6 เทคนิค ธุรกิจ SMEs ไม่กรอบ! ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

เป้าหมายของผู้ประกอบการ ธุรกิจ SMEs คือ ทำอย่างไรที่จะดำเนินธุรกิจให้ได้กำไร ซึ่งในยุคปัจจุบันการทำธุรกิจให้ได้กำไรนั้น แท้จริงแล้วกำไรที่ได้มาไม่ได้เกิดจากยอดขายเพียงอย่างเดียว

แต่คุณสามารถเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจ SMEs ได้ด้วยการลดความสูญเสียความสิ้นเปลืองที่เกิดขึ้นในธุรกิจ หรือในวงการอุตสาหกรรมเรียกว่า Lean Management เช่น ลดการใช้วัตถุดิบ แรงงาน และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป

ถือเป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการ เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจแล้ว ยังเป็นการสร้างกำไรให้กับธุรกิจได้ในระยะยาวอีกด้วย

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอนำเสนอวิธีการลดต้นทุน ที่จะไม่ทำให้ธุรกิจคุณด้อยคุณภาพลงแม้แต่น้อย แต่เป็นการปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน

1. บริหารเวลาการรอคอย

ธุรกิจ
เป็นการรอคอยที่เกิดจากพนักงานและเครื่องจักรหยุดทำงาน เรียกได้ว่าพนักงานไม่มีอะไรทำในช่วงเวลาหนึ่ง ปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับผู้ที่ปฏิบัติงานในสายการผลิตโดยตรง และแผนกสนับสนุน

ส่วนใหญ่เกิดจากการรองานไม่มา ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร เครื่องจักรเสีย แผนกกก่อนหน้าไม่เอางานมาส่ง วัตถุดิบขาด รอเอกสาร รอการตอบกลับ ยิ่งหากธุรกิจคุณต้องรอวัตถุดิบเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้เสียโอกาสในการแข่งขัน เพราะผลิตสินค้าออกมาไม่ทันเวลา

ดังนั้น การปัญหาอาจต้องวางแผนการทำงานให้เหมาะสม จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ วัตถุดิบให้พร้อมก่อนเริ่มงาน

2. บริหารความผิดพลาด

ww8
การทำงานที่ผิดพลาดของพนักงานในองค์กร จะทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรกรที่สิ้นเปลืองและยังทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงานด้วย เพราะต้องทำงานซ้ำแล้วซ้ำอีก

ดังนั้น คุณอาจจะต้องมีการวางระบบการทำงานให้มีความแม่นยำขึ้น หรือนำเอาเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำเข้ามาช่วยเหลือ หรือไม่ก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น เพราะพนักงานถือเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญในการพัฒนาองค์กร

3. บริหารกระบวนการขนส่ง

ww9
ถือว่ามีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ SMEs เพราะระบบการขนส่งก่อให้เกิดต้นทุนในการทำธุรกิจ ดังนั้น คุณจึงต้องควบคุมและลดระยะทางในการขนส่งให้เหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หรือไม่ก็ขนส่งสินค้าครั้งละจำนวนมากๆ วางแผนการขนส่งสินค้าไปในพื้นที่เป้าหมายโซนเดียวกัน เพื่อลดการขนส่งที่ทับซ้อนเส้นทางกัน

4. บริหารสต็อกสินค้า

ww10
ถ้าหากคุณทำการซื้อวัตถุดิบมาสต็อกจำนวนมากเกินไป จะส่งผลให้มีวัตถุดิบในสต็อกจำนวนมากเกินความต้องการ อีกทั้งยังต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง มีการจ้างพนักงานเพิ่ม

ยิ่งถ้าบางครั้งวัตถุดิบที่คุณสั่งมานั้นผลิตสินค้าออกมาแล้วตกยุค มีช่วงอายุสั้น ก็ทำให้เสียเงินไปเปล่าประโยชน์ ดังนั้น คุณต้องมีการวางแผนเรื่องการสั่งซื้อวัตถุดิบ และสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการผลิตและความต้องการของตลาด

5. บริหารกระบวนการผลิต

ww11
หากคุณทำการผลิตสินค้าที่มากเกินความต้องการของตลาด แน่นอนว่าจะทำให้เสียพื้นที่ในการจัดเก็บ เสียเวลาแรงงานในการเคลื่อนย้ายและขนส่ง อีกทั้งยังส่งผลต่อต้นทุนจมไปกับสินค้าที่เหลืออีกด้วย ดังนั้นคุณควรที่จะทำการศึกษาและวิเคราะห์ตลาดเสียก่อนว่า ในช่วงเวลานั้นมีความต้องการสินค้าและบริการนั้นมากน้อยแค่ไหน

รวมถึงอาจต้องทำการวิเคราะห์หาจุดบกพร่องในการปฏิบัติงาน และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้าน คน เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ วิธีการปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อม

6. บริหารทรัพยากรบุคคล

ww12
คุณอาจจะมองว่าการจัดคอร์สเทรนทักษะต่างๆ หรืออบรมสัมมนาพนักงานอาจดูเหมือนเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับองค์กร แต่ในความเป็นจริงหากทำสำเร็จแล้ว จะช่วยลดต้นทุนได้ไม่น้อยเลย นั่นเป็นเพราะด้วยจำนวนพนักงานเท่าเดิม

แต่หลังจากได้รับการฝึกอบรมแล้ว พนักงานเหล่านี้ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจมีแนวคิด หรือความสามารถต่างๆ ที่จะช่วยให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงมากขึ้นตามไปด้วย

พอจะมองเห็นภาพแล้วหรือยังครับว่า 6 เทคนิคการบริหารจัดการธุรกิจสามารถลดต้นทุนให้กับ SMEs ได้อย่างไรบ้าง อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินธุรกิจ ไม่ทำให้คุณภาพลด และนำมาซึ่งกำไรอย่างมหาศาลอีกด้วย เพียงคุณแค่ปรับเปลี่ยนแนวคิด ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ผลที่ได้รับเกินคุ้มมากสำหรับ SMEs

 

ขอบคุณรูปภาพจาก  freepik.com

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช