7 เรื่องที่ควรหยุดสนใจแล้วชีวิตจะดีขึ้นทันตา

มนุษย์ต้องการสังคม แต่บางครั้งสังคมรอบข้างก็เป็นตัวฉุดรั้งตัวตนของเราให้ย่ำอยู่กับที่ ใครอยู่ในสังคมที่ดีก็จะได้รับแรงเสริมที่ดีในการก้าวไปข้างหน้า

ทางกลับกันสังคมที่ไม่ดีก็ทำให้ชีวิตเราเดินไปข้างหน้าไม่ได้เช่นกัน แต่ตรรกกะนี้ก็อาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป แท้ที่จริงเป็นเรื่องของตัวบุคคลมากกว่าที่จะสนใจหรือไม่สนใจกับสิ่งรอบข้าง

ในเมื่อชีวิตเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะทำ เลือกที่จะไม่สนใจได้ www.ThaiSMEsCenter.com มี7เรื่องที่เราควรหยุดสนใจแล้วจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นทันตา ใครที่มองว่าชีวิตตัวเองกำลังย่ำแย่ ทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ งานไม่ดี เงินไม่มี รายรับไม่พอกับรายจ่าย ลองเช็คดูว่าเรายังสนใจ 7 เรื่องที่ว่านี้อยู่หรือไม่

1.งานที่ไม่ชอบ

7

ลองคิดดูว่าในทุกๆวันหากเราต้องตื่นขึ้นมาและรู้สึกว่างานที่ต้องออกไปทำมันช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน ขอแนะนำไว้ ณ ตรงนี้ว่านี่คือสัญญาณอันตรายที่ฉุดให้ชีวิตคุณไม่ก้าวหน้า การทำงานในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบทำไปก็ไม่เกิดผลประโยชน์อะไร เราไม่สามารถต่อยอดหรือพัฒนาสิ่งใดๆ ต่อไปได้แน่

หากคิดจะทำงานเพียงเพื่อให้เวลาหมดไปวันๆ ทางที่ดีควร “หางานใหม่” ที่ใจตัวเองต้องการ ซึ่งการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก มันจะทำให้เรามีกำลังใจในการสร้างสรรค์และพัฒนาไปสู่อนาคตที่ดีกว่า

บางทีคุณอาจไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือนแต่ใจอยากคิดเป็นพ่อค้า ก็อย่ารอช้า รีบออกมาก่อร่างสร้างธุรกิจของตัวเอง เพราะถึงแม้จะมีปัญหาบ้างแต่หากใจสั่งมาแล้วละก็เราก็จะพยายามแก้ปัญหาอย่างสุดชีวิตเพื่อให้ก้าวผ่านอุปสรรคเพื่อเดินไปข้างหน้าได้

2.เพื่อนที่ต้องคอยเอาใจ

n5

บางคนติดเพื่อนมากเพื่อนเป็นพระเจ้า อะไรๆ ก็เพื่อน การคบเพื่อนก็เป็นเรื่องที่ดีแต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องตามใจเพื่อนทุกคน ทุกครั้ง วัยรุ่นส่วนใหญ่มักอยากให้เพื่อนยอมรับ หลายคนจึงเลือกทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวตน ทำให้เสียเวลาและพลาดโอกาสดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต

ดังนั้นเราไม่ควรแคร์กับคำพูดของเพื่อนไปซะทุกอย่าง เพื่อนที่ดีต้องเป็นคนที่คอยดึงเราไปในทางที่ดี ให้กำลังใจเรา และพาเราเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง หากเรามีเพื่อนที่ดึงกันลงเหว พากันไปสู่อบายมุข ขอแนะนำให้เลิกสนใจและเลิกคบหา เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในอนาคต

3.อนาคตที่ไม่ต้องการ

n2

เราควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนในตัวเอง อนาคตเราก็ควรเลือกได้เองว่าต้องการทำอะไร เป็นอะไร อนาคตที่คนอื่นคิดให้ วางแผนไว้ให้ ถ้าไม่ชอบก็ควรบอกให้เขาได้รับรู้ และยืนยันว่าเราจะเดินในเส้นทางที่เราเลือกเอง การไปทำตามความคิดคนอื่น

เป็นอนาคตที่ตัวเองไม่ต้องการ เท่ากับเป็นการวิ่งที่เสียเวลา นอกจากเหนื่อยกายลำบากใจ สุดท้ายเราก็อาจไปไม่ถึงเป้าหมายที่เราคิด สู้หาอนาคตตัวเองให้เจอรู้ว่าเราอยากทำอะไร และตั้งหน้าตั้งตาเดินไปในเส้นทางนั้น ชีวิตจะเจอความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

4.ความคิดที่ฉุดให้ต่ำลง

n3

ร้อยคนร้อยความคิดเราจะให้ทุกคนมาคิดเหมือนกับที่เราต้องการไม่ได้ สิ่งสำคัญคือตัวเราเองต้องไม่คิดในแง่ลบ ไม่เอาความคิดของคนอื่นที่แย่ๆ มาเก็บให้รกสมอง พลังลบก็คือเงามืดที่จะบั่นทอนจิตใจให้เราหม่นหมอง หดหู่ ไม่อยากทำอะไร

ดังนั้นไม่ว่าใครจะพูดอะไร ว่าอะไร หากไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องเอามาใส่ใจ ปล่อยให้เป็นเพียงลมผ่านมาและก็ผ่านไป เราควรหาพลังบวกมาเพิ่มเติมกำลังใจให้กับตัวเองจะทำให้ชีวิตเราสดใสและก้าวไปข้างหน้าได้ดีมากขึ้น

5.ตัวตนในอดีตของเรา

m2

คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะทำได้ อย่าให้ตัวตนในอดีตมาฉุดรั้งอนาคต ไม่มีตรรกกะไหนที่บอกว่าหากเราเคยจนและก็จะต้องจนอย่างนั้นตลอดไป หรือไม่มีใครบอกได้ว่าหากเราเกิดในครอบครัวแรงงานเราจะไม่สามารถเป็นหมอ

เป็นทหาร เป็นเจ้าคนนายคนได้ สิ่งสำคัญคือเราต้องพยายามใช้ชีวิตที่ติดลบมาเป็นแรงผลักดันให้เราพุ่งไปข้างหน้า อดีตเป็นสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้แต่เราสามารถทำปัจจุบันให้ดีเพื่อมีอนาคตที่ดี และสุดท้ายเมื่อเราก้าวออกจากความเป็นตัวตนในอดีตไปสู่ความสำเร็จ เสียงชื่นชมยินดีก็จะมีมากขึ้นเป็นเท่าตัว

6.คำเปรียบเทียบและการดูถูก

n4

ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่ถูกนินทา ต่อให้เป็นคนที่เลิศเลอเพอเฟคต์แค่ไหน ก็หนีไม่พ้นคำคนนินทา การถูกเปรียบเทียบและดูถูก ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นไปตามคำพูดนั้น เช่น อย่างเธอนะเหรอไม่มีทางเรียนได้ที่ 1 เหมือนลูกฉันหรอก หรือ โง่ๆ อย่างนี้นะ คิดจะเป็นหมอ สงสารคนไข้จริงๆ มีหมอโง่ๆมารักษา

ขอให้นึกไว้เสมอว่าคำพูดที่ดูถูกเราส่วนหนึ่งก็เพราะเขากลัวที่เราจะได้ดีกว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มักใช้จิตวิทยาข่มให้ผู้อื่นรู้ว่าตัวเองเหนือกว่าทั้งที่ความจริงตัวเองอาจไม่ได้ดีกว่า สิ่งสำคัญคืออย่าเก็บคำพูดเหล่านี้มาใส่ใจ อย่าไปโต้เถียง ให้เสียเวลา สู้พิสูจน์ให้เห็นว่า “เราทำได้”

7.ฟุ่มเฟือยหรูหราตามแฟชั่น

n6

ยุคสมัยใหม่สีสันแห่งแฟชั่นและเทคโนโลยีมีบทบาทกับชีวิตเรามาก คนที่ไม่ก้าวตามเทรนด์มักถูกมองว่า “เชย” ไม่ทันสมัย อย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือย ตามแฟชั่นไม่ได้หมายถึงความสำเร็จในชีวิตตรงกันข้ามอาจเป็นการสร้างภาระหนี้ให้กับตัวเองในอนาคต

สิ่งที่ดีที่สุดคือตามกระแสอย่างพอเพียง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า โทรศัพท์ รถยนต์ หากยังใช้งานได้ก็ควรใช้ไปก่อน การตามเทคโนโลยีแพงๆ แต่ใช้ไม่เป็นซื้อมาเพื่อประดับบารมี ก็คือคนโง่ที่อวดฉลาด สู้อุปกรณ์ที่มีในมือแม้จะไม่ใช่เวอร์ชั่นล่าสุดแต่ใช้งานได้ครบ ประโยชน์เท่าเทียมกันแต่ทำให้ชีวิตเรามีคุณภาพมากกว่า

สิ่งทั้งหลายที่กล่าวนี้เป็นเพียงบริบทหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต หากต้องการที่เป็นคนประสบความสำเร็จ แง่คิดการใช้ชีวิต แบบแผนในการดำเนินชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่าใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆ อย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ ที่ตัวเองสบายใจ ที่สำคัญควรเดินทางสายกลางไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป ชีวิตก็มีความสุขได้


SMEs Tips

  1. งานที่ไม่ชอบ
  2. เพื่อนที่ต้องคอยเอาใจ
  3. อนาคตที่ไม่ต้องการ
  4. ความคิดที่ฉุดให้ต่ำลง
  5. ตัวตนในอดีตของเรา
  6. คำเปรียบเทียบและการดูถูก
  7. ฟุ่มเฟือยหรูหราตามแฟชั่น

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด