7 วิธีเปลี่ยนเงิน 10,000 ให้เป็น 100,000 แบบทำได้จริง

ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินทุนมากพอให้ไปทำอะไรก็ได้ บางคนคิดได้แต่ทำไม่ได้ก็เพราะไม่มีเงินทุน แล้วแบบนี้คนที่มีเงินน้อยจะต้องรอคอยวาสนาหรือว่าให้ไปเสี่ยงดวงโชคลาภเพื่อหวังจะรวยใช่หรือไม่? คำตอบคือ “ไม่ใช่” เพราะการที่เรามีเงินน้อยก็มีวิธีบริหารจัดการที่สามารถเปลี่ยนเงินอันน้อยนิดของเราให้เพิ่มมากขึ้นได้ ในที่นี้

www.ThaiSMEsCenter.com จะยกตัวอย่างของการเปลี่ยนเงิน 10,000 ให้กลายเป็นเงิน 100,000 และเป็นวิธีที่ไม่เพ้อฝันเราทำได้จริง และไม่ใช่วิธีให้เอาเงินไปซื้อหวยเพื่อหวังรวยทางลัด ลองมาดูว่ามีวิธีแบบไหนอย่างไรบ้าง

1.ขายสินค้าออนไลน์

วิธีเปลี่ยนเงิน

ภาพจาก freepik.com

วิธีแรกก็หนีไม่พ้นเรื่องของตลาดออนไลน์เพราะถือว่าเป็นการลงทุนที่แทบไม่มีต้นทุนใดๆ ถ้ามีเงิน 10,000 ถือว่าเพียงพอสำหรับการเริ่มต้น ปัจจุบันมีรูปแบบการหาสินค้ามาจำหน่ายมากมาย ทั้งดรอปชิป หรือพรีออร์เดอร์ หรือบางทีก็ติดต่อจากร้านค้าเพื่อนำสินค้ามาโพสต์ขาย หรือบางคนก็สต็อคสินค้าราคาถูกจากโรงงานผู้ผลิตและนำมาขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเอง สำคัญคือกลยุท์ และเทคนิคการขาย คนที่ประสบความสำเร็จจากการขายออนไลน์ก็มีมาก และคนที่ทำไม่สำเร็จก็มีมากเช่นกัน เนื่องด้วยปัจจุบันมีการแข่งขันของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เยอะมาก

ดังนั้นก่อนจะตั้งราคาทุกครั้งควรสำรวจตลาดเพื่อเช็กราคาสินค้า ว่าส่วนใหญ่ขายกันราคาเท่าไร แล้วนำมาคำนวณต้นทุนของเราว่าจะบวกกำไรได้มากน้อยแค่ไหน ถึงจะเข้าไปแข่งขันในตลาดได้ ยกตัวอย่างหากลองไปสำรวจราคาสินค้าบางชนิด แล้วพบว่าสินค้าประเภทนี้ส่วนใหญ่ตั้งราคาบวกกำไรเอาไว้ในระดับ 90-120% ก็จะทำให้ทราบได้ว่าสินค้าของคุณควรจะตั้งราคาอยู่ที่ระดับไหน เพื่อให้มีกำไรและแข่งขันกับรายอื่น ๆ ได้

2.สร้างแบรนด์สินค้าตัวเอง

36

ภาพจาก freepik.com

ธุรกิจ OEM กำลังเป็นที่นิยมเพราะสามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ โดยปัจจุบัน บริษัทที่เกี่ยวกับ OEM ไม่ได้รับแค่ผลิตสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจ SME รายใหม่ ๆ ที่ยังไม่เจนตลาด ให้สามารถก้าวผ่านปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์ได้แบบครบวงจร เพราะ OEM มีพร้อมทั้งเครื่องจักร และแรงงาน เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินก้อนโต มาลงทุนในส่วนของเครื่องจักร และแรงงานการผลิต

รวมถึง บริษัท OEM มีสูตรการผลิตสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่รู้ว่าอยากขายอะไร แต่ไม่ได้มีสูตรเด็ดสูตรดังมาสั่งให้ผลิต โดยจ่ายค่าคิดค้นสูตรเฉพาะสำหรับเราแต่เพียงผู้เดียว ราคาในการผลิตสินค้าแบบ OEM ก็เริ่มต้นได้ตั้งแต่ 5,000 บาท ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกับบริษัทผู้ผลิต จากนั้นเราค่อยมาทำเรื่องการตลาดและจำหน่ายสินค้า โดยที่ผ่านมามีหลายคนที่ลงทุนแบบ OEM และเปลี่ยนเงินทุนอันน้อยนิดของตัวเองมาสร้างกำไรให้มากขึ้นในเวลาไม่นาน

3.นำเงิน 10,000 ไปกระจายในสินทรัพย์อื่น

35

ภาพจาก freepik.com

การนำเงินไปกระจายลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เช่น ซื้อกองทุนรวม ที่ให้ผลตอบแทนราว 5-15% ซึ่งผลตอบแทนที่เราได้รับ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้น ๆ ตามความเสี่ยงที่เราสามารถยอมรับได้

คือ ยิ่งเสี่ยงมาก ผลตอบแทนที่มีโอกาสได้ก็ยิ่งมาก การเลือกลงทุนในกองทุนรวม นอกจากจะมีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องมาคอยจัดการเอง เพราะมีมืออาชีพมาบริหารจัดการความเสี่ยงให้เรียบร้อย ในกองทุนบางประเภท เช่น กองทุน RMF หรือ LTF ยังให้สิทธิประโยชน์สามารถนำเงินไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย

4.ซื้อแฟรนไชส์ราคาไม่เกิน 10,000

34

ภาพจาก www.facebook.com/torbeefgrill

ปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์ที่ให้ผู้สนใจสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยงบไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งข้อดีของแฟรนไชส์เหล่านี้คือมีอุปกรณ์ มีวัตถุดิบพร้อมขาย สอนเทคนิคการขาย และส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์อาหารที่ราคาไม่แพง คนส่วนใหญ่สนใจ จึงขายง่ายขายดี มีหลายแฟรนไชส์ที่น่าสนใจเช่น ต.เนื้อย่าง มีชุดทดลองขายงบลงทุน 3,000 บาท ได้เนื้อโคขุนติดมัน 500 ไม้ ขายไม้ละ 10 บาท รายได้ 5,000 กำไร 2,000 บาท และคำนวณเล่นๆ ถ้าในแต่วันเราขายเนื้อย่างได้ 100 ไม้ รายได้ 1,000 บาท ใน 1 เดือนมีรายได้ 30,000 บาท หรือแฟรนไชส์ ธงไชยผัดไทย ที่มุ่งสร้างอาชีพให้คนไทยด้วยอาหารสตรีทฟู้ด

33

ภาพจาก facebook.com/lookchingiantfc

โดยพร้อมสอนให้คนที่สนใจทำเมนูผัดไทยและอื่นๆ ใครที่อยากมีอาชีพอยากมีรายได้แต่เงินทุนน้อยก็สามารถมาปรึกษาแนวทางการลงทุนได้ หรือง่ายๆ ก็เลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ลูกชิ้นทอด ซึ่งมีหลายแฟรนไชส์เช่น ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง , อู้ฟู่ลูกชิ้นปลาเยาวราช , ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด 1 บาท แฟรนไชส์เหล่านี้มีแพคเกจลงทุนราคาไม่แพง มีอุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมขาย หรือแฟรนไชส์สเต็กก็น่าสนใจโดยฮิปสเตอร์สเต็ก เปิดโอกาสให้คนสนใจลงทุนได้ในงบประมาณที่จำกัด สามารถลงทุนสร้างอาชีพเปิดร้านสเต็กได้อย่างมืออาชีพ สร้างรายได้ที่ดีด้วยเงินทุนเริ่มต้นไม่เกิน 10,000 บาท

5.ลงทุนกับความสามารถของตัวเอง

32

ภาพจาก freepik.com

วิธีที่ง่ายและตรงตัวที่สุดคือ ถ้าอยากมีรายได้เพิ่ม ก็ต้อง “ทำงานเพิ่ม” เหตุผลง่ายๆ ถ้าสมมุติเรามีเงินเดือน 15,000 บาท เงินก้อนนี้ต้องใช้กิน ใช้จ่าย จิปาถะ เรียกว่าเดือนชนเดือนหรือบางทีก็ไม่พอใช้ใน 1 เดือนด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินเก็บ แค่จะกินเข้าไปยังไม่พอ แนะนำว่าไปหางานทำเพิ่ม ซึ่งเราต้องแลกกับความเหน็ดเหนื่อยที่มากขึ้น

ถามว่าทำงานอะไรได้บ้าง หลังจากเลิกงาน ถ้าไม่เลือกเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ลองไปขายของออนไลน์ หรือไปสมัครตัวแทนประกัน หรือถ้ามีความรู้มากหน่อยรับเป็นติวเตอร์ หรือใครมีความสามารถด้านร้องเพลง เล่นดนตรีก็อาจรับงานพิเศษกลางคืน รายได้จากการทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนี้จะช่วยให้เรามีเงินในแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้น

สมมุมติว่าเพิ่มขึ้นมาอีกเดือนละ 10,000 บาทนั้นหมายความว่าเราอาจใช้เงินก้อนนี้สำหรับการเก็บออม และใช้เงินเดือนสำหรับการจับจ่ายใช้สอย ก็จะทำให้เรามีเงิน 100,000 ในเวลาไม่เกิน 6 เดือนได้ แต่ขอบอกว่าวิธีนี้เหนื่อยและทำให้เวลาพักผ่อนเราน้อยลง ก็ควรบริหารจัดการเวลาให้ดีๆ เพราะเสี่ยงที่เงินเก็บของเราอาจต้องใช้จ่ายเป็นค่าหมอรักษาอาการเจ็บป่วยที่พักผ่อนไม่เพียงพอได้

6.ลงทุนเกษตรแบบง่ายๆ

31

ภาพจาก freepik.com

ถ้าใครพอมีพื้นที่ว่างเปล่า จะลองหันมาทำเกษตรสร้างรายได้ก็น่าสนใจ เงินทุน 10,000 บาทพอให้เริ่มทำเกษตรแบบเล็กๆ ได้เช่นการปลูกผักสวนครัว การปลูกต้นไม้ดอกไม้จำหน่าย หรือการใช้ไอเดียและฝีมือทำสวนขวดแก้ว โดยเงินทุน 10,000 บาทใช้เป็นต้นทุนอุปกรณ์ต่างๆ โชคดีที่ยุคนี้เราสามารถใช้การตลาดออนไลน์ร่วมได้ มีหลายคนที่หันมาเอาดีด้านเกษตร เช่น การปลูกผักแล้วโพสต์ขายในอินเทอร์เนต ให้กับคนที่รักสุขภาพ หรือการนำมาแปรรูปทำเป็นสลัดโรล เพิ่มมูลค่าสินค้าให้มากขึ้น

รวมถึงบางคนปลูกไม้มงคลจำหน่าย สร้างรายได้ดียิ่งกว่าทำงานประจำ สำคัญของการลงทุนเกษตรคือต้องขยัน และตั้งใจทำจริง หาข้อมูลและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องมีใจรักและอยากทำในเบื้องต้นจะช่วยทำให้การลงทุนสำเร็จได้ง่ายขึ้น

7.ขายอาหารเดลิเวอรี่

30

ภาพจาก freepik.com

ยุคนี้อาหารเดลิเวอรี่เป็นที่นิยมาก บรรดาร้านอาหารแทบทุกแห่งก็หันมาใช้แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ เพิ่มยอดขายให้กับร้านตัวเอง รวมถึงตัวเราเองก็สามารถขายอาหารเดลิเวอรี่เพิ่มรายได้ให้มากขึ้น โดยวิธีการคือใช้โซเชี่ยลของตัวเองให้เกิดประโยชน์เช่นการทำคลิปเกี่ยวกับอาหารที่เราจะขาย เช่น ผัดกระเพรา เบเกอรี่ ขนมต่างๆ ในช่วงแรกเราอาจไม่มีลูกค้าเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักและไม่รู้รสชาติของอาหารที่เราทำ

แต่ถ้าตั้งใจทำต่อไปสักระยะร่วมกับใช้กลยุทธ์ในการขายอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนำสินค้าไปฝากขายตามร้าน หรือการส่งให้คนใกล้ชิดได้ลองชิม จากที่ไม่ค่อยมีลูกค้าเราก็จะเริ่มมีออร์เดอร์มากขึ้น ซึ่งเราต้องควบคุมคุณภาพมาตรฐานสินค้าให้คงเดิมและพัฒนาเมนูใหม่ๆ เสมอ ก็จะสามารถเปลี่ยนเงินทุนเริ่มต้นจากหลัก 10,000 ให้กลายเป็นเงิน 100,000 ได้เพียงแต่ต้องใช้เวลาและความอดทนในช่วงแรกมากเป็นพิเศษ

การมีเงินทุนแค่หลักหมื่น ก็มีวิธีการลงทุนแบบน้อยๆ แต่ได้ผล ซึ่งนอกจากวิธีการเหล่านี้ก็เชื่อว่ามีอีกหลายวิธีที่เราทำได้ ขอเพียงแค่คิดว่าเป็นไปได้ คิดว่าเราทำได้ อย่าคิดแค่ว่าเราไม่มีเงิน เราไม่มีทุน เราไม่เคยทำ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จหลายคนก็เริ่มมาจากการที่ไม่มีเงินทุน บางคนเริ่มต้นจากศูนย์ด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังประสบความสำเร็จได้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3ppWzlO , https://bit.ly/3jRY2Ak , https://bit.ly/37j4U4K , https://bit.ly/3pkag5L

 

อ้างอิงข้อมูล https://bit.ly/3bhv8FS

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด