6 วิธีทำธุรกิจให้เป็นผู้นำ จากสไตล์การทำงานของ FedEx

การมีต้นแบบ ในการทำธุรกิจที่ดีย่อมทำให้โอกาสในการสำเร็จทางธุรกิจของเรานั้นเปิดกว้างขึ้นด้วย ข้อด้อยประการหนึ่งของนักลงทุนไทยคือความไม่ชัดเจนในแนวทางการทำธุรกิจและไม่มีรูปแบบในการทำงานที่หนักแน่นมากพอ ซึ่งการจะเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และสำเร็จเป็นที่ต้องการของลูกค้าได้ ต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่าความเชื่อใจไว้ใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่าเราคือสินค้าและบริการที่ดีสุดสำหรับพวกเขา

www.ThaiSMEsCenter.com มีตัวอย่างการทำธุรกิจระดับโลกอย่าง FedEx มาเป็นบทเรียนให้ศึกษา การทำงานของ FedEx นั้นชัดเจนถึงขนาดที่มีการเอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อว่า ว่า Cast Away ที่เป็นการสรุปแก่นแท้ของแบรนด์ FedEx ได้อย่างดี

ซึ่งทัศนคติในการทำงานอย่างมืออาชีพของ FedEx นี้ทำให้คนอเมริกันเองไม่รู้สึกว่าภาพยนตร์ดังกล่าวนั้นคือการโฆษณาเชียร์ FedEx แต่กลับรู้สึกว่านั้นคือความจริงที่ลูกค้าทุกคนรับรู้ได้ซึ่งแน่นอนว่าการก้าวมาถึงจุดที่ทุกคนเชื่อมั่นได้ในระดับสูงนี้ต้องมีสไตล์การทำงานที่แข็งแกร่งซึ่งก็พอสรุปเป็นใจความสำคัญไว้ได้ 6 ประการด้วยกัน

1.FedEx ธุรกิจบริการที่มีแนวทางการทำงานชัดเจน

การมีต้นแบบ

ภาพจาก goo.gl/nWFqXX

FedEx ตั้งขึ้นมาในปี 2514 เดิมทีชื่อว่า Federal Express ผู้ก่อตั้งคือ นายเฟร็ด สมิธ เฟร็ดมีแนวทางในการสร้างแบรนด์ของบริษัทที่ชัดเจนว่า “พัสดุทุกชิ้นต้องถึงมือลูกค้าก่อน 10.30 น ของวันรุ่งขึ้น” กลยุทธ์นี้นับว่าแหลมคมอย่างยิ่ง ลูกค้าสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า จะได้รับการบริการอย่างไรจาก Federal Express จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย

ถ้าเฟร็ดเลือกใช้แนวทางอย่างอื่น เหมือนที่บริษัททั่วไปที่ไม่เข้าใจเรื่องการสร้างแบรนด์อย่างถ่องแท้ใช้กัน เช่น “ส่งฉับไว ใส่ใจทุกคน” บริษัทคงไม่ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ เพราะสโลแกนอันหลังแม้จะฟังดูดี แต่ไม่มีอะไรให้ลูกค้าสามารถคาดหวังได้ชัดเจน ทั้งลูกค้าและบริษัทขาดเกณฑ์การประเมินว่า แค่ไหนถึงเรียกกว่าฉับไว? ขนาดไหนถึงจะเรียกว่าใส่ใจ?

2.การตั้งชื่อที่ชาญฉลาดให้คนจำติดปากได้ง่าย

ui3

ภาพจาก goo.gl/oQL98G

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้กิจการของบริษัทเติบโตขึ้นตามลำดับในเวลาเพียง 20 ปี จากธุรกิจรับส่งพัสดุชั่วข้ามคืนได้กลายเป็นธุรกิจขนส่งที่ให้บริการหลากหลายมีสาขาอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก เพราะลูกค้าจำนวนไม่น้อยในอเมริกาใช้ชื่อของบริษัทมาเป็นคำกิริยา เวลาต้องการส่งพัสดุ

ตัวอย่างประโยคที่ใช้บ่อยคือ ช่วย Fedex พัสดุนี้ให้หน่อยนะ บริษัทเองก็ฉลาดไม่น้อย พอรู้ว่า Fedex กลายเป็นชื่อติดปากลูกค้าไปแล้ว บริษัทเลยตัดสินใจเปลี่ยนชื่อจาก Federal Express ให้เหลือแค่ FedEx เพื่อใช้ประโยชน์โอกาสนี้ในการสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งขึ้น

3.ใช้ศาสตร์ทางจิตวิทยามาร่วมกับการตั้งชื่อแบรนด์

ui4

ภาพจาก goo.gl/kI7jXQ

อย่าคิดว่าชื่อแบรนด์เป็นเรื่องล้อเล่นหรือคิดว่าจะตั้งให้ง่าย จำง่ายเท่านั้น FedEx คิดมากกว่านั้น โดยบริษัทได้ว่าจ้าง Landor บริษัทที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์มาเป็นที่ปรึกษาโดย Landor ได้วางกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์

ด้วยการเล่นกับจิตใจของลูกค้าถึงสองขั้นคือการเปลี่ยนชื่อให้เหลือแค่ FedEx เพราะหากเอาชื่อเก่ากับชื่อใหม่มาเทียบกันแล้ว คำว่า FedEx ออกเสียงง่าย รวดเร็ว และน้ำเสียงจะหนักแน่นกว่าคำว่า Federal Express ซึ่งตามหลักจิตวิทยาการสร้างแบรนด์แล้ว ชื่อใหม่สะท้อนให้เห็นบุคลิกด้านความฉับไวในการให้บริการได้ดีกว่าเยอะ

นอกจากนี้ คำว่า Federal สำหรับชาวอเมริกาแล้วหมายถึง ประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อนี้จึงจำกัดขอบเขตการรับรู้ของลูกค้าว่า บริษัททำธุรกิจขนส่งในอเมริกาเท่านั้น การย่อให้เลือกแค่ Fed เป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของบริษัทไปโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย

4.ออกแบบโลโก้โดยคำนึงให้ผู้บริโภคจดจำและซึมซับได้อย่างไม่รู้ตัว

ui5

ภาพจาก goo.gl/U4AkVK

บริษัทที่ปรึกษาของ FedEx อย่าง Landor ได้ทำการออกแบบโลโก้ของ FedEx ซึ่งหากดูเผินๆ แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับตัวพิมพ์ภาษาอังกฤษทั่วไป แต่ถ้ามองดูคำว่า Ex ให้ดีๆ จะเห็นว่าช่องว่างระหว่างตัว E กับตัว x ถูกออกแบบมาให้เป็นลูกศร เพราะลูกศรเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนที่อย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งเข้ากันได้ดีกับธุรกิจการขนส่ง

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองไม่ออกทันที แต่สมองจะซึมซับสัญลักษณ์นี้เข้าไปโดยอัตโนมัติ เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์เข้าไปในจิตใจของลูกค้าโดยที่ลูกค้าเองไม่รู้ตัว และการเลือกสีม่วง

สำหรับคำว่า Fed และสีส้มสำหรับคำว่า Ex ช่วยเน้นจุดที่ตัว d เชื่อมกับตัว E การที่ตัว d พิงอยู่กับตัว E แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถึง พึ่งพาไปของบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสร้างแบรนด์ในตอนต้นของบริษัทที่เน้นว่า พัสดุถึงมือของลูกค้าก่อน 10.30 น ของวันรุ่งขึ้น

5.วัฒนธรรมองค์กรต้องมีความชัดเจน

ui6

ภาพจาก goo.gl/pvHpCk

วัฒนธรรมองค์กรของ FedEx เน้นชัดเจนในเรื่องการรักษาเวลาเป็นสิ่งสำคัญและต้องทำทุกอย่างเพื่อให้พัสดุถึงมือผู้รับภายในเวลาที่กำหนด วิธีการทำงานของพนักงานของบริษัทจึงต้องสอดคล้องกับแนวความคิดนั้นและเมื่อทียบกับตอนตั้งบริษัทที่มีพนักงานแค่ 359 คนกับเครื่องบินขนส่งขนาดเล็ก 14 ลำ พัสดุที่นำส่งในคืนแรกมีแค่186 ชิ้นเท่านั้น

ปัจจุบันนี้ FedEx มีพนักงานถึง 275,000 คนใน 220 ประเทศ แต่ละวันส่งพัสดุประมาณ 6.5 ล้านชิ้น มีเครื่องบินขนส่ง 672 ลำ รถส่งพัสดุไม่น้อยกว่า 70,000 คัน และมีศูนย์กระจายสินค้าถึง 9,000 แห่ง ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย

6.สร้างภาพลักษณ์ให้ธุรกิจเป็นที่พึ่งพาของลูกค้าได้

ui7

ภาพจาก goo.gl/sJj3tO

สิ่งที่ชัดเจนอีกประการของ ที่ FedEx คือการมีแบรนด์ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับธรรมชาติของธุรกิจ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ต้องมีความชัดเจน จนลูกค้าสามารถคาดหวังได้ว่าจะได้อะไรจากการซื้อสินค้าหรือบริการของเรา

ที่สำคัญกลยุทธ์นี้ ต้องรีบทำให้ลูกค้ารู้ให้ทั่วถึงเร็วที่สุดก่อนที่จะถูกลอกเลียนแบบและตอกย้ำให้ลูกค้าเห็นความสำคัญของแบรนด์ซึ่งกลยุทธ์นี้นำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นได้อีกเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะร้านอาหาร สถาบันการศึกษา ที่ควรทำให้ลูกค้ารู้ว่าความแตกต่างของธุรกิจเรากับคู่แข่งคืออะไร และเมื่อตัดสินใจใช้สินค้าหรือบริการจากเราจะได้อะไรที่เหนือกว่าคู่แข่ง

หัวใจสำคัญอันหนึ่งของการสร้างแบรนด์ คือ ต้องรู้ว่าลูกค้าคาดหวังอะไร แล้วเปลี่ยนความคาดหวังนั้นให้เป็นรูปธรรมสามารถเห็นได้ชัดเจน ด้วยการให้ข้อมูลกับลูกค้าอย่างชัดเจนว่า เขาจะคาดหวังอะไรจากแบรนด์ของเราได้บ้าง แล้วรักษาความคาดหวังนั้นไว้ให้ได้ หรือทำให้ได้ดีกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง หากทำได้แบบนี้ แบรนด์ของเราก็จะมีความชัดเจน มีจุดยืนในตลาดที่ชัดเจน เช่นเดียวกับ FedEx แบรนด์ด่วน ได้พัสดุก่อน 10.30 น.

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด