที่สุด ทำให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโทรศัพท์มักจะตกไปอยู่ที่ค่าบริการอินเทอร์เน็ตรายเดือนเสียมากกว่า

แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องจ่าย ทั้งค่าอินเทอร์เน็ตและค่าโทรศัพท์ รวมกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ถ้าอยากจะประหยัดเงินค่าโทรศัพท์ คุณก็ลองมองหาแอพพลิเคชั่นที่สามารถโทรศัพท์หากันได้ฟรี หรือโปรแกรมสนทนาแบบไม่ต้องเสียเงินมาใช้

แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็ลองมองหาโปรโมชั่นที่คุ้มค่า และเหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ของคุณ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเงินกับรายจ่ายส่วนนี้มากเกินความจำเป็น ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการสมัครบริการ SMS ต่างๆ ที่คิดค่าใช้จ่ายเป็นข้อความ 5-15 บาท ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง ไม่ค่อยจำเป็น

3.ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค

ภาพจาก goo.gl/IRccEA

ลองคิดดูว่า ไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้ที่ต้องซื้อในแต่ละเดือน ล้วนเป็นเงินไม่ใช่น้อยนะครับ โดยวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ก็แค่เพียงเลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น จดรายการของที่ต้องซื้อทุกครั้งเพื่อกำหนดแผนการใช้จ่าย

อีกทั้งถ้าเป็นของใช้ที่ต้องใช้เป็นประจำทุกวัน เช่น ยาสีฟัน สบู่ ผงซักฟอก ก็ควรเลือกซื้อแบบที่ขายยกแพ็ค หรือขนาดครอบครัว เพราะราคาถูกและคุ้มค่ากว่าการซื้อแบบแยกชิ้น และยังสามารถใช้ได้นานกว่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้เยอะเลยทีเดียว

4.ค่าเครื่องดื่มชา กาแฟ

ภาพจาก goo.gl/LAlXk1

ใครที่คิดว่าการซื้อเครื่องดื่มชา กาแฟ แค่วันละ 1 แก้วนั้น ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่หนักหนาล่ะก็ คิดผิดนะครับ เปลี่ยนความคิดเลยค่ะ เพราะการที่คุณซื้อเครื่องดื่มกาแฟ 1 แก้วทุกวัน ก็เท่ากับค่าข้าว 1 จานเชียวนะครับ เมื่อรวมกันแล้ว ซื้อดื่มทุกวันก็ตกเป็นจำนวนเงินที่สูงไม่ใช่น้อยเลย แถมไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้เป็นโรคอ้วนได้ เพราะมีน้ำตาลเยอะ

ลองนึกเล่นๆ สิว่า ถ้ากาแฟ 1 แก้วราคา 40 บาท ดื่มทุกวันที่มาทำงาน เท่ากับว่าใน 1 เดือนคุณจะต้องเสียค่ากาแฟไป 880 บาท แสดงว่าใน 1 ปีคุณต้องหมดค่าใช้จ่ายไปกับกาแฟถึง 10,560 บาท

นี่ล่ะเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายๆ คนมีเงินไม่พอใช้ วิธีแก้ปัญหาอาจไม่จำเป็นถึงขั้นต้องเลิกดื่มกาแฟ แต่แค่เพียงลองเปลี่ยนจากการซื้อกาแฟตามร้านหรูๆ มาชงดื่มเอง หรือร้านรถเข็น ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง จนคุณคาดไม่ถึงเลย

5.ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง

ภาพจาก goo.gl/JeiDlY

จริงอยู่ที่เมื่อคนเราทำงานหนัก ก็ต้องผ่อนคลายและหาความบันเทิงให้กับตัวเองบ้าง เช่น ออกไปดูหนังนอกบ้าน ปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุด แต่ถ้าเราใช้เงินกับส่วนนี้มากเกินไป อาจจะทำให้คุณกลับมานั่งเครียดกับปัญหาการเงินได้

ดังนั้น แทนที่คุณจะใช้เงินซื้อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว ก็ลองมองหากิจกรรมสนุกๆ ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องเสียเงิน เช่น ไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ออกกำลังกาย ทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน ดูทีวี เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดีไม่แพ้กัน แถมยังได้ประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย

6.ค่าช้อปปิ้งและทานอาหารนอกบ้าน

ภาพจาก goo.gl/ukZI3i

เป็นเรื่องที่คุณต้องตระหนักให้มากสำหรับข้อนี้ เพราะยิ่งค่าครองชีพสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป รวมถึงการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

ทั้งที่จริงแล้วคุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะด้วยวิธีการลดการซื้อของที่ฟุ่มเฟือยและไม่จำเป็นออกไป รวมถึงคุณอาจต้องเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตด้วยการทำอาหารกินเองที่บ้าน และห่ออาหารไปรับประทานเองที่ทำงาน

หรือไม่ก็เลือกรับประทานอาหารในร้านที่มีราคาย่อมเยา ไม่กินร้านหรูแพงเกินไป วิธีการเหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นวิธีที่ช่วยให้ค่าใช้จ่ายส่วนตัวหรือในครอบครัวลดลงได้ ถ้าวันนี้คุณคิดจะลดค่าใช้จ่ายด้วยการเปลี่ยนจากการรับประทานอาหารในร้านหรูๆ หรือในห้างสรรพสินค้า กลับมากินข้าวบ้าน คุณก็สามารถประหยัดค่าอาหารไปได้เยอะแล้วล่ะครับ

7.ค่าสาธารณูปโภค

ภาพจาก goo.gl/uZprhN

ถือเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างมากในทุกๆ วัน สำหรับการประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้แค่เพียงช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว

แค่เริ่มต้นจากการใช้น้ำอย่างประหยัด และปิดไฟดวงที่ไม่ใช้เท่านั้น คุณก็จะเห็นได้ว่าค่าน้ำและค่าไฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถ้าอยากจะประหยัดน้ำและไฟให้มากขึ้น เปิด-ปิดน้ำไฟเมื่อยามจำเป็น ปิดเมื่อไม่ใช้ หรือออกจากบ้าน

8.ค่าบัตรเครดิต

ภาพจาก goo.gl/DufbcR

ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่อยากสะดวกสบาย ต้องจ่ายกันเป็นประจำทุกต้อนเดือน แม้บัตรเครดิตจะเป็นช่องทางการจ่ายเงินที่สะดวกสบายกว่าการใช้เงินสด แต่ก็ต้องจำให้ขึ้นใจว่านี่เป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ เมื่อรูดบัตรเครดิตไปแล้วสุดท้ายตอนสิ้นเดือนคุณก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้อยู่ดี

ดังนั้น คุณจึงควรควบคุมการใช้บัตรเครดิตอย่างเคร่งครัด ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อที่ในเดือนต่อๆ ไป คุณจะได้ไม่ประสบปัญหารายจ่ายสูงจนเงินไม่พอใช้ และเมื่อคุณสามารถควบคุมการใช้บัตรเครดิตได้แล้ว ผลพวงที่ตามมา ก็คือ คุณจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้อีกมาก เรียกง่ายๆ ว่า คิดก่อนซื้อ คิดก่อนรูด จะได้ไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต

ทั้งหมดเป็นวิธีการที่จะช่วยให้คุณ สามารถลดรายจ่าย ช่วยรัดเข็มขัด ในสิ่งที่คุณจะต้องจ่ายกันเป็นประจำทุกเดือน จากการที่จ่ายมาก แต่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้จ่ายน้อยลงได้ แม้ว่ารายจ่ายเหล่านั้นจะมีความจำเป็นสำหรับคุณ แต่ถ้าสามารถควบคุม สามารถรัดเข็มขัด ไม่ให้หลวมจนเกินไป เชื่อว่าเงินในกระเป๋าของคุณจะมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ