7 วิธีเก็บเงินล้าน ที่มนุษย์เงินเดือนทำได้!

“เงิน” คือสิ่งที่คนเราต้องการ แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้ได้มา ค้นหาในกูเกิ้ลขึ้นมาสารพัดวิธีมีเงินล้าน ภาพรวมแล้วก็มีทั้งบอกให้เก็บออมเอง สร้างวินัยทางการเงิน

ลงทุนแบบเงินต่อเงิน แต่ทั้งนี้การจะได้เงินล้านจริงหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะจริงจังแค่ไหน ทุกอาชีพทุกการลงทุนมีโอกาสที่จะไปถึง “เงินล้าน” ด้วยกันทั้งนั้น

www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมเอาวิธีที่พอจะเป็นไปได้มากที่สุดใกล้เคียงกับคนทั่วไปที่น่าจะใช้เป็นวิธีสร้างเงินล้าน ซึ่งวิธีการเหล่านี้ไม่ได้แปลกใหม่เพียงแต่เรามาเน้นย้ำให้เห็นภาพว่านี่คือวิธีที่ทำแล้วได้ผลจริง ส่วนใครเอาไปลองทำแล้วไม่ได้ผลก็ต้องมาดูอีกทีว่าได้ลงมือทำกันจริงจังหรือเปล่า

1.มีเงินล้านด้วยการ “เก็บออม”

วิธีเก็บเงินล้าน

ภาพจาก goo.gl/images/oxLiGw

คนไทยมีรายได้เฉลี่ยที่ 9,350 บาทต่อคน ในขณะที่มีรายจ่ายเฉลี่ยที่ 7,350 บาทต่อคน ขณะที่คนในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลมีรายได้ที่ 15,183 บาทต่อคน โดยมีรายจ่ายเฉลี่ยที่ 11,435 บาทต่อคน

ถ้าอีก 1 ปี จำเป็นต้องใช้เงินจำนวน 1 ล้านบาทเราต้องมีเงินเก็บหลังหักค่าใช้จ่าย วันละ 4,200 บาท ต่อวัน เฉลี่ยเดือนละประมาณ 84,000 บาท

เดือนนึงทำงาน 20 วัน ใน 1 ปีก็จะมี 4,200x20x12 = 1,008,000 บาท นั่นคือตรรกะความเป็นไปได้ แต่แน่นอนว่าจะเก็บเงินวัน 4,200 คือเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ยิ่งไม่ได้มีกิจการใหญ่โตด้วยแล้ว

หาเช้ากินค่ำบางทีเดือนนึงยังเหลือเก็บไม่ถึง 4,200 ด้วยซ้ำ ก็เป็นที่มาของคำว่า “วินัยการเงิน” และ “การเก็บออม” คือวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราทำได้ มีแหล่งความรู้ในอินเทอร์เนตที่สอนให้เรารู้จักทำบัญชีรายรับ รายจ่าย แยกเงินใช้ เงินออม

แต่ปัญหาสำคัญคือตัวเราจะมีวินัยการเงินได้มากขนาดไหน ขอยืนยันว่าการเก็บออมสามารถทำให้เรามีเงินล้านได้ อาจจะไม่ใช่ภายใน 1 ปี ส่วนจะกี่ปีก็แล้วแต่แผนที่วางไว้แต่วิธีนี้ถ้าตั้งใจจริงคุณมีเงินล้านแน่นอน

2.ไปทำงานต่างประเทศ

x5

ภาพจาก goo.gl/images/FuMpYo

งานในต่างประเทศที่คนนิยมไปทำกันส่วนใหญ่คือแรงงานในร้านอาหารเช่น ทำงานตามร้านอาหารไทย ทำงานตาม Fast food ซึ่งค่าแรงจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างที่นิวยอร์คจะอยู่ที่ประมาณ $8-$9 ต่อชั่วโมง

สมมติว่าทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน รายได้จะได้ประมาณ $72 โดยส่วนใหญ่เขาให้ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ใน 1 เดือน เราจะมีรายได้ $72 x 5 day x 4 week เท่ากับ $1,500 ต่อเดือน

ในอเมริกาจะมีทิปให้พนักงาน สมมติได้ทิปเดือนละ $2,000 รวมรายได้ 3,500 ต่อเดือน ถ้าคิดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทที่ 35 บาทต่อ 1 ดอลล์หาสหรัฐ รายได้จะประมาณ 122,500 บาทต่อเดือน

สมมติว่าค่าใช้จ่ายเราประมาณนี้ เราจะมีเงินเก็บเดือนละประมาณ $500-$700 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 17,500-24,500 บาทต่อเดือน ซึ่งบางคนอาจจะเก็บได้มากกว่านี้หรือเก็บได้น้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับอาชีพและการใช้ชีวิต

3.ลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์

q5

ถ้าเราไม่มีเงินทุนอะไรเลยแต่อยากมีเงินล้าน วิธีที่ง่ายที่สุดคือไปซื้อแฟรนไชส์และหาทำเลการขายที่ดี เดี๋ยวนี้มีแฟรนไชส์ราคาย่อมเยาว์จำนวนมากที่ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 5,000 บาท อย่างเช่น แฟรนไชส์ปิ้งย่างที่เขาจะมีวัตถุดิบแถมมาให้เราพร้อมขาย ขายหมดตรงนั้นมีกำไรทันที 2,000 บาท

หรือจะเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยจำพวกร้านกาแฟ เบเกอรี่ แฟรนไชส์เหล่านี้เบ็ดเสร็จ ค่าแฟรนไชส์ + ค่าแต่งร้าน ถ้าเลือกขนาดไม่ใหญ่มากการลงทุนไม่เกิน 50,000 บาท

แต่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องหรือบางแฟรนไชส์ที่ลงทุนหลักแสนแต่มีกำไรต่อเดือนขั้นต่ำประมาณ 40,000-50,000 บาท ใช้เวลาไม่นานก็คืนทุนที่เหลือคือเงินสะสมที่เราจะเก็บให้ถึง 1 ล้านบาทได้ในเวลาไม่นาน

4.ลงทุนกองทุนรวม

x4

ภาพจาก goo.gl/images/2jCq2K

กองทุนนั้นมีหลากหลายประเภท ความเสี่ยงและนโยบายการลงทุน ก็ไม่เหมือนกัน โดยปกติแล้วกองทุนรวมหุ้นจะมีความเสี่ยงสูงและให้ผลตอบแทน สูงเฉลี่ยปีละ 10-15% ต่อปี ในขณะที่กองทุนรวมตราสารหนี้จะให้ผลตอบแทน ต่ำกว่า เฉลี่ยปีละประมาณ 2-5% แต่ความเสี่ยงไม่มาก ก็มีโอกาสขาดทุน น้อยกว่า

สมมติว่าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท ทำงาน 20 วันต่อเดือน แสดงว่าเรามีรายได้เฉลี่ย 1,000 บาทต่อวัน ถ้าเก็บสะสมเดือนละ 1,000 บาท (5% ของรายได้) เวลา 5 ปี ใส่เงินไว้ในกระปุกออมสินมีเงินรวม 60,000 บาท แต่ถ้าเราเปลี่ยนนำเงินมาสะสมไว้ในที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น

ยกตัวอย่างเลือกการลงทุนการลงทุนให้ผลตอบแทน 2% เงินของเราเติบโตขึ้นเป็น 63,047 บาท เงินเพิ่มขึ้น 3,047 บาท หรือเลือกกองทุนที่ผลตอบแทน 10% ก็จะทำให้เราเข้าถึงเป้าหมายเงินล้านได้ในเวลาไม่ถึง 10 ปี

5.ลงทุนกับการเป็นนายหน้า

x3

ภาพจาก goo.gl/images/dcoi4L

นายหน้าอสังหา เป็นอาชีพจับเสือมือเปล่าทำเงินได้เร็ว รวยได้จริง สามารถรับเงินก้อนใหญ่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ด้วยผลตอบแทนที่สูงส่วนใหญ่รับกันอยู่ที่ 3% บางเคสอาจถึง10% เช่น หากขายบ้านได้ในราคา 3 ล้านบาทตัวแทนนายหน้าอสังหาจะได้รับผลตอบแทนในจำนวน 90,000บาท และถ้าขายได้ถึง 10 ล้าน จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 300,000 บาท

ลองคิดดูคราวๆ หากปิดจ๊อบได้ทุกๆ 1-2 เดือน จะมีรายได้มากกว่าพนักงานประจำถึง 10 เท่า แถมยังใช้เงินทุนอันแสนน้อยนิด ค่าใช้จ่ายของการเป็นนายหน้าส่วนใหญ่หมดไปกับช่องทางโฆษณา ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ เพื่อติดต่อหาผู้จะซื้อ

และมีความเสี่ยงที่ต่ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อทรัพย์เป็นเจ้าของทรัพย์เพียงแค่ทำการตลาดเอาทรัพย์ผู้อื่นไปประกาศหาผู้จะซื้อหรือจะขายที่มีความต้องการที่ตรงกัน เพียงแค่นี้ก็สร้างรายได้รับเงินล้านกันได้แล้ว

6.รับจำนำของ

x2

ภาพจาก goo.gl/images/juWWQZ

วิธีนี้เราจำเป็นต้องมีเงินก้อนไว้เป็นทุนอยู่บ้าง ให้คนที่เดือดร้อนนำสิ่งของมาจำนำกับเราไม่ว่าจะเป็น ทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม รถยนต์ บ้าน ที่ดิน ซึ่งมีสัญญาจำนำเป็นลายลักษณ์อักษร ตกลงจ่ายดอกเบี้ยตามแต่ตกลง ซึ่งสิ่งของเหล่านี้หากผู้จำนำมาไถ่ถอนคืนก็ต้องจ่ายเงินต้นที่เอาไปคืนกลับมาให้เรา

หรือในกรณีที่ยังไม่ไถ่ถอนก็ต้องมาจ่ายดอกเบี้ยให้เราทุกเดือน ในกรณีที่หลุดจำนำ ดอกทบต้น ต้นทบดอกจนจ่ายไม่ไหว เจ้าของต้องปล่อยสินทรัพย์นั้นให้เรายึดไป หรือในกรณีเป็นที่ดินก็อาจจะซื้อขาดในราคาที่ถูกแสนถูก ซึ่งผู้รับจำนำสามารถนำสินทรัพย์เหล่านี้ไปขายต่อในราคาที่ดีกว่าเดิมได้ แต่การจะเป็นผู้รับจำนำก็ต้องมีความรู้เรื่องกฏหมายและมีประสบการณ์ที่มากพอสมควร

7.ลงทุนโฮมสเตย์

x1

ภาพจาก goo.gl/images/2WFfVh

สำหรับใครที่มีที่ดินเป็นของตัวเองและยิ่งอยู่ในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวด้วยแล้ว แนะนำว่า “โฮมสเตย์” เป็นตัวเลือกที่ดี การลงทุนอาจไม่ต้องถึงขนาดปลูกบ้านพักขึ้นมาใหม่ ถ้าบ้านเรามีขนาดใหญ่พอ

ก็สามารถแบ่งให้คนเข้ามาอยู่ได้ โฮมสเตย์เป็นการลงทุนแบบค่อยๆเติบโต ควรเริ่มจากเล็กๆ เงินทุนน้อยๆ ถ้ามีลูกค้าดีก็ค่อยๆต่อเติมขยายให้ใหญ่ขึ้น

เดี๋ยวนี้มีตลาดออนไลน์เข้ามาช่วยในการทำธุรกิจโอกาสที่คนจะรู้จักโฮมสเตย์ของเราก็ง่ายขึ้น เสน่ห์ของโฮมสเตย์คือวิถีชีวิตแบบบ้านๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องการจะสัมผัส แตกต่างจากโรงแรมห้าดาว หรือรีสอร์ทหรูที่ดูแลลูกค้าเหมือนราวกับเป็นเทวดา

แต่โฮมสเตย์คือการอยู่กับวิถีชาวบ้าน มีกิจกรรมแบบชาวบ้าน อาหารการกินแบบชาวบ้าน จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ยิ่งโฮมสเตย์ไหนบริการดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีโอกาสแจ้งเกิดสร้างรายได้มหาศาลตามมาด้วย

คำว่า “มีเงินล้าน” คือสิ่งที่ใครๆก็อยากได้ แต่น้อยคนนักที่จะทำได้สำเร็จไม่ใช่เพราะทำยาก แต่เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทำจริงมากกว่า เงินล้านแรกมักหายากกว่าล้านที่สอง นี่คือคำกล่าวที่เราได้ยินมานาน เงินล้านแรกเรายังไม่รู้วิธีการ ต้องลองผิดลองถูกเรียนรู้อยู่นานกว่าจะได้มา แต่เมื่อได้เงินล้านแรกมาเราจะรู้วิธีหาล้านที่สองให้ตามมาได้ไม่ยาก อยู่ที่เราต้องพยายามหาล้านแรกให้ได้ก่อนเท่านั้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/sLSQeX

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด