7 ตลาดชื่อแปลก ! เคยไปกันหรือยัง

ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นแหล่งอาหารของโลกมีสินค้าน่าสนใจจำนวนมากและนักท่องเที่ยวต่างก็ให้ความนิยมในการซื้อสินค้าจากบ้านเราเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ธุรกิจการสร้างตลาด หรือการทำตลาดนัดเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของพ่อค้าแม่ค้าจึงค่อนข้างคึกคักมา และที่ผ่านมาก็มีหลายตลาดที่เปิดให้บริการทั้งในรูปแบบของตลาดยุคโมเดิร์น หรือแนวตลาดย้อนยุค ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการเปิดตลาดเป็นสำคัญ

แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้ตลาดนั้นเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปคือการตั้งชื่อที่เหมือนเป็นแบรนด์สินค้ายิ่งแปลกยิ่งน่าสนใจยิ่งทำให้คนจดจำได้อย่างดี ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นเคยกับหลายตลาดที่มีทั้งชื่อหลัก ชื่อเล่น และสินค้าในตลาดนั้นก็แตกต่างกันไป

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าเรื่องนี้เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากจึงได้รวบรวมอีก 7 ตลาดชื่อแปลกแต่ขอบอกว่างานนี้แปลกแต่ดีเพราะมีคนสนใจและตลาดเหล่านี้ก็เป็นที่รู้จักของลูกค้าและบรรดานักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีอีกด้วย

1.ตลาดไร้คาน

ภาพจาก www.facebook.com/raikahn

ตลาดไร้คาน หรือตลาดวัดทอง เป็นตลาดโบราณอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีบริเวณชุมชนคลองบ้านบุ คลองบางกอกน้อย มีคำขวัญตลาดน่าสนใจว่า “ตลาดไร้คาน ตำนานขันลงหิน ถิ่นขนมโบราณ” ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. สินค้าภายในตลาดเต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายอาหารคาว-หวาน รวมไปถึงขนมตำรับโบราณหากินยาก เช่น ขนมเรไร, ขนมเบื้องญวน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมงานหัตถศิลป์ที่สำคัญ และมีงานจิตรกรรม สถาปัตยกรรมน่าสนใจให้เดินเที่ยวชมอีกจำนวนมากนอกจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตชาวชุมชนบ้านบุภายในตลาดไร้คานแล้ว บริเวณใกล้เคียงยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายอีกด้วย

2.ตลาดควายกลางเมือง

ภาพจาก goo.gl/VPLzdx

ตลาดแห่งนี้ถือเป็นแหล่งรวมของมือสองที่สำคัญในพัทยา ตลาดควายกลางเมืองตั้งอยู่ในซอยเทพประสิทธิ์ เลยตลาดเคหะมาเล็กน้อยเท่านั้น มีที่จอดรถอยู่ด้นในตลาดค่อนข้างสะดวกตลาดนี้เป็นตลาดของมือสองอันดับต้นๆในเมืองพัทยาเลยก็ว่าได้

เป็นตลาดที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 16.00-22.00 น. มีของมือสองให้เลือกเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ หรือของจิปาถะต่างๆ รับรองเลยว่าสำหรับคนที่ชอบของมือสองตลาดแห่งนี้เป็นคำตอบที่น่าสนใจทีเดียว

แต่ถ้าใครบอกว่าชื่อนี้ไม่เพราะเลยตลาดแห่งนี้เขาก็มีชื่อเพราะๆอยู่เหมือนกันเขาเรียกกันว่าตลาดนัดมือสองเทพประสิทธิ์และอีกคำถามคือทำไมถึงเรียกว่าตลาดควายกลางเมือง อธิบายง่ายๆและน่าจะเป็นที่มาคือบริเวณด้านในสุดของตลาดแห่งนี้มีผับแนว

เพื่อชีวิตชื่อ “ความกลางเมือง” ก็คงจะเรียกเพี้ยนไปเพี้ยนมากลายเป็นควายกลางเมือง แต่ไม่ว่าจะสาเหตุไหนอย่างไรก็ตามตลาดนี้ก็ถูกจารึกชื่อไว้ด้วยความแปลกของชื่อที่ว่านี้เอง

3.ตลาดนกฮูก

ถ้าไม่คุ้นกับชื่อนี้จะเรียกว่า “ตลาดเลี่ยงเมืองนนท์” ก็ได้ เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเซนทรัลรัตนาธิเบศ รูปแบบของตลาดยังเป็นธีมเดิมๆ แต่เพิ่มเติมความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พื้นที่ถูกจัดในแบบง่ายๆ

เพื่อคงกลิ่นอายความเป็นตลาดกลางคืนที่นักเดินตลาดจะได้บรรยากาศในการเดินที่มักจะมากับสโลแกนว่า ไฟฉายคู่กายกับสายตาถึงๆ เพราะพื้นที่เกินกว่าครึ่งในตลาดนกฮูกนี้เปิดเป็นโซนคลองถมมีสินค้ามือสองจำนวนมากรวมถึงของวินเทจ ของเก่าต่างๆ รวมถึงพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า พระเครื่อง ถ้วยชาม เฟอร์นิเจอต่างๆ

สำหรับคนที่ไม่นิยมในการเดินชมของมือสองก็ยังมีโซนอาหารที่มีจำนวนล็อคปล่อยให้เช่ากว่า 100 ล็อคและมีอาหารนานาชนิดทั้งร้านขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ กับหลากหลายสไตล์อาหารทั้งตามสั่ง สเต็ก ปิ้งย่าง อาหารไทย อาหารฝรั่ง

รวมถึงมีส่วนของ Food Truck อีกหลากหลายร้านค้าให้เลือกซื้อเลือกชิมกันตามสไตล์ด้วย ตลาดนกฮูกแห่งนี้เปิดทำการทุกวันเวลาตั้งแต่ 15.00-24.00 น.ใครสนใจอยากขายสินค้าหรือว่าเดินชมตลาดแห่งนี้ก็เชิญกันได้ตามอัธยาศัย

4.ตลาดสี่มุมเมรุ

ภาพจาก goo.gl/GX32CW

ตลาดสี่มุมเมรุ ไม่ใช่ตลาดสี่มุมเมืองแน่นอนทำเลที่ตั้งของตลาดแห่งนี้อยู่ที่ หมู่ 2 ตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของวัดบางสระเก้า ประวัติของตลาดแห่งนี้เล่าว่าในอดีตย้อนไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว

มีพ่อค้าแม่ค้าคู่หนึ่งมาตั้งโต๊ะขายบุหรี่อยู่บริเวณวัดบางสระเก้า การค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าคู่นี้ขายดีมาก ขายหมดเกือบทุกวัน ทำให้ชาวบ้านหรือผู้ที่ผ่านไปผ่านมาพบเจอและนำสินค้าของตนเองมาขายบ้าง ทำให้ร้านค้าเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ท่านเจ้าอาวาสวัดบางสระเก้าจึงให้มีการจัดระเบียบการวางขาย และตลาดสี่มุมเมรุจึงเกิดขึ้นนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

และจุดเด่นที่น่าสนใจคือการเป็นตลาดพื้นบ้านของชาวชุมชนตำบลบางสระเก้า พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนในชุมชน และมีพ่อค้าแม่ค้าขาจรบ้างที่ต้องการขายสินค้า ในปัจจุบันตลาดแห่งนี้อยู่ในความดูแลของวัดบางสระเก้า สินค้าที่มีจำหน่ายในตลาดสี่มุมเมรุส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าพื้นบ้าน เช่น กุ้งแห้ง กะปิ ทุเรียนทอด ปลา ปู กุ้งสดจากทะเล เป็นต้น

5.ตลาดชินตา

ภาพจาก goo.gl/ZDYRoL

หรือเรียกกันว่า CINTA GARDEN นั้นเองตั้งอยู่ที่ สามแยกพรศิริกุล ถนนรัษฎา อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 17.00 น. – 23.00 น. ตลาดแห่งนี้ถือว่าใหญ่มากน่าจะเป็นอันดับต้นๆของภาคใต้เลยก็ว่าได้ ตลาดชินตา

เป็นแหล่งเดินเล่นชิวๆ ช็อปปิ้ง และชิมอาหาร สัมผัสบรรยากาศผ่อนคลายยามค่ำคืน โดยอาคารจะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการตกแต่งอย่างทันสมัย มีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัวเป็นระเบียบเรียบร้อย และยังมีที่จอดรถอีกมากมาย

ในตัวตลาดจะมีการแบ่งเป็นโซนหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนร้านค้าที่อยู่ภายในอาคารตู้คอนเทนเนอร์ แบบชั้นเดียวและสองชั้นซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่กลางวันจนถึง 23.00 น. และ โซนขายอาหาร จัดไว้ประมาณ 5 แถว โซนช็อปิ้ง

จะเป็นของตกแต่ง เสื้อผ้า กระเป๋า จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่17.00 น. – 23.00 น. และนอกจากนี้มีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับจัดงานและกิจกรรมอื่นๆอีกมามายไม่ว่าจะเป็นงานอีเว้น การแสดงต่างๆอีกด้วย

จุดเด่นของตลาดชินตา หรือ CINTA GARDEN NIGHT MARKET คือ การตกแต่งที่ทันสมัยเหมาะสำหรับการเก็บภาพเป็นที่ระลึก บรรยายที่ชิวสบายแก่การพักผ่อน เป็นแหล่งรวมอาหารหลากหลายยามค่ำคืนที่ไม่ควรพลาดในราคาไม่แพง และมีการจัดสรรพื้นที่ โต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้าที่ได้ซื้ออาหารมานั่งทานได้อย่างสะดวกสบาย ถือได้ว่ารวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวกันได้อย่างเหมาะสมและลงตัวมากที่สุด

6.ตลาดนัดชิลล์วา

ภาพจาก goo.gl/JsVqHC

เป็นสไตล์ของตลาดนัดอยู่ที่ภูเก็ต โดยเน้นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสมดุล มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับลูกค้าที่มาเดินตลาด ตกแต่งด้วยบ่อน้ำและต้นไม้ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างดี นอกจากเป็นตลาดขึ้นชื่อแล้วยังถือเป็นจุดพักผ่อนของคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยซึ่งด้วยความสบายๆ ในการเดินก็น่าจะเป็นที่มาของชื่อตลาดนัดชิลล์วาแห่งนี้

ตลาดแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่มีร้านค้ามากกว่า 330 ร้าน โดยแบ่งเป็นโซนตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 56 ล็อค ซึ่งเปิดขายทุกวันและส่วนที่เป็นโซนตลาดนัด จะเปิดทำการวันพฤหัสบดี – เสาร์ สถานที่ตั้งของตลาดแห่งนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนบ้านสามกอง ถนนเยาวราช ในพื้นที่ก็รายล้อมไปด้วยสถานศึกษาและสถานที่ราชการจำนวนมากถือเป็นแหล่งชุมชนที่สำคัญและเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจและเป็นแหล่งการค้าที่สร้างกำไรได้อย่างดีอีกด้วย

7.ตลาดชากแง้ว

ภาพจาก goo.gl/cRVcBh

ถือเป็นตลาดจีนโบราณที่น่าสนใจมาก ชื่อของตลาดจีนโบราณบ้านชากแง้ว อาจจะเป็นตลาดที่ยังไม่ค่อยคุ้นหูและเป็นที่รู้จักมากนักแต่ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจคนที่ไปเที่ยวพัทยาหรือพื้นที่ใกล้เคียง ตลาดนี้เปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น

ประวัติของตลาดแห่งนี้หากย้อนไปในยุคเก่าแก่สมัยที่บ้านชากแง้วแห่งนี้มีกลุ่มคนไทยอาศัยอยู่และต่อมามีคนจีนโพ้นทะเล จีนแต้จิ๋ว อพยพย้ายเข้ามาอยู่บริเวณบ้านชากแง้ว อาชีพหลักๆ และเริ่มมีการตั้งโรงงานเกิดขึ้น

รวมถึงมีโรงหนังในยุคนั้นที่ชื่อว่า ชากแง้วราม่า จึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อตลาดมาถึงตอนนี้โดยสินค้าที่วางขายในตลาดจีนโบราณ ที่อำเภอบางละมุงแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นจำพวกของกินทั้งคาวและหวาน

รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆมากมายแน่นอนว่ามีกลิ่นอายของร้านค้าแบบจีนและสินค้าแปลกใหม่ที่น่าสนใจมาก รวมถึงใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบโบราณเขาก็มีบริการนั่งรถลากแบบจีนเพื่อพาไปยังศาลเจ้าแม่ทับทิมอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าหลายตลาดนั้นพยายามสร้างจุดเด่นให้ตัวเองดูน่าสนใจทั้งการบริหารจัดการตลาด การจัดพื้นที่ การเพิ่มสีสันต่าง ๆ ก็ถือเป็นการทำธุรกิจตลาดในยุคใหม่ที่จำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดต่างๆ มากขึ้นไม่ใช่แค่มีพื้นที่ปล่อยให้พ่อค้าแม่ค้าเช่า

แต่ตลาดยุคนี้ต้องทำให้ลูกค้าพึงพอใจได้มากที่สุดจึงจะประสบความสำเร็จได้อย่างดีซึ่งการตั้งชื่อก็เป็นหนึ่งในคอนเซปต์สำคัญที่เป็นก้าวแรกที่บอกลักษณะของตลาดในภาพรวมได้ในระดับหนึ่งทีเดียว

และสำหรับท่านใดที่กำลังมองหาทำเลค้าขายน่าสนใจเรามีรวบรวมทำเลค้าขายจำนวนมากไว้ให้ทุกท่านได้เลือกลงทุนกันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/75zSHs