7 เทคนิคขายอาหารแบบรถเข็นให้เป็นเศรษฐี

รูปแบบการขายห้างไม่นับเกรดพรีเมี่ยมที่เป็นร้านค้าในห้างหรือว่าร้านค้าติดแอร์ขนาดใหญ่ รองลงมาหน่อยก็คือร้านค้าร้านอาหารทั่วไปที่อยู่ริมทางเช่นตามอาคารพาณิชย์ต่างๆ รองลงมาอีกก็คือบรรดารถเข็นขายของที่ใครๆอาจมองว่าทั้งเหนื่อย ทั้งไม่มีกำไร จะทำไปเพื่ออะไร

อย่างไรก็ตามในมุมมองของ www.ThaiSMEsCenter.com การขายอาหารบนรถเข็นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนักหากเรารู้จักวิธีการที่ดี รถเข็นธรรมดาที่ใครๆก็มองว่าไม่ดีนี่แหละคือตัวสร้างรายได้ที่ดีกว่าที่คาดคิดมาก

ข้อดีของการขายอาหารด้วยรถเข็น

1.ลงทุนน้อยที่สุด

7

ถ้าลองเปรียบเทียบต้นทุนกับการทำร้านในห้างสรรพสินค้าหรือการเช่าอาคารพาณิชย์เปิดร้าน เราจะรู้ว่าการลงทุนทำรถเข็นขึ้นมาสักคันไว้ขายของเป็นต้นทุนที่ถูกมาก แต่ทั้งนี้หลายคนก็ยังเลือกที่จะใช้เงินมากขึ้นเพื่อทำให้ตัวเองสบายไม่ต้องมาเข็นรถเดินตากแดด ตากลม

แต่การจะวัดผลว่าเป็นร้านใหญ่ขายดีกว่า หรือร้านรถเข็นขายดีกว่า มันขึ้นอยู่กับว่าต้นทุนในแต่ละเดือนของเราเป็นเท่าไหร่ รถเข็นต้นทุนไม่มากดังนั้นการขายแม้อาจจะไม่ได้มากเท่าร้านค้าใหญ่ๆ แต่โอกาสเป็นกำไรก็มีมากกว่าเช่นกัน

2.เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลาย

2

แน่นอนว่ารถเข็นสามารถไปได้ทุกที่หากเรามีแรงและกำลังในการเข็นไป ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายทั้งหน้าโรงเรียน โรงงาน พนักงานออฟฟิศ โดยที่ไม่ต้องรอลูกค้ามาหาเราเอง

ทั้งนี้การทำอาหารขายบนรถเข็นก็ใช่ว่าจะคิดกันง่ายๆแบบว่ามีอะไรก็เอามาทำๆขายๆ หากคิดจะขายดีแล้วทำกำไรจากรถเข็นให้เป็นกอบเป็นกำก็ควรมีเทคนิคเหล่านี้

1.สะอาดเป็นอันดับหนึ่ง

3

ความสะอาดในทีนี้ไม่ได้พูดถึงแค่อาหารแต่หมายรวมถึงการแต่งตัวของเจ้าของร้านด้วย เราอาจไม่จำเป็นต้องแต่งตัวสวยงามส่วนใหญ่แต่งตัวให้ทำงานได้ง่าย แต่ควรมีความสะอาด เช่นผม หนวดเครา กลิ่นตัว เสื้อผ้า ต้องดูแล้วชวนให้ลูกค้าเข้าซื้ออาหารจากร้านของเรา

2.เลือกขายอาหารที่คนนิยม

4

ไม่ว่าอย่างไรอาหารรถเข็นก็ได้ชื่อว่าเป็นสตรีทฟู้ดที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลกมีอาหารหลายอย่างที่เราเลือกมาขายได้ เช่นผัดไทย ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง ฯลฯ หากเราต้องการมีรายได้จากการขายแบบรถเข็นต้องเลือกอาหารยอดนิยมที่คนไทยชอบรับประทาน

หรืออีกทางเลือกที่น่าสนใจในยุคนี้คือการเลือกคีออสที่เป็นแฟรนไชส์ซึ่งช่วยประหยัดเวลาที่เราไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดเอง ที่สำคัญมีการสอนการเริ่มต้นธุรกิจให้อย่างดีอีกด้วย

3.พูดจาเป็นมิตรกับทุกคน

5

เสน่ห์ของพ่อค้าแม่ค้าทุกคนไม่ว่าจะลงทุนมากน้อยแค่ไหนการพูดจาที่เป็นมิตรกับลูกค้าก็ดูจะสำคัญทั้งหมด เพียงแต่ในระดับการขายด้วยรถเข็นเราอาจชัดเจนมากเป็นพิเศษเพราะฐานลูกค้าของร้านค้ารถเข็นนั้นค่อนข้างเปิดกว้างมีจำนวนมาก สิ่งที่เราควรทำคือยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาดีไพเราะ อันจะเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดให้คนสนใจร้านค้าเรามากขึ้น

4.รู้จังหวะเวลาในการเลือกสถานที่ขาย

1

ข้อดีของรถเข็นคือไปที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นเราต้องใช้จุดเด่นนี้ให้เป็นประโยชน์ การขายจึงจะได้ผล ใน1วันเราควรกำหนดสถานที่และเวลาขายให้ชัดเจนเช่นช่วงเช้าตั้งแต่กี่โมงจะอยู่ที่ไหน ตอนกลางวันจะขายที่ไหน และในตอนเย็นจะขายที่ไหน ทั้งนี้เราควรไปแต่ละที่ให้ตรงเวลาและไปเป็นประจำจะช่วยสร้างฐานลูกค้าให้เราได้

5.มีป้ายและเบอร์ติดต่อที่ชัดเจน

6

ข้อเสียประการหนึ่งที่เห็นชัดเจนของร้านค้ารถเข็นคือส่วนใหญ่ลูกค้าไม่รู้จักว่าเจ้าของร้านเป็นใคร และจะติดต่อได้อย่างไร ดังนั้นด้วยแผนการตลาดที่ดีเราควรลงทุนทำป้ายติดรถเข็น มีเบอร์โทรให้เห็นชัดเจน สำหรับลูกค้าใครที่สนใจ ติดใจ อาจจะโทรหาเราเพื่อใช้งานบริการของเราได้

6.อาหารรถเข็นก็ทำตลาดโซเชี่ยลได้

8

ยุคนี้การทำตลาดโซเชี่ยลมีความสำคัญมาก และไม่เว้นแม้แต่สินค้ารถเข็นเราสามารถบวกการตลาดโซเชี่ยลเข้าไปใช้ร่วมด้วยได้ ปัจจุบันทั้งเฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ไลน์ เราสามารถสมัครและเริ่มใช้ง่ายได้ง่าย ที่เหลือเราเพียงรู้จักวิธีการใช้งาน รู้จักการโปรโมทร้าน ถ่ายภาพสวยๆ อัพเดท ใส่ความเคลื่อนไหวว่าวันนี้เราจะไปขายที่ไหนอย่างไร ด้วยวิธีการเหล่านี้เชื่อว่าจะทำให้ร้านค้ารถเข็นเรามีรายได้ที่ดีมากขึ้นอย่างแน่นอน

7.มีบริการเสริมนอกสถานที่

9

ต่อยอดจากการที่เรามีเบอร์โทรชัดเจนหากลูกค้าคนไหนเกิดติดใจในฝีมือการทำอาหารของเรา อาจจะติดต่อขอใช้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ซึ่งก็จะถือว่าเป็นการเติบโตของร้านค้าในอีกระดับหนึ่ง ที่สำคัญจะทำให้เรามีรายได้ที่ดีและเป็นที่รู้จักของคนมากขึ้นได้เป็นอย่างดีด้วย

ด้วยเทคนิควิธีการเหล่านี้ไม่ว่าเราจะเป็นร้านรถเข็นเล็กๆ ก็สามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับตัวเองได้อย่างดี ทุกการลงทุนไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่หากใส่ใจและรู้จักการบริหารจัดการก็มีโอกาสเติบโตได้ไกลกว่าที่คิด


SMEs Tips

  1. สะอาดเป็นอันดับหนึ่ง
  2. เลือกขายอาหารที่คนนิยม
  3. พูดจาเป็นมิตรกับทุกคน
  4. รู้จังหวะเวลาในการเลือกสถานที่ขาย
  5. มีป้ายและเบอร์ติดต่อที่ชัดเจน
  6. อาหารรถเข็นก็ทำตลาดโซเชี่ยลได้
  7. มีบริการเสริมนอกสถานที่

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด