8 คุณลักษณะของ หุ้นส่วน ที่ต้องปฏิเสธ
การมีจะ หุ้นส่วน ทุกคนที่เริ่มต้นในการทำธุรกิจของตัวเองนั้น ล้วนมีความแตกต่างของช่วงอายุคน บางคนอายุยังน้อยยี่สิบกว่าๆ สามสิบกว่าๆ หรือจะมากกว่านั้น และโดยคนส่วนใหญ่จะตระหนักดีว่าการเริ่มต้นด้วยตัวคนเดียวมันช่างยากลำบากเหลือเกิน
การจะมีหุ้นส่วนเพื่อช่วยดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมือนมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือด้วยการนำทักษะความรู้รวมถึงประสบการณ์ของหุ้นส่วนมาร่วมพัฒนาธุรกิจในด้านที่คุณไม่มีความรู้ มันเป็นแผนงานที่ดูดีจริงๆค่ะ
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากเริ่มต้นธุรกิจด้วยการมีหุ้นส่วน เช่น Google ของ Sergey Brin และ Larry Page, Facebook ผู้ก่อตั้งคือ Mark Zuckerberg และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คน ผู้ก่อตั้งที่มี หุ้นส่วน เปรียบเสมือนมีเพื่อนสักคนที่อยู่ด้วยกันได้ในช่วงเวลายากลำบาก และยังช่วยให้ลดความตึงเครียดลงได้ในระดับหนึ่ง
อีกครั้งกับการได้ลองเริ่มธุรกิจของคุณนั้น คุณอาจจะไม่ต้องการมีหุ้นส่วนเลยก็เป็นได้ ถ้าคุณได้พบลักษณะบางอย่างที่คุณอาจจะคิดว่า ในระยะยาวน่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดีก็เป็นได้ ทาง ThaiSMEsCenter.com จะกล่าวถึงคุณลักษณะที่คุณอาจจะหลีกเลี่ยงการเลือกหาหุ้นส่วนหรือพันธมิตรมาร่วมงาน
1.คุณไม่ต้องการ หุ้นส่วน ที่…พูดมากแต่ไม่เคยจำได้
มีคนอยู่สามประเภทในโลก คือคนที่พูดเก่งและทำงานเก่ง คนที่พูดไม่เก่งแต่ทำงานยอดเยี่ยม และคนที่พูดได้ยอดเยี่ยมแต่ทำงานยอดแย่ คนประเภทสุดท้ายนี้น่าอันตรายที่สุด เพราะจะทำให้คุณเชื่ออย่างสนิทใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังไปได้ดี และบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เวลาคุณสัมภาษณ์มองหา หุ้นส่วน นอกจากประวัติการทำงานที่คุณกำลังพิจารณาแล้ว อย่าลืมว่าคุณสามารถมองหาข้อมูลเชิงลึกในโลกอินเตอร์เน็ตได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นคนที่คุณกำลังพิจารณาเป็นพิเศษแล้ว ก็ยิ่งต้องดูให้ลึกว่ามีการโพสว่าอย่างไรใน Tweets, LinkedIn ,Facebook, Blog posts และอื่นๆบนเว็บไซต์
2.คุณไม่ต้องการ หุ้นส่วน ที่…ทำงานไม่สอดคล้องกับคุณ
ช่วงเวลาเริ่มต้นของการทำธุรกิจเป็นไปตามแผนงานนั้น เวลาและทรัพยากรเป็นสิ่งที่จะสูญเสียไปไม่ได้ ถ้าหุ้นส่วนของคุณตัดสินใจเรื่องหนึ่งในวันนี้ และตัดสินใจอีกเรื่องในวันถัดมา คุณเริ่มที่จะต้องกังวลใจแน่นอนแต่ถ้าคุณเห็นด้วยและไม่กระทบกับเวลาและทรัพยากรที่ใช้อยู่ก็อาจจไม่มีปัญหา แต่อย่าลืมว่าการทำดำเนินการธุรกิจให้เป็นไปตามแผนงาน คุณจะต้องมุ่งเน้นสิ่งที่ต้องทำตามเป้าหมายเป็นหลัก
3.คุณไม่ต้องการหุ้นส่วนที่…ไม่เป็นมิตรกับผู้คน
ในโลกใบใหญ่ใบนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้จักวิธีติดต่อพูดคุยหรือวิธีการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น มีเพื่อนบางคนของดิฉันบอกให้ทราบว่า หุ้นส่วนใหม่ของดิฉันพูดตะโกนในที่สาธารณะ ทำตัวเองจนเป็นที่ตลกของบุคคลทั่วไป
ในประเด็นนี้ ถ้าคุณกำลังคาดหวังกับหุ้นส่วนรายใหม่ที่กำลังจะมาร่วมงานของคุณนั้น ไม่สามารถทำให้คนอื่นๆทั่วไปชอบเค้าได้ สุดท้ายก็จะเหลือเพียงคุณคนเดียวอยู่นั่นเอง ถ้าเจอกรณีนี้แนะนำให้หาหุ้นส่วนรายอื่นดีกว่า
4.คุณไม่ต้องการหุ้นส่วนที่…พนักงานเกลียด
ไม่จำเป็นที่หุ้นส่วนของคุณจะต้องเป็นที่รักเหมือนดั่งดาราพระเอกหนัง ขอเพียงแค่เข้ากันกับพนักงานทุกคนได้ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักฟังและให้ความเคารพกับเพื่อนร่วมงานทุกคน และที่สำคัญจะดีมากถ้ามีการสอบถามความคิดเห็นของพนักงานอยู่เป็นประจำ
5.คุณไม่ต้องการหุ้นส่วนที่…มีหลายๆโครงการอยู่ในมือ
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยากในโลกธุรกิจ ถ้าทักษะความรู้ความสามารถของหุ้นส่วนของคุณนั้นจะมีโอกาสทำงานมากกว่าหนึ่งธุรกิจในช่วงเวลาเดียวกัน คุณต้องการคนที่ช่วยคุณอย่างเต็มเวลามากกว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ตัวคุณเองก็เช่นกัน คุณพร้อมกับงานของคุณมากแค่ไหน คุณยุ่งกับเรื่องอื่นมากเกินไปหรือไม่ อย่างไร
6.คุณไม่ต้องการหุ้นส่วนที่…ยึดถือตัวเองเป็นสำคัญ
ทุกๆคนล้วนมีทัศนะคติที่แตกต่างกัน การสร้างทีมงานที่ต้องการการตัดสินใจบางเรื่อง การยึดถือตัวเองเป็นใหญ่ อาจจะก่อให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะลดราคาสินค้าลง เพื่อสร้างฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น แต่กลยุทธ์นี้ถ้าหุ้นส่วนของคุณกลับมองว่าการขายราคาต่ำกว่ามาตรฐานของบริษัทอาจจะเสียภาพลักษณ์ขององค์กรก็เป็นไปได้
ถ้าเป็นเรื่อง “ทุกอย่าง 50-50” จะไม่มีใครมีอำนาจในการชี้ขาดในเรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหาลองดูในหัวข้อต่อไปได้เลยคะ
7.คุณไม่ต้องการหุ้นส่วนที่…ทุกอย่าง 50-50
หุ้นส่วนมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน บางประเภทเงินมาก่อน “Money Partner” หรือประเภทงานมาก่อน “Working Partner” แต่สินทรัพย์และการบริหารในองค์กรเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันในระบบ ในคำว่าเท่าเทียมกันของหุ้นส่วน “Equal Partnership” เป็นการบริหารความเท่าเทียมกันของการเงินการงานและเวลา โดยไม่ต้องสนใจว่าเป็นหุ้นส่วนในรูปแบบใดที่คุณมี ขอเพียงแต่ 50-50 มันไม่ใช่ความคิดที่ดี
60/40 ก็ดีใช้ได้ หรืออาจจะเป็น 52/48 แต่ไม่ควรมี 50-50 ด้วย เพราะตำแหน่งหน้าที่การสั่งการมันเท่าเทียมกัน ถ้าต้องมีการตัดสินใจในการบริหารและบัญชี ใครจะเป็นคนให้คำตัดสินและชี้ขาดได้ล่ะคะ ยกตัวอย่างเช่น การแข่งขันทางด้านกีฬาจำเป็นต้องมีกรรมการผู้ชี้ขาดเช่นเดียวกัน
8.คุณไม่ต้องการหุ้นส่วนที่…เห็นด้วยกับคุณทุกสิ่งทุกอย่าง
ทุกหัวข้อที่กล่าวมานั้นไม่อันตรายเท่าหัวข้อนี้ ในขณะที่ทำงานอยู่คุณจะไม่มีวันได้เห็นจุดอ่อนของคุณอย่างแน่นอน รู้แต่เพียงว่าคุณคือคนที่สุดยอดของการทำงานเพราะการดำเนินธุรกิจที่ผ่านไม่เคยมีคำโต้แย้งแต่อย่างใดจากหุ้นส่วนของคุณ ทุกๆสิ่งที่คุณทำมันดูเหมือนทำได้ดีมากและเหมาะสมอยู่เสมอ
คุณลักษณะหรือสิ่งอื่นๆที่คุณไม่มีเลยนั้น โปรดอย่ามองหาหุ้นส่วนที่มีความรู้ความสามารถเหมือนกับคุณ จงมองหาหุ้นส่วนที่มาเติมเต็มในส่วนที่คุณไม่มี ยกตัวอย่างเช่น คุณมีความสามารถในการสร้างสรรความคิดใหม่ๆ แปลกๆ คุณก็ควรมองหาหุ้นส่วนสักคนที่เก่งในการทำตลาด หรือคุณเก่งในการเป็นนักขาย คุณก็ควรมองหาหุ้นส่วนที่เก่งในการสร้างสินค้า
ทาง ThaiSMEsCenter.com มองเห็นทุกปัญหาคือโอกาสทางธุรกิจ ค่อยๆศึกษาหาหุ้นส่วนที่ดีและเหมาะสมมาร่วมงานกัน สุดท้ายความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้คะ ขอเป็นกำลังใจกับผู้ประกอบการทุกคนคะ