6 ขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจ Start Up ออนไลน์ให้ปัง!

ถ้าหากใครอยากจะ เริ่มต้นธุรกิจ ของตัวเอง โดยใช้เงินทุนน้อย แต่มีประสิทธิภาพสูง ให้มองไปที่ธุรกิจออนไลน์ก่อน เพราะธุรกิจออนไลน์เป็นช่องทางที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่

ที่ผ่านมาพบว่าสตาร์ทอัพจำนวนไม่น้อย เริ่มงานของพวกเขาจากเว็บไซต์และการทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่คุณจะเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพบนช่องทางออนไลน์

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีขั้นตอนกาเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพมาฝากคุณผู้อ่าน ผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยใช้เงินลงทุนไม่มากนัก แต่มีประสิทธิภาพสูง มาดูกันมาทำธุรกิจสตาร์อัพออนไลน์ ต้องเริ่มต้นอย่างไร

1.หาสิ่งที่ผู้คนต้องการ

w4

ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก แทบทุกวงการต่างก็ต้องการนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนเป็นจำนวนมากด้วย ดังนั้น สตาร์ทอัพที่อยากประสบความสำเร็จ จึงต้องมองหาสิ่งที่ผู้คนต้องการแล้วเติมเต็มด้วยไอเดียที่คุณมีอยู่

2.เขียนแผนดำเนินธุรกิจ

w3

Peter Thiel ร็อคสตาร์ผู้เป็นทั้งผู้ประกอบการ และนายทุน เคยกล่าวไว้ว่า “แผนแย่ ดีกว่าไม่มีแผนเลย” ดังนั้น ก่อนเริ่มธุรกิจทุกครั้ง ต้องมีการ เขียนแผนให้ชัดเจน เพื่อที่คุณจะได้รู้ถึงทิศทางการดำเนินไปของธุรกิจและสามารถกลับมาตรวจสอบข้อผิดพลาดในขั้นตอนต่างๆ ได้ โดยแผนธุรกิจประกอบด้วย

  • ผลิตภัณฑ์ของคุณช่วยแก้ปัญหาอะไร
  • ทำไมธุรกิจของคุณจึงเป็นผู้แก้ปัญหานั้นๆได้ดีที่สุด
  • คุณจะทำผลิตภัณฑ์หรือบริการนี้ให้ดีกว่าคู่แข่งได้อย่างไร
  • ใครที่จะร่วมเดินไปในเส้นทางธุรกิจนี้กับคุณด้วย
  • มีตัวชี้วัดอะไรที่คุณจะใช้ในการตรวจสอบไอเดียธุรกิจนี้ว่าดีพอหรือยัง

3.จดโดเมนเนมและเลือกแพลตฟอร์มของเว็บไซต์

w5

เลือกชื่อโดเมนที่จดจำง่าย ไม่ยาวมากเกินไป และเลือกแพลตฟอร์มของเว็บไซต์ที่เหมาะกับธุรกิจ หากต้องการแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและปรับแต่งได้ดีพอสมควร WordPress และ Blogger คือตัวเลือกที่ดี แต่หากธุรกิจของคุณเป็น ecommerce อาจเลือกแพลตฟอร์มอย่าง Magento,Wix หรือ Shopify

นอกจากนี้ การเลือกโฮสติ้งก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และไม่ล่มง่ายๆเมื่อมีผู้เข้าใช้งานจำนวนมาก ดังนั้นเลือกลงทุนในโฮสติ้งดีๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ

4.จดทะเบียนธุรกิจ

m

คุณสามารถเลือกรูปแบบการจดทะเบียน ได้ตามประเภทของธุรกิจที่จะทำ หากเป็นเจ้าของคนเดียว มีเงินทุนจำกัด อาจต้องเสียภาษีในจำนวนมาก และความน่าเชื่อถือของบริษัทค่อนข้างต่ำ

ดังนั้น อาจเลือกจดทะเบียนบริษัทแบบห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและบริษัทจำกัด ที่มีข้อดีคือสามารถระดมทุนได้มากขึ้น และมีตัวเลือกทางด้านภาษีดีกว่า อีกทั้งบริษัทยังมีความน่าเชื่อถือสูงกว่าบริษัทที่มีเจ้าของเพียงคนเดียวอีกด้วย

5.ทำตลาดออนไลน์

jjk

อย่ามองข้ามการตลาดออนไลน์ ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น ทั้งการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ที่ทำให้เว็บของคุณขึ้นอันดับแรกในผลการค้นหาจากเสิร์ชเอ็นจิ้น และสื่อ Social Media ที่เข้าถึงกันได้อย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อย่าง facebook และ twitter ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

6.จัดสรรเรื่องการเงิน

w2

ธุรกิจสตาร์ทอัพควรจัดสรรเงิน ที่ใช้ในการลงทุนให้รอบคอบ และต้องทำบัญชีให้ละเอียด ชี้แจงเหตุผลในการใช้เงิน เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างชัดเจน และสมเหตุสมผล อีกทั้งยังช่วยให้คุณสามารถมองเห็นรูรั่วของธุรกิจ และสามารถอุดช่องโหว่ได้ทันเวลา และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้อีกด้วย

ได้เห็นแล้วว่า การเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพ มีขั้นตอนอะไรบ้าง ใครที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยตัวเอง แต่ติดขัดเรื่องเงินลงทุน และอยากให้ธุรกิจเติบโตเร็ว ดังนั้น การทำธุรกิจสตาร์อัพออนไลน์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com
เริ่มต้นธุรกิจด้วยแฟรนไชส์  www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php


SMEs Tips

  1. หาสิ่งที่ผู้คนต้องการ
  2. เขียนแผนดำเนินธุรกิจ
  3. จดโดเมนเนมและเลือกแพลตฟอร์มของเว็บไซต์
  4. จดทะเบียนธุรกิจ
  5. ทำตลาดออนไลน์
  6. จัดสรรเรื่องการเงิน

ขอบคุณภาพจาก www.freepik.com

 

plann01

 

ท่านใดสนใจอยากให้ร่างสัญญาแฟรนไชส์โดยถูกต้องตามหลักกฎหมายแจ้งความประสงค์ได้ที่
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช