6 วิธีค้นหาตัวเองว่าควรเลือกเรียนอะไรดี

การเริ่มต้นที่ดี ทำให้เรามีโอกาสก้าวหน้ามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหลายคนกลับเลือกไม่ถูกว่าชีวิตนี้ควรจะเดินไปทางไหนดี การศึกษาในปัจจุบันมีหลากหลายแนวทางให้เราได้เลือกศึกษา

รวมถึงอาชีพต่างๆ ที่มีมากเหลือเกินจนบางทีเราก็ไม่รู้ว่าเราถนัดอะไรหรือชอบอะไร บางคนเลือกเรียนตามเพื่อนแต่สุดท้ายก็รู้ว่าตัวเองไม่ชอบซึ่งเป็นเรื่องที่เสียเวลามากดังนั้นหากเรารู้ว่าตัวเองชอบอะไรและอยากทำงานอะไรในอนาคตก็จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เราวางแผนในการใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

www.ThaiSMEsCenter.com มีแนวทางน่าสนใจสำหรับการค้นหาตัวเองว่าเราอยากเป็นอะไรหรือชอบเรียนอะไร โดยใช้การสังเกตตัวเองเป็นหลัก ความชอบของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันขอให้เราเลือกทำในสิ่งที่เราสนใจแม้จะเป็นความสามารถเล็กน้อยแต่ก็ทำให้เรามีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน

การเริ่มต้นที่ดี

ภาพจาก  goo.gl/MrrE77

1. เลือกและเรียงลำดับวิชาที่ชอบ

เนื้อหาและสาระวิชาที่เราชอบ หรือถนัด ช่วยบ่งชี้ไปถึงเส้นทางสายการเรียน หรือคณะที่เลือกในมหาวิทยาลัย หรืออาชีพที่เหมาะสมได้ เช่น ชอบสถิติ ต้องเรียนบัญชี ชอบดนตรี เล่นเป็นอยู่แล้ว เข้าคณะดุริยางคศิลป์เลย ชอบงานช่าง น่าจะเลือกเรียนคณะวิศวกรรม เป็นต้นดังนั้นการระบุไปเลยว่าชอบเนื้อหาตรงไหนในวิชานั้นๆ จะเน้นให้เราเข้าใจตนเองได้ชัดเจนขึ้น

2. สังเกตตัวเองเวลาว่าง

สังเกตตัวเองเวลาว่างว่าชอบทำอะไร มีงานอดิเรกอะไร หรืออยากจะไปทำอะไรตอนที่มีเวลาว่าง เช่น บางคนพอใกล้วันหยุด ต้องวางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัดทันที แปลว่า ชอบท่องเที่ยว อาจชอบอาชีพมัคคุเทศก์ หรือชอบไปตามที่ที่มีทิวทัศน์งาม หรือบางคนพอยามว่างต้องเข้าอินเทอร์เนต เล่นคอมพิวเตอร์ (ไม่ใช่เล่นเกมส์) ก็อาจจะมีความชอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอที ได้เช่นกัน

k57

ภาพจาก goo.gl/gV55Mi

3.ศึกษาอาชีพที่น่าสนใจ

อาชีพบนโลกเรานี้มีหลากหลาย ทำงานต่างกัน บางอาชีพเราอาจไม่รู้จักก็ได้ บางอาชีพชื่อแปลก ทำอะไรแปลกๆ เสียไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง แต่อาชีพเหล่านี้ อาจมีเนื้องานที่น่าสนใจและตลาดแรงงานอาจต้องการอย่างคาดไม่ถึงเชียว หรือบางทีอาชีพที่เราๆ อาจรู้จักกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไม่ได้ไปลองศึกษาให้รู้เนื้องานจริง แล้วเลือกเรียนไป

เราอาจไม่ชอบภายหลังก็ได้ ที่สำคัญแต่ละอาชีพมีแรงกดดันแตกต่างกันไป อาจไม่เข้ากับเราก็ได้ แต่เราไม่รู้ เช่น หมอ รู้ว่าเรียนยาก ต้องเก่ง ต้องเจอเลือด แต่เรากลับไม่เคยรู้เลยว่า การเป็นหมอต้องแบกรับความคาดหวังจากคนไข้และญาติคนไข้ หากเราไม่ศึกษาแต่ละอาชีพให้ดีอาจทำให้เราเลือกเดินทางที่ไม่ชอบแต่ก็แก้ตัวลำบากในอนาคต

4.สังเกตความถนัดของตัวเอง

เมื่อเราสังเกตและเห็นความถนัดที่ตัวเองมีแล้วก็นำความชอบและความถนัดนั้นมาเปรียบเทียบกับอาชีพต่างๆ บางคนอาจมีความสามารถในการจัดการเอกสารการทำรายงาน งานทางด้านฝ่ายบุคคลก็น่าสนใจ

หรือบางคนพูดไม่ค่อยเก่งแต่ลายมือสวยมากอาจต่อยอดในเรื่องการประดิษฐ์อักษรใช้ในคอมพิวเตอร์ได้ หรือบางคนชอบดูหนังฝรั่ง ฟังเพลงต่างประเทศก็อาจเอาดีทางด้านภาษาได้ ซึ่งการรับรู้ว่าตัวเองเป็นคนมีความสามารถอะไรสักอย่าง ทำให้เราเห็นคุณค่าในตนเอง และยังสามารถต่อยอดไปสู่อาชีพในอนาคตได้ด้วย

k56

ภาพจาก goo.gl/xq9ZAN

5.ใช้การสังเกตจากหนังสือที่ชอบอ่าน

วิธีแปลกอย่างไม่น่าเชื่อ แต่คนใช้ได้ก็ต้องอ่านหนังสือมากสักหน่อย ให้ดูแนวหนังสือที่ตัวเอง ว่าชอบเลือกหนังสืออย่างไร ชอบเพราะตัวละคร หรือชอบหนังสือแนวไหน ใครดำเนินเรื่อง

บางทีอาชีพของตัวละครที่เราชอบอาจเป็นอาชีพที่เราสนใจก็ได้ โดยปกติแล้ว เราจะสนใจหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนที่เราเคยอ่านและชอบมาก่อน ดังนั้น เนื้อหาหรือหนังสือที่เราเลือกก็จะมีแนวทางเดียวกัน เราอาจสืบตัวตนจากหนังสือที่เราก็ได้

6.ลองไปเปิดหูเปิดตาหาประสบการณ์เพื่อค้นพบตัวเอง

การเปิดหูเปิดตาหรือหาประสบการณ์นี้ไม่จำเป็นว่าต้องออกไปเที่ยวอย่างเดียว การหากิจกรรมโรงเรียนก็เป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง รวมถึงการเข้าค่ายอบรมต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นก็ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ดีได้เช่นกัน

ซึ่งหากเราได้ทำงานต่างๆ เหล่านี้ เราอาจชอบและทำได้ดีในอาชีพที่คล้ายคลึงกันก็ได้ เช่น ฝ่ายทำหนังสือโรงเรียน ทำงานคล้ายกับตำแหน่งบรรณาธิการหนังสือ ฝ่ายหาทุนของโรงเรียน นี่คืองานด้านการตลาดในอาชีพได้เช่นกัน

นอกจากนี้นักเรียนที่ใกล้จะจบมัธยมศึกษาตอนปลายอาจใช้วิธีเข้าไปหาพี่ในมหาวิทยาลัยที่มีการจัดค่ายอาชีพต่างๆเป็นแนวทางเช่นค่ายอยากเป็นหมอ ค่ายลานเกียร์ ค่ายอยากเป็นครู ฯลฯ ค่ายต่างๆเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่ทำให้เรารู้ตัวเองว่าชอบหรือสนใจในการเลือกเรียนคณะไหนเพื่อให้กำหนดทิศทางการเรียนและการทำงานได้อย่างถูกที่ถูกเวลามากที่สุด

ยิ่งในปัจจุบันการหาข้อมูลจากอินเทอร์เนตนั้นไม่ใช่เรื่องยากมีสาระข้อมูลมากมายให้เราได้สืบค้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการสัมผัสกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเพื่อให้มองเห็นในสิ่งที่ในตำราไม่มีหรือการสืบค้นข้อมูลนั้นหาไม่ได้ เด็กๆหลายคนมีความสามารถซ่อนในตัวเองแต่ไม่รู้ว่าจะดึงศักยภาพเหล่านั้นมาใช้อย่างไร วิธีเหล่านี้จึงเป็นแนวทางสำคัญที่จะทำให้รู้จักตัวเองได้มากขึ้นด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด