7 เทคนิค! ขายอาหารริมทาง ให้ร่ำรวย

หากพูดถึงร้าน ขายอาหารริมทาง ใครหลายคนอาจมองดูไม่เท่ ไม่หรู เท่ากับภัตตาคาร หรือร้านอาหารตามห้างสรรพสินค้า แต่ใครจะคิดว่าร้านอาหารข้างถนนเหล่านี้ จะมีรายได้สูงถึงหลักหมื่นหลักแสนต่อวัน แต่ต้องเป็นร้านที่รสชาติอร่อย มีคุณภาพ มีชื่อเสียง บริการดี ทำเลดี เดินทางสะดวก รวมถึงบรรยากาศร้านดีด้วย

จึงไม่แปลกที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ยกกรุงเทพฯ เป็นอันดับ 1 ใน 23 เมือง ที่มีอาหารข้างถนน หรือ Street food ดีที่สุดในโลก โดยมีเมนูแนะนำคือ หอยทอด และก๋วยเตี๋ยวไก่ซอยสายน้ำผึ้ง

โดยระบุว่า “เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาดอาหารริมถนนของกรุงเทพฯ ที่ตอนเช้ามีน้ำเต้าหู้ หรือจะกินข้าวมันไก่เป็นมื้อกลางวันก็ได้ กลางคืนดึกดื่นก็ยังมีผัดไทย หมูสะเต๊ะ และยังระบุว่า Bangkok’s Chinatown is one of the best city districts for street food

ขายอาหารริมทาง

สำหรับการจัดอันดับครั้งนี้ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นตามติดมาเป็นอันดับที่สอง ลำดับต่อมาคือโฮโนลูลู รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ส่วนเมืองอื่นๆ ที่ติดอันดับได้แก่ ปักกิ่ง (จีน), ฮ่องกง, บาหลี (อินโดนีเซีย), โฮจิมินห์ (เวียดนาม) และ มุมไบ (อินเดีย) ซิดนีย์ (ออสเตรเลีย), เดอร์บัน (แอฟริกาใต้),

นิวออร์ลีนส์ (สหรัฐฯ), อิสตันบูล (ตุรกี), ปารีส (ฝรั่งเศส), เม็กซิโกซิตี้ (เม็กซิโก), ไคโร (อียิปต์), มาราเกซ (โมร็อคโค), การ์ตาเฮนา (โคลอมเบีย), พอร์ตแลนด์ (สหรัฐฯ), ดาการ์ (เซเนกัล), พอร์ตหลุยส์ (มอริเชียส), ไมอามี่ (สหรัฐฯ), โรม (อิตาลี) และ รีโอเดจาเนโร (บราซิล)

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขออิงกระแสข่าวกรุงเทพฯ เป็นเมืองอาหารริมถนนที่ดีที่สุดในโลก จึงอยากจะนำเสนอกลยุทธ์หรือเทคนิคการขายอาหารริมทางให้ประสบความสำเร็จ สร้างยอดขาย สร้างเงิน ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาริมทางทุกคน รวมถึงผู้ที่กำลังสนใจอยากทำธุรกิจขายอาหารริมทางเพื่อสร้างรายได้ อย่ารอช้ามาดูกันเลยครับ

1.สร้างความแตกต่าง

ll3

เป็นร้านอาหารริมทาง แต่ก็ใช่ว่า จะทำอะไรแบบไหนมาขายก็ได้ สำหรับเถ้าแก่เงินล้านพวกเขาเลือกที่จะ “แตกต่าง” ฉีกตัวเองจากร้านพื้นๆ ข้างถนน มาโดดเด่นด้วย เครื่องปรุง วัตถุดิบ และส่วนประกอบของอาหารที่แตกต่าง กระทั่งรูปแบบการนำเสนอ ตลอดจนการจัดแต่งจานอาหาร ก็เป็น “จุดขาย” ไม่เหมือน ไม่ซ้ำใคร

นอกจากนี้ เรื่องของการใส่ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่หน้าร้าน เมนูอาหาร โต๊ะ เก้าอี้ บรรยากาศในร้าน การตกแต่งร้าน สีของร้าน อุปกรณ์ใส่อาหารต่างๆ ก็สามารถทำให้ร้านธรรมดาๆ เป็นที่สนใจขึ้นมาได้ และหลายรายก็สามารถตั้งราคาได้สูงขึ้นจากคำๆ นี้ ถือเป็นการสร้างความแตกต่างให้ลูกค้าได้เห็นชัดเจน

2.ราคาเหมาะสม ไม่ถูก ไม่แพงเกินไป

ll4

สำหรับร้านอาหารริมทาง พวกเขาไม่ได้ขายแต่ของถูก แต่มีราคาขายที่หลากหลายมาก ไม่ถูก ไม่แพงจนเกินไปราคาพอเหมาะกับเงินในกระเป๋าของลูกค้า คุณอาจตั้งขายราคาอาหารตั้งแต่ อิ่มคุ้มค่าราคาถูกใจ อิ่มระดับภัตตาคารราคากันเอง อิ่มคุ้มค่าราคาหลากหลาย และ อิ่มคงที่ราคาคงทน

ลองดูตัวอย่าง “หมูทอดเจ๊จง” ชื่อดังที่ขายเพียงจานละไม่ถึง 30 บาท แถมยังซื้อใจลูกค้าด้วยการให้เติมข้าวได้ไม่อั้น น้ำจิ้มเต็มที่ ผักสดก็ฟรี แถมยังมีโปรโมชั่นมากระตุ้นใจลูกค้าอยู่เรื่อยๆ เรียกว่า ทั้งคุ้ม ทั้งโดน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

หรือร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ขายชามละ 15 บาท บางร้านขายราคา 10 บาทก็ยังอยู่ได้ เพราะรสชาติอร่อยแถมยังราคาถูก ทำให้ลูกค้าเข้าไปอุดหนุนใช้บริการ ทำให้ขายได้จำนวนมาก

3.ทำเลและบรรยากาศหน้าร้าน

ll6

การมีทำเลที่ดี เดินทางสะดวก อยู่ในแหล่งชุมชน มองเห็นสะดุดตา ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจขายอาหารริมทาง เพราะการที่จะเป็นร้านริมทางที่สร้างเม็ดเงินในกระเป๋า หลักหมื่นหลักแสนต่อวันได้

ก็ต้องเลือกทำเลที่ดี เดินทางสะดวก อยู่ในแหล่งชุมชน เรียกว่ายิ่งใกล้ที่พัก หรือสำนักงาน ก็ยิ่งเป็นแต้มต่อ เพราะแค่ทำ “อาหารพื้นๆ” คนก็ตามมากินกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ที่สำคัญต้องจัดหน้าร้านให้สะดุดตา ครัวหน้าร้านต้องจัดเต็ม สะอาด ได้มาตรฐาน

4.คุณภาพการบริการดีเยี่ยม

ll7

มาตรฐานและการบริการ เรียกว่า แม้เวลาเปลี่ยนแต่รสชาติต้องไม่เปลี่ยน มีมาตรฐานและคงการบริการที่ดีไว้ให้ได้ ระบบการทำงานและการให้บริการของร้านอาหารต้องดีเยี่ยม สร้างความพึงพอใจ และประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

พนักงานแบ่งหน้าที่กันชัดเจน คนปรุง ปรุงไป คนผัดก็ผัดไป ใครรับผิดชอบอะไรก็ทำแค่นั้น ใครไปทานที่นี่เลยไม่ต้องกลัวว่าจะช้า ขณะที่เจ้าของร้านก็ฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รักษามาตรฐานที่ดีไว้

ประการสำคัญคุณต้องเข้าใจลูกค้า โดยดูว่าลูกค้าต้องการอะไรจากร้านของคุณ เช่น เพื่อลดความหิวของลูกค้า คุณต้องมีการตอบสนองที่รวดเร็ว สะอาด บริการดี แล้วจงตอบสนองให้ได้เช่นนั้น

5.การสื่อสารการตลาด

ll5

การสื่อสาร เป็นอีกกุญแจที่สำคัญเอามากๆ สำหรับร้านค้าริมทาง เพราะคนส่วนหนึ่งที่มากินไม่ใช่เพราะแค่หิว หรือบังเอิญ แต่มาจากการที่เพื่อนแนะนำ หรืออ่านจากรีวิวต่างๆ ในเว็บไซต์ ถ้าเป็นแม่ค้าสมัยกรุงศรีอยุธยา จะขายอย่างไรก็คงไม่มีใครว่า แต่กับแม่ค้ายุคนี้ ที่สื่อออนไลน์ล้อมหน้าล้อมหลัง จะทำไม่รู้ไม่ชี้เอาแต่ก้มหน้าก้มตาขายไม่ได้

คุณลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ทำอย่างไรให้ร้านของคุณเป็นที่รู้จักของลูกค้า” โดยจะด้วยการปากต่อปาก การเล่าเรื่องราว ประวัติร้าน ที่มาของสินค้า หรือกระทั่ง ทำอย่างไรให้ร้านติดกระแสในชั่วข้ามคืน ด้วย Social Marketing คุณอาจทำ Facebook ร้านอาหาร ถ่ายรูปอาหารลงสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้เพื่อนหรือลูกค้าคนอื่นได้เห็นและรู้จักร้านของคุณ

6.รสชาติอร่อยเลิศ

ll8

ถือเป็นหัวใจสำคัญว่าการขายอาหาริมทางของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เพราะรสชาติอาหารมาอันดับหนึ่งที่ลูกค้าจะเข้าไปรับประทานหรือซื้อกลับบ้าน แม้ว่าคุณจะขายราคาแพงกว่าร้านอื่นๆ ที่อยู่ละแวกเดียวกัน

ถ้าคุณทำอาหารรสชาติถูกปากลูกค้า เชื่อว่าลูกค้าก็ต้องซื้ออาหารจากร้านคุณ แต่อาหารต้องมีคุณภาพมาตรฐาน ถูกหลักอนามัย ต้องสดใหม่ สะอาด ซื้อวันต่อวัน แต่ถ้ารสชาติไม่อร่อย แม้ราคาจะถูก ลูกค้าก็คงไม่เข้าร้านคุณอีก

7.ต้องมีใจรัก อดทน

ll9

หากคุณคิดที่จะประกอบธุรกิจใดๆ โดยเฉพาะขายอาหารริมทาง จะเป็นการเปิดร้าน หรือรถเข็น หรือตั้งโต๊ะรอมทางแล้วล่ะก็ จงอย่าลืมว่าคุณมีความเป็นเจ้าของกิจการ หากคิดจะรวยกับร้านริมทาง ก็ต้องมีน้ำอดน้ำทน นอนดึก ตื่นเช้า ลงไปดูเรื่องต้นทุนเอง จ่ายตลาดเอง บริการจัดการเอง ไม่ใช่จะใช้ใครทำแทนทั้งหมดได้

เห็นได้ว่าการเริ่มต้นจากขายอาหารข้างทาง สามารถทำได้เลย เพราะต้นทุนทำธุรกิจต่ำ ไม่ต้องเอาเงินไปจมอยู่ในห้างหรู เพราะข้างทางสะดวกต่อลูกค้า มีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม คู่แข่งแม้จะเยอะ แต่ถ้าแตกต่าง อร่อย บริการเลิศ ราคาพอเหมาะ รับรองว่าลูกค้าแวะใช้บริการร้านอาหารของคุณอย่างแน่นอนครับ

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2QPxemB

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช